ปริเยศ ไทยสร้างไทย ชี้เกษตรกร เอสเอ็มอีทรุดหนัก หลังรัฐประกาศขึ้นค่าแรงก่อนคุยกับไตรภาคี อัดห่วงแต่ขายฝันนโยบาย หวั่นเศรษฐกิจทรุดเพิ่ม เอกชนลดคนงานแน่
วันที่ 8 พ.ค.2567 นายปริเยศ อังกูรกิตติ โฆษกพรรคไทยสร้างไทย กล่าวถึงการเร่งประชาสัมพันธ์นโยบาย ค่าแรง 400 บาทของรัฐบาลว่า การเร่งโปรโมตทั้งที่ยังไม่ได้ข้อสรุปที่ชัดเจน จะส่งผลกระทบโดยตรงต่อคนรากหญ้า เกษตรกร ธุรกิจขนาดเล็ก อาจรวมถึงภาคการท่องเที่ยวและบริการในช่วงโลว์ซีซั่นด้วย เพราะทราบกันดีว่า นายกรัฐมนตรีถูกบีบคั้นด้วยนโยบายที่หาเสียงไว้ตั้งแต่ช่วงเลือกตั้งว่าต้องทำให้ได้ จนรีบเร่งประชาสัมพันธ์นโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ
แม้นโยบายดังกล่าวจะช่วยให้ประชาชนมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่กลับเลือกประชาสัมพันธ์ก่อนที่จะหารือกับไตรภาคี และผู้ประกอบการ โดยเฉพาะผู้ประกอบการขนาดเล็กซึ่งมีแรงงานอยู่ในกลุ่มดังกล่าวกว่า 3 ล้านคน จากที่จะประชุมกันกลางเดือนนี้ แต่เมื่อรัฐบาลประกาศล่วงหน้า ยิ่งส่งผลให้เกิดแรงต้าน จนเป็นที่มาของการแถลงข่าวของสมาคมต่างๆ 52 สมาคม ได้ออกมาทักท้วงแสดงจุดยืนไม่เห็นด้วยกับแนวทางขึ้นค่าแรง ทำให้ขั้นตอนการดำเนินนโยบายอาจยิ่งช้าลงไปอีก แต่ผลกระทบเกิดขึ้นแล้ว
นายปริเยศ กล่าวว่า ตอนนี้ภาคธุรกิจขนาดเล็กหรือกลุ่มอาชีพเกษตรกรน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เนื่องจากต้นทุนนอกเหนือจากค่าแรงที่รัฐประชาสัมพันธ์ล่วงหน้าว่าจะขยับขึ้น ยังมีอีกหลายค่าใช้จ่ายที่ยังพุ่งไม่หยุด สวนทางกับรายได้ของพวกเขา อัตราการส่งออกลดลงต่อเนื่อง ทั้งสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูป ไม่รวมต้นทุนการปลูกการผลิตที่สูงขึ้นเรื่อยๆ จึงนับได้ว่าเป็นสถานการณ์ที่ไม่ดีเลย
นายปริเยศ กล่าวว่า ตนห่วงว่าการที่รัฐบาลยังไม่สามารถหาข้อสรุปเรื่องค่าแรงที่ชัดเจนได้จากไตรภาคี รวมถึงมาตรการช่วยเหลือประชาชนด้านพลังงานออกมาแบบประคับประคองสถานการณ์ด้วยการเอาเงินกองทุนน้ำมันไปอุดหนุนแบบนี้ ตนมองว่าเศรษฐกิจภาพรวมต่อจากนี้แย่แน่ เพราะเอกชนอาจเลือกลดต้นทุนทันทีด้วยการใช้วิธีลดคนงานที่ขาดทักษะออกก่อน เพราะค่าใช้จ่ายด้านอื่นๆ สูงขึ้นหมดทุกตัวและควบคุมได้ยากกว่าการลดคนงาน
“ส่วนธุรกิจด้านบริการ ช่วงนี้เป็นช่วงโลว์ซีซั่น คงจะเลิกจ้างงานอัตราสูงขึ้น ดังนั้น การที่รัฐบาลวางแผนการทำนโยบายรวมถึงการสื่อสารกับประชาชนแบบไม่มีระบบแบบนี้ ทำให้เอกชนจำเป็นต้องขยับตัวก่อนทันที ทั้งปรับราคาสินค้า บีบลดต้นทุนโดยเฉพาะกำลังคน ผลลัพธ์แบบนี้ย่อมทำให้ประชาชนตกอยู่ในภาวะรับเคราะห์อย่างมาก รัฐบาลจึงควรไตร่ตรองให้มากกว่านี้ในการประชาสัมพันธ์นโยบายที่ยังไม่ได้ข้อสรุป” โฆษกไทยสร้างไทยกล่าว