“เศรษฐา” เมิน “บิ๊กโจ๊ก” ร้องเอาผิด ม.157 ปมพักราชการ-ตั้ง “บิ๊กต่อ” นั่งผบ.ตร. มั่นใจ ยึดตามกฎหมาย ยันเป็นธรรม ไม่ได้ลำเอียง-เอื้อประโยชน์ใคร

เมื่อเวลา 14.45 น. วันที่ 22 เม.ย. 2567 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์กรณี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (รองผบ.ตร.) ซึ่งอยู่ระหว่างถูกสั่งให้ออกจากราชการไว้ก่อน ยื่นคำร้องต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เอาผิดนายกฯ กรณีละเว้นปฏิบัติหน้าที่ หรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ ตามมาตรา 157 โดยย้อนไปตั้งแต่การตั้งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล เป็นผบ.ตร.

โดยนายกฯ กล่าวว่า ไม่ใช่เรื่องใหม่ เพราะเคยมีคนร้องไปแล้ว และครั้งนี้มาร้องซ้ำอีก แต่ตนมั่นใจว่าชี้แจงได้ และมีคำสั่งแต่งตั้งด้วยความเป็นธรรม ซึ่งกระบวนการแต่งตั้งมีกรรมวิธีการรับฟังความคิดเห็นทุกคนอย่างเป็นธรรม มีการพูดคุยกันในวงกว้าง ถึงจะมีการสรุป

ผู้สื่อถามว่า พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ร้องครั้งนี้ เพราะเป็นผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และไม่ได้เป็นผบ.ตร. เพราะนายกฯ แต่งตั้งพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ นายกฯ กล่าวว่า คะแนนการโหวตในวันประชุมคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ (ก.ตร.) ก็ชัดเจนแล้ว มีมติ 9 ต่อ 1 เป็นอะไรที่บ่งบอกชัดเจนว่า มีคนไม่ออกเสียง 1 คะแนน แต่นอกนั้นเป็นคนที่เลือกพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ เป็นผบ.ตร

เมื่อถามว่ามีการร้องไปจนถึงการมีคำสั่งให้ไปช่วยราชการสำนักนายกรัฐมนตรี และการให้ออกจากราชการไว้ก่อน นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นเรื่องที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เสนอมา และตนก็รับทราบเฉยๆ ที่จริงหากตนไม่ปฏิบัติตามก็จะถูกมาตรา 157 มากกว่า ขอย้ำว่ามั่นใจ เพราะทำตามกฎหมายทุกอย่าง และไม่ได้เข้าข้างใคร ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้ใครคนใดคนหนึ่ง

เมื่อถามว่าตั้งข้อสังเกตหรือไม่ว่าการแต่งตั้งโยกย้ายผ่านมานานแล้ว ทำไมถึงเพิ่งมีการร้อง นายเศรษฐา กล่าวว่า สงสัยอยู่เหมือนกัน แต่ไม่เป็นไร เพราะเชื่อว่าทำถูกต้องตามกฎหมายทุกอย่าง ไม่ได้กลั่นแกล้งใคร ไม่ได้ลำเอียงให้คนใดคนหนึ่ง ยึดเอาผลประโยชน์พี่น้องประชาชนเป็นที่ตั้ง

ผู้สื่อข่าวถามความคืบหน้าผลสอบของคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงและข้อกฎหมาย กรณีความขัดแย้งเรื่องคดีของบุคลากรภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ที่มีนายฉัตรชัย พรหมเลิศ อดีตปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นประธานกรรมการ ได้รายงานมาหรือยัง นายเศรษฐา กล่าวว่า ยัง ช่วงวันหยุดก็คุยกันอยู่

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า แต่เรื่องที่พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ถูกกล่าวหาเป็นคนละเรื่องกัน และเรื่องนี้ยังดำเนินการต่อไปเพื่อให้เกิดความเป็นธรรม ทั้งพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ และพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ไม่ได้เร่งของคนใดคนหนึ่ง และไม่ได้มีธงว่าใครต้องผิด ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม








Advertisement

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน