เวทีซักฟอกรัฐบาลส่อล้ม “ประธานวิปฝ่ายค้าน” เผยอาจไม่ยื่นซักฟอก-อภิปรายทั่วไป อ้างรัฐบาลเพิ่งทำงาน ยังไม่ใช้งบสักบาท โต้ไม่กล้า “ทักษิณ”

เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 27 ก.พ. 2567 ที่รัฐสภา นายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าในการยื่นญัตติอภิปรายรัฐบาล

โดยนายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า จากการพูดคุยอย่างเป็นทางการกับพรรคร่วมฝ่ายค้านเมื่อกลางเดือนที่ผ่านมา ค่อนข้างชัดเจนแล้วว่าสมาชิกวุฒิสภา (สว.) จะเปิดอภิปรายทั่วไปปลายเดือน มี.ค. และในช่วงใกล้เคียงกัน จะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2567 วาระ 2 ซึ่งดูจากไทม์ไลน์แล้วคิดว่า อาจจะยังไม่มีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจหรืออภิปรายทั่วไปในสมัยประชุมนี้

“ต้องบอกตามตรงว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจ โอกาสมีน้อยมากจริงๆ เพราะต้องยอมรับว่ารัฐบาลก็เพิ่งมา ยังไม่ได้ใช้งบประมาณที่ตนเองเป็นคนจัดทำเลยแม้แต่บาทเดียว มีงบประมาณจริงๆ ก็หลังจากเดือน พ.ค. ถึงจะใช้งบประมาณที่รัฐบาลจัดทำขึ้นมาเป็นครั้งแรก” นายปกรณ์วุฒิ กล่าว

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า ปลายเดือน พ.ค. ก็จะมีการพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2568 ตนคิดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ชัดเจนว่า ตกลงแล้ว รัฐบาลจัดสรรงบประมาณที่ตัวเองใช้อำนาจเต็มอย่างไรบ้าง และมีเวลาอยู่เกือบ 1 ปีในการจัดทำงบประมาณ 68 ว่ารูปร่างหน้าตาเป็นอย่างไร

ตนคิดว่าตอนนั้นข้อมูลทุกอย่างก็น่าจะค่อนข้างชัดเจนขึ้น ทั้งในเรื่องการดำเนินนโยบายเป็นไปตามที่หาเสียงไว้หรือไม่ และเป็นไปตามยุทธศาสตร์หรือวิสัยทัศน์ที่นายกรัฐมนตรีได้มอบหมายไว้หรือไม่ รวมถึงการทุจริตคอร์รัปชันต่างๆ ที่เราจะตรวจสอบอย่างเข้มข้นต่อไป

เมื่อถามว่ายืนยันแน่นอนว่าไม่เปิดอภิปรายใช่หรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ยืนยัน 100% แต่ต้องยอมรับว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจในช่วงนี้เป็นไปได้ยาก ส่วนการอภิปรายทั่วไป เราก็ยังพูดคุยกันอยู่ว่า ถ้ายังไม่มีเรื่องงบประมาณ ช่วงเวลาที่รัฐบาลทำงานอาจจะยังไม่ได้เยอะมากพอ หรือยังไม่มีประเด็นที่ใหญ่มากที่จะเปิดอภิปราย แต่หากมีประเด็น เราก็พร้อม

ทั้งนี้ ข้อมูลที่จะเปิดอภิปรายพอมีอยู่บ้าง แต่ต้องพูดคุยกับพรรคร่วมอื่นๆ ด้วยว่าเป็นประเด็นที่ใกล้เคียงกัน และเหมาะสมที่จะเปิดอภิปรายหรือไม่ มองว่าบางประเด็นก็สามารถใช้วิธีกระทู้สดถามในสภาได้








Advertisement

เมื่อถามว่าจำเป็นต้องเรื่องงบประมาณอย่างเดียวหรือไม่ เพราะมีเรื่องอื่นให้อภิปรายนอกเหนือจากการใช้งบด้วย นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนคิดว่างบประมาณเป็นเรื่องใหญ่ เราไม่อยากเป็นฝ่ายค้านที่หยิบยกประเด็นที่ไม่ได้สลักสำคัญกับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนมาพูดให้มันเป็นเรื่องใหญ่มากจนเกินไป

ตนคิดว่าเรื่องงบประมาณ การทุจริตคอร์รัปชัน เป็นหนึ่งเรื่องที่สำคัญมากที่เราจะต้องตรวจสอบ ถ้าเป็นประเด็นการเมือง แล้วเราใช้โควตาเปิดอภิปราย โดยที่อาจจะต้องเว้นว่างไปอีก เราก็อาจจะต้องคำนึงดีๆ

เมื่อถามว่าจะไม่เป็นการใจดีกับรัฐบาลเกินไปหรือไม่ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ถ้าเปิดแล้วไม่มีคุณภาพ ไม่เปิดดีกว่า เราใช้วาระทั่วไปเหมือนกระทู้สดที่ถามทุกสัปดาห์ก็ได้ ควรใช้เมื่อเหมาะสม และมีเนื้อหาสาระที่เป็นประโยชน์กับประชาชน

เมื่อถามถึงเรื่องนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกมองว่าฝ่ายค้านไม่กล้าแตะ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า ตนเพิ่งถามกระทู้ไป พรรคก้าวไกลถามไป 2 รอบแล้ว ตนคิดว่าไม่ใช่เรื่องที่เราใจดีหรือโอนอ่อนอะไร ยืนยันว่าไม่ใช่เรื่องตัวบุคคล เราต้องตั้งคำถามเรื่องของระบบว่าเป็นธรรมกับทุกคนจริงๆ หรือไม่

เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์เห็นตรงกันหรือไม่ เรื่องการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายปกรณ์วุฒิ กล่าวว่า เห็นค่อนข้างตรงกันว่า ถ้าเป็นเนื้อหาสาระที่มีประโยชน์และเป็นข้อมูลที่หนักแน่นแล้ว ก็พร้อมจะเปิดอภิปราย

ส่วนการไม่เปิดอภิปรายจะสะท้อนถึงเสถียรภาพของฝ่ายค้านหรือไม่นั้น นายปกรณ์วุฒิ ระบุว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านเราเห็นตรงกัน หากย้อนไปในฝ่ายค้านครั้งที่แล้ว การอภิปรายที่เป็นทางการจริงๆ คือปี 2564 ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจ

นายปกรณ์วุฒิ กล่าวต่อว่า เมื่อต้นปี 2563 เป็นการอภิปรายไม่ไว้วางใจคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งไม่ใช่เนื้อหาที่รัฐบาลปัจจุบันในขณะนั้นทำเสียทีเดียว มันคือผลพวงที่มาจากการรัฐบาลประยุทธ์ 1 ซึ่งต้องให้ความเป็นธรรม

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน