ปดิพัทธ์ เชื่อผลศาลวินิจฉัยคดียุบก้าวไกลพรุ่งนี้เป็นคุณ ยันกำลังใจยังดีมาก เผยไปปาร์ตี้พรรคเก่าแน่ ซัดพฤติกรรมรองโฆษกรัฐบาล ไร้มารยาทหรือไม่

เมื่อเวลา 09.10 น. วันที่ 6 ส.ค.2567 ที่รัฐสภา นายปดิพัทธ์ สันติภาดา รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 กล่าวถึงวิปฝ่ายค้านโดยพรรคก้าวไกล ได้หารือขอปรับเวลาในการประชุมสภาฯ พรุ่งนี้ (7ส.ค.) เนื่องจากศาลรัฐธรรมนูญมีนัดอ่านคำพิพากษาคดียุบพรรคก้าวไกลว่า เมื่อเช้านี้ได้ติดตามจากฝ่ายเลขาธิการสภาฯ ก็ยังไม่ได้เห็นเอกสารอย่างเป็นทางการ

แต่ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของประธานสภาฯ เพราะระเบียบวาระต่างๆ ยังต้องดำเนินต่อไป เราก็เข้าใจฝ่ายการเมืองว่าสมาชิกในการประชุมจะไม่ค่อยมี ถ้าเลิกประชุมหรือพักการประชุมได้ ก็อาจเป็นประโยชน์ก็ได้

ส่วนตัวตอนนี้กำลังใจยังดีมาก เพราะไม่ได้เตรียมตัวว่าจะอยู่นานเท่าไหร่ เรารู้ว่ารัฐธรรมนูญ 2560 มีความน่ากังวลหลายประเด็น โดยเฉพาะสถาบันนิติบัญญัติ หากประชาชนมีความกังวลว่าอำนาจล้นเกินของสถาบันอื่น มาทำให้สถาบันนิติบัญญัติ เช่น การเสนอกฎหมายของสภาฯ กว่าจะผ่านด้วยความยากเย็น มีทั้งสภาสูง และองค์กรอิสระ

รวมถึงความเข้มแข็งของฝ่ายค้าน ที่กังวลว่าจะทำให้สภาฯ 3 ปีข้างหน้าจากนี้จะไม่สง่างาม และส่งผลกระทบต่อการทำงานในอนาคตอีกด้วย ซึ่งไม่ใช่เรื่องส่วนตัวแต่อย่างใด

เมื่อถามว่าได้ประเมินสถานการณ์ และเตรียมแผนอย่างไรบ้าง นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า หากมองจากข้อต่อสู้ของพรรคก้าวไกล รวมถึงความคิดเห็นของนักวิชาการที่มีมาตรฐาน เชื่อว่าคำตัดสินน่าจะเป็นคุณ ซึ่งเราต้องเตรียมแผนไว้หลายฉากทัศน์ ตอนนี้ยังทำงานแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้นในวันพรุ่งนี้(7 ส.ค.) ก่อน แต่หากมีอะไรเกิดขึ้น เราพร้อมรับทุกสถานการณ์

ส่วนที่ดึงองค์กรต่างประเทศเข้ามาร่วมจับตาคดียุบพรรคก้าวไกล มีข้อห่วงกังวลอะไรที่จะส่งผลอะไรต่อประเทศในอนาคตหรือไม่ นายปดิพัทธ์ ระบุว่า เรื่องนี้ประชาชนก็รู้ดี หากเราปิดประเทศแบบเมียนมา และกัมพูชา เราคงไม่ต้องแคร์ต่างชาติ แต่ไทยเป็นประเทศเปิด และมีตัวตนในเวทีโลก ซึ่งเป็นไปไม่ได้ถ้าเราจะบอกว่า เราขอมีตัวตนในโลก แต่ไม่ให้โลกจับตามองประเทศไทยของเรา จึงต้องถามกลับว่าเรามีตัวตนอย่างไรในเวทีโลกมากกว่า

เมื่อถามว่ามีการติงว่าเป็นมารยาท ที่ต่างชาติไม่ควรแทรกแซง นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า สามารถวิจารณ์กันได้ โดยเมื่อวานนี้ (5ส.ค.) รองโฆษกรัฐบาลก็เผยแพร่ข่าวในเว็บไซต์ ซึ่งไม่แน่ใจว่าเป็นการไร้มารยาทหรือไม่ และเราควรที่จะพูดกันตรงๆ ว่า ถ้าเรายังปล่อยให้เป็นแบบนี้ เราก็จะได้รับการยอมรับจากทั้งใน และต่างประเทศ

เราอาจจะบอกว่าเราไม่แคร์ก็ได้ว่าต่างประเทศจะคิดกับเราอย่างไร แต่ส่วนตัวเห็นว่า ความพยายามที่เราจะมีตัวตนในโลก ต้องสอดคล้องกับการเป็นประชาธิปไตย ถ้าไม่มีความเป็นประชาธิปไตยก็ส่งผลต่อศักดิ์ศรีของสภาฯ และตัวตนของรัฐบาล

เมื่อถามว่าส่วนตัวจะเดินทางไปร่วมกิจกรรมที่พรรคก้าวไกล ด้วยหรือไม่ นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า แน่นอนว่าต้องไปหาเพื่อนอยู่แล้ว ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร หากตามที่นายชัยธวัช ตุลาธน สส.บัญชีรายชื่อ และหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้บอกไว้ว่า เราได้ปาร์ตี้แน่นอน ไม่ว่าผลจะเป็นบวกหรือลบ เพราะการที่เราได้ให้กำลังใจกันแล้ว การอยู่ด้วยกันในช่วงเวลาที่ยากลำบากเป็นคุณค่าที่เรายึดถือร่วมกันอยู่แล้ว

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน