ปปช. ชี้มูล อดีต นายกฯ อบต. เรียกรับเงิน 1.9 แสนบาท เข้ารับตำแหน่งบัญชี เหยื่อหลงเชื่อโอนเงิน แต่สุดท้ายพบว่าไม่มีเปิดรับสมัคร

วันที่ 27 ส.ค.2567 นายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่าคณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติชี้มูลความผิดคดีสำคัญกรณีเกี่ยวกับการกระทำความผิดต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ กรณีไต่สวนเบื้องต้นเพื่อดำเนินการไต่สวน กรณีกล่าวหา นายรังสรรค์ (สงวนนามสกุล) เมื่อครั้งดำรงตำแหน่งนายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.)โพธิ์ศรีสว่าง อ.โพนทอง จ.ร้อยเอ็ด ติดต่อเรียกรับเงินจากบุคคลที่ประสงค์จะเข้าทำงานที่องค์การบริหารส่วนตำบลโพธิ์ศรีสว่าง โดยมิชอบ

ข้อเท็จจริงจากการไต่สวนปรากฏว่า เมื่อวันที่ 21 ก.ค.2560 นายรังสรรค์ ดำรงตำแหน่งนายกอบต.โพธิ์ศรีสว่าง ติดต่อกับบุคคลซึ่งประสงค์จะให้บุตรสาวเข้าทำงานที่อบต.โพธิ์ศรีสว่าง โดยแจ้งว่าจะมีตำแหน่งงานบัญชีว่าง 1 อัตรา และเรียกรับเงินเป็นค่าใช้จ่ายในการดำเนินการเพื่อให้บุตรสาวของบุคคลดังกล่าวได้เข้าทำงานภายในเดือนต.ค. 2560 จนบุคคลดังกล่าวหลงเชื่อและมอบเงินให้แก่นายรังสรรค์ 3 ครั้ง รวม 190,000 บาท โดยที่ อบต.โพธิ์ศรีสว่าง ไม่มีการเปิดตำแหน่งตามที่นายรังสรรค์ กล่าวอ้างแต่อย่างใด

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่า การกระทำของ นายรังสรรค์ มีมูลความผิดทางอาญา ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปรามปรามการทุจริต พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 103 และมาตรา 122 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 128 และมาตรา 169)

ประกอบประกาศคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ เรื่อง หลักเกณฑ์การรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดโดยธรรมจรรยา ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ พ.ศ. 2543 มาตรา 123/1 และมาตรา 123/2 (ปัจจุบันเป็นความผิดตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 และมาตรา 173) และมีมูลความผิดตามพระราชบัญญัติสภาตำบลและองค์การบริหารส่วนตำบล พ.ศ. 2537 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 92

ให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์ และคำวินิจฉัย ไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดี และส่งสำนวนการไต่สวนและเอกสารหลักฐาน พร้อมความเห็นไปยังผู้มีอำนาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อพิจารณาดำเนินการตามหน้าที่และอำนาจ ตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) (2) และมาตรา 98 แล้วแต่กรณี

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน