ณัฐวุฒิ ห่วงใยปมขบวนเสด็จฯ วอนทุกฝ่ายอย่าใช้ความรุนแรง เห็นด้วย สส.จ่อยื่นญัตติด่วนถกในสภาฯ แนะตร.แจงข้อเท็จจริงเพิ่มปมจับนักข่าวประชาไท

เมื่อเวลา 10.55 น. วันที่ 13 ก.พ. ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ฐานะตัวแทนภาคประชาชน กล่าวกรณีกลุ่มทะลุวังป่วนขบวนเสด็จฯ จนนำมาสู่การใช้ความรุนแรงว่า

ข้อเท็จจริงของสังคมวันนี้ คือมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในหลายประเด็น ทั้งมิติการเมืองเศรษฐกิจ สังคม โดยเฉพาะทางการเมืองที่มีความเห็นที่แตกต่าง มีการต่อสู้กันทางความคิดมายาวนานในสังคมไทย เพียงแต่ประเด็นคือรูปแบบวิธีการแสดงออกจำเป็นที่จะต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย ข้อเท็จจริง เหตุผลและวุฒิภาวะ ในทัศนะส่วนตัวเห็นว่ากรณีที่เกิดขึ้นกับขบวนเสด็จฯ นั้นเป็นเรื่องที่น่าห่วงใยอย่างยิ่ง จะบอกว่าเห็นด้วยคงพูดไม่ได้ แต่หวังว่าผู้ที่เคลื่อนไหวต่อสู้ต่างๆ ต้องใช้วุฒิภาวะศึกษาเรียนรู้ เก็บประสบการณ์ เพื่อที่จะทำให้รูปแบบและวิธีการของแต่ละคนของแต่ละกลุ่มไม่เป็นเงื่อนไข ที่จะทำให้สถานการณ์อันไม่พึงประสงค์ลุกลามบานปลายออกไป

“การใช้ความรุนแรง การใช้กำลังของทุกฝ่ายเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้ และต้องเรียกร้องให้ทุกฝ่ายตั้งสติ ใช้เหตุผล อย่าใช้อารมณ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้กำลังในการแสดงออกหรือเอาชนะกันทางการเมือง เพราะสถานการณ์ดังกล่าวไม่นำผลบวกมาสู่บุคคล องค์กรหรือสถาบันใดๆ มีแต่จะทำให้สถานการณ์ตึงเครียดหรือเลวร้ายลง

ผมอยากให้ทุกอย่างเป็นเรื่องของเจ้าหน้าที่ เป็นเรื่องของกฎหมายบ้านเมืองและเป็นเรื่องของวุฒิภาวะของผู้คนในสังคม ที่จะวิเคราะห์ แยกแยะและทำความเข้าใจกับความคิดเห็นที่แตกต่างในการอยู่ร่วมกันได้ ทราบว่าจะมี สส.ยื่นญัตติด่วนเรื่องดังกล่าวนี้เข้าสู่ที่ประชุมสภาฯ ในวันที่ 14 ก.พ.นี้ ซึ่งก็เป็นสถาบันหลักแห่งหนึ่งที่ต้องมีการอภิปราย ขบคิดหาวิธีการระวังป้องกัน หรือแก้ไขปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้น” นายณัฐวุฒิ กล่าว

เมื่อถามว่าเรื่องนี้จะกลายเป็นน้ำผึ้งหยดเดียวได้หรือไม่ เนื่องจากสังคมส่วนใหญ่รับไม่ได้กับเรื่องที่เกิดขึ้น นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า อย่าให้เป็นถึงขนาดนั้นเพราะประวัติศาสตร์ของประเทศไทย เราบอบช้ำสูญเสียกับความขัดแย้งทางการเมืองมามากแล้ว แม้กรณีที่เกิดขึ้นจะนำความไม่พอใจมาสู่หลายคนหลายฝ่าย แต่เท่าที่ทราบมีการแสดงออกอย่างสันติวิธีหลากหลายรูปแบบ ซึ่งตนมองว่ายอมรับได้ สิ่งที่จะป้องกันระวังยับยั้งยังไม่ให้เกิดขึ้น คือการใช้ความรุนแรง ตราบใดที่ความคิดเห็นแตกต่างยังสามารถอยู่ร่วมกันในสังคม โดยไม่มีการประทุษร้ายต่อกัน ตนมองว่าอย่างมีความหวังสำหรับการเดินไปข้างหน้าของประชาธิปไตยแม้ว่าจะยากเย็นและยาวนานก็ตาม

เมื่อถามถึงกรณีตำรวจ สน.พระราชวัง จับกุมตัวผู้สื่อข่าวภาคสนามสำนักข่าวประชาไทและช่างภาพอิสระในข้อกล่าวหาว่า “เป็นผู้สนับสนุนทำให้โบราณสถานเสียหายจากการขีดเขียนข้อความ” นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้ไม่แน่ใจในรายละเอียดของกรณีดังกล่าว แต่หลักการและจุดยืนทุกสังคมเสรีภาพของสื่อมวลชนต้องได้รับการคุ้มครองโดยรัฐและกลไกของบ้านเมือง ตราบใดก็ตามที่สื่อมวลชนปฏิบัติหน้าที่ พวกเขาไม่ได้ถึงมีอภิสิทธิ์แต่มีสิทธิและเสรีภาพโดยชอบ ที่จะนำเสนอรายงานข้อเท็จจริง

แต่กรณีการควบคุมตัวสื่อมวลชนที่เกิดขึ้น เรายังมีข้อมูลน้อยมากจากฝ่ายเจ้าหน้าที่ว่าข้อเท็จจริงคืออะไร เหตุผลที่ไปที่มาของการจับกลุ่มในคราวนี้เป็นอย่างไร หวังใจว่าเพื่อให้สังคมคลายความกังวล และลดอุณหภูมิความร้อนแรงของสถานการณ์ในขณะนี้ เจ้าหน้าที่น่าจะมีคำอธิบายเพิ่มเติมว่ากรณีดังกล่าวเกิดขึ้นจากอะไร ข้อหาคืออะไร กระบวนการขั้นตอนดำเนินการถูกต้องชอบด้วยหลักนิติธรรมหรือไม่ คิดว่าในเร็วๆ นี้ควรจะมีคำอธิบายออกมา








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน