เศรษฐา แจงไม่ได้น้อยเนื้อต่ำใจ ทำงานมา 7 เดือนโดนซักฟอก ยันฝุ่นพิษลดลง 30-70% โต้ไม่ได้ดื่มไวน์เหตุป่วย ลั่นช่วยประชาชนเต็มที่แม้งบฯยังไม่ออก ยอมรับแก้หนี้นอกระบบยังไม่จบ

เมื่อวันที่ 25 มี.ค.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมวุฒิสภา มีนายศุภชัย สมเจริญ รองประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่เป็นประธานที่ประชุม พิจารณาการอภิปรายทั่วไปเพื่อให้คณะรัฐมนตรี (ครม.) แถลงข้อเท็จจริงหรือชี้แจงปัญหาสำคัญเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดินโดยไม่มีการลงมติ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 153

หลังจากนายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ผู้ริเริ่มเสนอญัตติ อภิปรายระบุ นายกฯต้องเป็นซีอีโอ ไม่ใช่เชลล์แมน ชี้ผลงานเด่นของรัฐบาลคือ ช่วยคนทำผิดไม่ต้องติดคุกสักวัน รวมถึงติติงเรื่องที่นายกฯ เดินสายไปต่างประเทศ มีเวลาไปเชียงใหม่ ไปกินอาหารกินไวน์ ทั้งที่ฝุ่นเต็มเมืองเชียงใหม่นั้น

ต่อมาเวลา 10.10 น. นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง ชี้แจงว่า รัฐบาลชุดนี้ รัฐมนตรีทุกคนให้เกียรติฝ่ายนิติบัญญัติ ถ้าฝ่ายนิติบัญญัติมีข้อสงสัย ข้อเสนอแนะตามรัฐธรรมนูญ รัฐบาลยินดีมาตอบด้วยความเต็มใจ ไม่เคยคิดว่า เหตุใด 8-9 ปี ไม่เคยเรียกอภิปรายในมาตรานี้ แต่รัฐบาลนี้มาแค่ 7 เดือน กลับเรียกมา เราทราบหน้าที่ดีว่าต้องทำตามรัฐธรรมนูญที่กำหนด ไม่เคยน้อยเนื้อต่ำใจที่ต้องมาทำงาน มาตอบให้ทุกคนมีความกระจ่าง

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า กรณีการเดินทางไปต่างประเทศหลายครั้ง เป็นเรื่องจำเป็น เช่น ประชุมอาเซียน หรือเป็นขนบธรรมเนียมประเพณีที่ผู้นำใหม่ต้องไปเยือนประเทศเพื่อนบ้าน เช่น สิงคโปร์ มาเลเซีย กัมพูชา ลาว ตนให้ความตระหนักดีถึงการใช้เวลาบริหารราชการแผ่นดินให้เกิดประโยชน์สูงสุด ปัจจุบันใช้เทคโนโลยีบริหารราชการ ติดต่อครม. ข้าราชการ โดยไม่จำเป็นต้องเจอกันตัวต่อตัว

ส่วนเรื่องฝุ่น แม้ยังมีอยู่ แต่ลดลง30-70% แล้วแต่พื้นที่ เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว อย่างการเดินทางไปจ.เชียงใหม่ ครั้งล่าสุดก่อนการประชุมครม.สัญจร จ.พะเยา ที่บอกว่าตนไปทานไวน์นั้น ยืนยันว่าไม่ได้ทานไวน์ เพราะไม่สบาย อาจจะสับสนเรื่องการตั้งแก้ว แต่ตนไม่ได้ทาน ตนให้ความสำคัญกับการลงพื้นที่

นายเศรษฐากล่าวว่า ส่วนเรื่องงบประมาณที่เพิ่งได้รับความเห็นชอบจากที่ประชุมสภาฯ ไม่ใช่ข้อแก้ตัวในการไม่ช่วยเหลือประชาชน แต่นโยบายหลักรัฐบาล ทั้งเรื่องการพักหนี้เกษตรกร นโยบายวีซ่าฟรีนักท่องเที่ยว เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจโดยไม่พึ่งงบประมาณ การช่วยเหลือเกษตรกร รัฐบาลให้ความสำคัญช่วยเหลือดูแล อย่างราคายางพาราที่สูงขึ้นเกือบกิโลกรัมละ 100 บาท มาจากรัฐบาลไปเปิดตลาดใหม่ การเข้มงวดการนำเข้า ทำให้ยางในประเทศมีราคาสูงขึ้น

เรื่องการลงทุนจากต่างประเทศนั้น รัฐบาลที่แล้วก็ทำงานไปบ้าง เรื่องใดทำงานมาดี เราก็ทำต่อ ไม่ได้ปัดตกทุกเรื่อง แต่การลงทุนเป็นแสนล้านบาท ต้องใช้เวลามากกว่า 7 เดือนในการตกลง ซึ่งในวันที่ 26 มี.ค. บีโอไอจะแถลงให้ทราบถึงความคืบหน้าในการไปเจรจาการลงทุน

“แม้งบประมาณยังไม่ได้ออกมา แต่ไม่ใช่ข้ออ้างการไม่ช่วยเหลือประชาชน แต่งบประมาณถือเป็นขีดจำกัดตัวหนึ่งทำให้ไม่สามารถผลักดันได้อย่างเต็มที่ในช่วงที่ผ่านมา ขณะที่เรื่องดิจิทัลวอลเล็ต ที่เป็นนโยบายใหญ่นั้น จะต้องฟังความเห็นทุกภาคส่วนมาประกอบ เพื่อให้ได้นโยบายดีที่สุด ในวันที่ 26 มี.ค. รมช.คลังจะแถลงถึงไทม์ไลน์การได้เห็นนโยบายตัวนี้อย่างเป็นรูปธรรม” นายเศรษฐา กล่าว

นายกฯกล่าวว่า ส่วนเรื่องหนี้นอกระบบที่สว.บอกยังไม่จบ เห็นด้วยว่ายังไม่จบ คนที่ไปกู้หนี้นอกระบบมีความลังเลไม่อยากมาเคลียร์ ทราบดีถึงปัญหานี้ จึงกำชับตำรวจไม่ให้คอยนั่งอยู่ที่โต๊ะ รอให้ประชาชนมาแจ้ง แต่เป็นหน้าที่ฝ่ายปกครอง ฝ่ายความมั่นคงต้องลงพื้นที่ ไปเรียกร้องให้ประชาชนมาแจ้ง เพื่อไม่ให้ถูกอำนาจมืดคุกคาม

ทราบถึงอัตราดอกเบี้ยที่ไม่เป็นธรรม รัฐบาลจึงให้ความสำคัญ มีการจัดการอย่างเป็นรูปธรรม ไม่ใช่แค่เฉพาะฝ่ายปกครอง แต่ให้ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย เข้าไปช่วยเหลือสนับสนุนเรื่องกระแสเงินสด การรีไฟแนนซ์ มีความคืบหน้า ตนรับฟัง และเห็นด้วยที่ปัญหาไม่ได้ถูกแก้อย่างบูรณาการ แต่อย่างน้อย 7เดือนก็มีความคืบหน้าเรื่องการบริหารจัดการ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน