“ธนาธร” เข้าประชุม กมธ.กิจการกองทัพ แนะ โอนรายได้เข้าคลัง ปั้นกองทัพสมัยใหม่ เชื่อ ไม่ขัดแย้งกับทหาร เมินคนค้านนั่ง กมธ. ชี้ นั่งมาหลายคณะไม่เคยมีปัญหา
เมื่อเวลา 10.10 น. วันที่ 31 ม.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาแนวทางการถ่ายโอนธุรกิจของกองทัพไปอยู่ในความดูแลของหน่วยงานอื่นหรือย้ายไปสถานที่อื่นที่เหมาะสม ว่า กมธ.ชุดนี้มีเป้าหมายในการศึกษาทรัพย์สินที่อยู่ภายใต้การบริหารของกองทัพที่เกี่ยวกับการพาณิชย์ว่ามีอะไรบ้าง รวมถึงดูว่าจะมีอะไรสามารถถ่ายโอนกลับเข้ามาที่กระทรวงการคลัง
ทั้งนี้ เชื่อว่ากองทัพในปัจจุบันมีภารกิจที่ไม่ได้เกี่ยวข้องกับการป้องกันประเทศเยอะมาก ทั้งสนามกอล์ฟ โรงแรม และศูนย์ประชุมต่างๆ ซึ่งไม่เกี่ยวกับภารกิจหลัก จึงเห็นว่าควรถ่ายโอนรายได้เหล่านี้ไปให้กระทรวงการคลัง และทำให้กองทัพมีความเป็นสมัยใหม่
เมื่อถามว่าจะหาจุดสมดุลระหว่างการเมืองกับกองทัพอย่างไร นายธนาธร กล่าวว่า ต้องใช้กมธ.ในการสนทนากัน เพื่อหาทางออกที่ดีที่สุดให้กับประเทศ ส่วนจะเป็นความขัดแย้งเรื่องการเมืองและกองทัพหรือไม่นั้น ประวัติศาสตร์มีมาแล้ว ในอดีตกองทัพไม่มีงบประมาณ ขอก็ไม่ได้ กองทัพก็ขอทรัพย์สินบางส่วนไปบริหารเองเพื่อจัดเป็นสวัสดิการให้กับทหาร
แต่เวลาก็ผ่านมานานแล้ว หากกองทัพอยากมีสวัสดิการก็ต้องขอผ่านกลไกสภา เหมือนกระทรวงอื่นตามปกติ คิดว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะนำไปสู่ความขัดแย้ง การจัดสรรทรัพยากรเป็นเรื่องการเมืองอยู่แล้ว ดังนั้น จึงเป็นปัญหาการเมือง และเชื่อว่ากมธ.ชุดนี้ คงมีข้อสรุปที่เห็นร่วมกันได้
เมื่อถามกรณีมีการมองว่าการที่นายธนาธรนั่งกมธ.ชุดนี้ เป็นการปูทางกลับเข้าสู่การเมือง นายธนาธร กล่าวว่า ไม่หรอกครับ ทางพรรคก้าวไกลเห็นว่าตนติดตามเรื่องนี้มานาน จึงอยากให้มาช่วยนั่งในกมธ.ชุดนี้ ซึ่งตนก็ยินดี
เมื่อถามกรณีนายสนธิญา สวัสดี อดีตที่ปรึกษากมธ.การกฎหมาย ร้องต่อประธานสภาผู้แทนราษฎรว่านายธนาธรไม่เหมาะสมที่จะนั่งกมธ. นายธนาธร กล่าวว่า เป็นมาหลายกมธ.แล้ว ก็ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไร
ผู้สื่อข่าวถามว่ามองอย่างไรหากนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกกระทรวงกลาโหม นั่งประธานกมธ.ชุดนี้ นายธนาธร กล่าวว่า เชื่อว่านายจิรายุจะทำหน้าที่อย่างเป็นธรรม และไม่ติดขัดอะไร