ส่องโปรไฟล์ “ปานปรีย์ พหิทธานุกร” ดีกรีไม่ธรรมดา ครบเครื่องเศรษฐกิจ-ต่างประเทศ อดีตผู้แทนการค้า สมัยนายกฯ ทักษิณ อดีตบอร์ด ปตท. สมัยนายกฯ ยิ่งลักษณ์

กลายเป็นดราม่าที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวาง ภายหลังมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แต่งตั้งคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐา 1/1 ซึ่งมีการปรับเปลี่ยนหลายตำแหน่ง

เพียงไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนั้น นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รมว.ต่างประเทศ ได้ยื่นหนังสือขอลาออกจากตำแหน่ง รมว.ต่างประเทศ โดยยอมรับว่าสาเหตุที่ลาออก เพราะถูกปรับออกจากตำแหน่งรองนายกฯ

นายปานปรีย์ ถือว่ามีความคุ้นเคยกับกระทรวงการต่างประเทศเป็นอย่างมาก เพราะคุณปู่ พระพหิทธานุกร เคยเป็นปลัดกระทรวงต่างประเทศ และนายปรีชา พหิทธานุกร บิดา ก็เคยทำงานในกระทรวงต่างประเทศอีกด้วย

สำหรับประวัติของ ‘นายปานปรีย์ พหิทธานุกร’ มีชื่อเล่นว่า ‘ตั๊ก’ เกิดเมื่อวันที่ 20 ส.ค. 2500 อายุย่าง 67 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาตรี นิติศาสตรบัณฑิต จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย

ปริญญาโท รัฐประศาสนศาสตร์ มหาวิทยาลัยเซาเทิร์นแคลิฟอร์เนีย และปริญญาเอก การบริหารจัดการภาครัฐ Claremont Graduate University สหรัฐอเมริกา

สมรสกับ นางปวีณา พหิทธานุกร (สกุลเดิม หงษ์ประภาส) ซึ่งมีศักดิ์เป็นหลานตาของ พล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ และมีบุตรสาว คือ น.ส.ปัทมรัตน์ พหิทธานุกร

หลังจบการศึกษา นายปานปรีย์เริ่มทำงานที่สํานักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ทำหน้าที่วิเคราะห์นโยบาย และประสานงานในห้องประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในรัฐบาล พล.อ.เปรม ติณสูลานนท์ และรัฐบาลพล.อ.ชาติชาย ชุณหะวัณ

ในปี 2539 ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ด้านเศรษฐกิจและการต่างประเทศ ในรัฐบาลพล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ กระทั่งปี 2545 ได้เป็น สส.แบบบัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคชาติพัฒนา

ปี 2546 ดำรงตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงพาณิชย์ และหัวหน้าคณะเจรจาจัดทำเขตการค้าเสรี (ประเทศอินเดีย และกลุ่มประเทศ BIMST-EC)

ปี 2547 เป็นผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงอุตสาหกรรม มีบทบาทสำคัญในการวางแผน แก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ เพื่ออุตสาหกรรมในอีสเทิร์นซีบอร์ด จนเป็นผลสำเร็จ

ปี 2548 ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นผู้แทนการค้าไทย และประธานกรรมการองค์การคลังสินค้า ในสมัยรัฐบาลทักษิณ ชินวัตร

ปี 2551-2553 ดำรงตำแหน่งรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ และในปี 2556 ได้รับการแต่งตั้งเป็น ประธานกรรมการ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ในสมัยรัฐบาลของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร

กระทั่งการเลือกตั้งปี 2566 นายปานปรีย์กลับมามีบทบาทในพรรคเพื่อไทยอีกครั้ง โดยในการตั้งรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ได้ทาบทามให้มาเป็นรองนายกฯ ควบรมว.ต่างประเทศ

มอบหมายภาระหน้าที่ส่งเสริมความร่วมมือด้านเศรษฐกิจ และความร่วมมือเพื่อการพัฒนาระหว่างประเทศ เป็นหัวขบวนใหญ่การทูตคู่การค้าของรัฐบาล สร้างความสัมพันธ์กระชับไมตรีประเทศต่างๆ นำความเชื่อมั่นจากนานาชาติและเงินตราต่างประเทศเข้ามาสู่ประเทศไทย

กระทั่งเดือนเม.ย. ปี 2567 มีการปรับครม.เศรษฐา 1/1 ซึ่งนายปานปรีย์ถูกปรับออกจากตำแหน่งรองนายกฯ เหลือเพียง รมว.ต่างประเทศ ตำแหน่งเดียว ก่อนที่เจ้าตัวจะตัดสินใจยื่นลาออกจาก รมว.ต่างประเทศ ในที่สุด

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน