นายกฯ ตรวจล้งส่งออกทุเรียน โชว์แกะหนามดำ ยก “จันทบุรี เมืองหลวงผลไม้ฤดูร้อน สั่ง พณ.ห้ามทำทุเรียน-เงาะราคาตก ขู่งัดKPIวัดผลงาน ย้ำทุกหน่วยแก้ปัญหาขนส่ง-แหล่งน้ำ ช่วยเกษตรกร
27 เม.ย. 67 – ที่ บริษัท ดรากอน เฟรช ฟรุท จำกัด ตำบลมะขาม อำเภอมะขาม จังหวัดจันทบุรี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.การคลัง พร้อมคณะ ตรวจเยี่ยมโรงงานคัดบรรจุทุเรียนคุณภาพและการแปรรูปทุเรียน และเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์สินค้าทางการเกษตรและสินค้าแปรรูปคุณภาพ
โดยมี นายสัญชัย ปุรณะชัยคีรี นายกสมาคมผู้ค้าและส่งออกผลไม้ไทย รายงานสรุปการคัดบรรจุทุเรียนคุณภาพและการแปรรูปทุเรียน ต้อนรับและนำตรวจเยี่ยมชม ท่ามกลางประชาชนที่มามารอต้อนรับ
ซึ่ง นายกฯ แลกเปลี่ยนความเห็นกับตัวแทนภาคเอกชน ถึงวิธีการรับทุเรียนในพื้นที่ การส่งออก และได้สั่งการป้องกันลักลอบนำเข้าทุเรียนจากประเทศเพื่อนบ้าน และชมการสาธิตตรวจหาปริมาณแป้งในทุเรียนที่ต้องมีปริมาณ 32% โดย นายกฯและคณะ ได้ทดลองฉีกและชิมทุเรียนพันธุ์หนามดำ เนื้อนิ่ม รสชาติมันคล้ายพันธุ์มูซังคิงของมาเลเซีย ซึ่งเป็นที่นิยมของชาวจีน โดย นายกฯ กล่าวว่า “อร่อย”
จากนั้น นายกฯ เดินทางต่อไปที่ บ.เกาฟง จำกัด ต.เขาวัว อ.ท่าใหม่ ติดตามการคัดบรรจุทุเรียนคุณภาพและการแปรรูปทุเรียน และเยี่ยมชมผลิตภัณฑ์สินค้าทางการเกษตรและสินค้าแปรรูปคุณภาพ
โดยระหว่างที่นายกฯเดินเยี่ยมชมได้สอบถามถึงปัญหาการขนส่ง พบว่ามีปัญหาตู้หมุนเวียนไม่ทันกับผลผลิตที่เกินกว่ากำลังการขนส่ง แม้ขณะนี้จะขนส่งทางรถไฟ ทางรถ ทางเรือ และชมไลน์ผลิตบรรจุทุเรียนเพื่อส่งออก พร้อมหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปด้ก่อนเยี่ยมชมห้องเย็นไนโตรเจน สำหรับแช่แข็งทุเรียนที่มีตำหนิจากทั่วประเทศที่มาแปรรูป
เวลา 13.00 น. นายเศรษฐา ให้สัมภาษณ์ว่า การเดินทาง มาจ.จันทบุรี เพราะเป็นช่วงต้นฤดูของผลผลิตทุเรียนที่เป็นพืชเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ ที่มีพัฒนาการเก็บทุเรียน มีระบบล้ง และการจัดเก็บทุเรียนที่เป็นมืออาชีพ แต่ยังมีปัญหาอยู่บ้าง เช่น การเก็บทุเรียนอ่อน
ซึ่งการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) มีนวัตกรรมใหม่ ที่สามารถวัดได้ว่าทุเรียนอ่อนหรือทุเรียนแก่เป็นอย่างไร และได้จดลิขสิทธิ์กับกรมทรัพย์สินทางปัญญา กระทรวงพาณิชย์ แล้ว เราต้องระมัดระวังเรื่องนี้ ถ้าทำไม่ดีจะเสียชื่อเสียงประเทศ เราเป็นผู้ส่งออกรายใหญ่ให้ประเทศจีนที่มีประเทศเวียดนามเป็นคู่แข่ง อาจจะมีปัญหาเรื่องการลักลอบนำทุเรียนเข้าไทย และตนได้สั่งการอธิบดีกรมศุลกากร ที่มาลงพื้นที่ด้วยอย่าให้มีการลักลอบนำเข้าทุเรียนเกิดขึ้น
นายกฯ กล่าวว่า ส่วนเรื่องแหล่งน้ำได้สั่งการให้ สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ (สนทช.)กรมชลประทานกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ร่วมกันทำงานจัดหาแหล่งน้ำให้เพียงพอ รวมถึงปัญหาตู้คอนเทนเนอร์ขนส่ง ไม่เพียงพอจึงต้องหมุนเวียนตู้คอนเทนเนอร์เข้ามา เพราะทุเรียนมีเยอะ
รวมถึงเรื่องการจัดเก็บทุเรียนในห้องแช่แข็งที่ได้ไปดูมา คนที่แกะทุเรียนแล้วแช่แข็งได้รายได้วันละ 1,500 บาท หรือกิโลละ 5 บาท ถือเป็นแหล่งงานที่สำคัญ ที่ผู้ประกอบการให้ความเป็นธรรม ขณะที่การพัฒนาพันธุ์ทุเรียนก็เป็นเรื่องสำคัญ รัฐมนตรีและอธิบดีลงพื้นที่มาด้วย ได้ทราบปัญหาเช่นเดียวกับในพื้นที่ภาคใต้ โดยจะเริ่มแก้ปัญหาจากจ.จันทบุรี ที่เป็นจุดใหญ่เพราะเป็นเมืองหลวงผลไม้ฤดูร้อนของไทยก่อน
“ได้กำชับกระทรวงพาณิชย์ ให้ดูราคาไม่ให้ตกต่ำ พัฒนาตรงนี้ เพื่อจะพัฒนาต่อไปที่ภาคใต้ ที่มีผลไม้ เช่น เงาะ ที่มีชื่อเสียง ดังนั้นไม่ต้องเป็นห่วงเรื่องราคาผลไม้ จะถือเป็น KPI ของกระทรวงพาณิชย์ เพราะในอนาคต เงาะอาจจะมีปัญหาในเรื่องของราคา จึงกำชับกระทรวงพาณิชย์ ห้ามให้ราคาตกต่ำ“
ผู้สื่อข่าวถามถึงการลงพื้นที่ จ.ระยอง ชาวบ้านที่ทำการเกษตร และได้รับผลกระทบไฟไหม้โกดังเก็บสารเคมีอุตสาหกรรม อยากให้ นายกฯ ลงไปดูด้วย นายเศรษฐา กล่าวว่า วันนี้อธิบดีกรมวิชาการเกษตร มาลงพื้นที่ด้วย มาดูปัญหาเรื่องสภาพดินและสภาพน้ำ จะให้ความรู้กับเกษตรกร ส่วนเรื่องการเยียวยาเกษตรกรเป็นเรื่องปลายน้ำ ที่รัฐบาลจะสนับสนุนในเรื่องการแปรรูปสินค้าทางการเกษตรให้มากขึ้น ซึ่งอาจจะได้ราคามากกว่า
