สส.ปชน. ถามเก็บภาษีรถติด เพื่อเวนคืนรถไฟฟ้า กังขา เพื่อไทยหาเงินให้เอกชน-บริษัทนายทุน รมช.คมนาคม แจงนายกฯมอบคลังศึกษารูปแบบ ลั่นไม่ได้หาเงินให้ใคร
เมื่อเวลา 11.40 น. วันที่ 24 ต.ค.2567 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา ของนายศุภณัฐ มีนชัยนันท์ สส.กทม. พรรคประชาชน(ปชน.) เรื่องค่าธรรมเนียมรถติด หรือภาษีรถติด ถามนายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯและรมว.คมนาคม มอบหมายให้นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม เป็นผู้ชี้แจงแทน
นายศุภณัฐ กล่าวว่า ภาษีรถติดจุดประสงค์เพื่อแก้ปัญหารถติด โดยเก็บภาษีรถส่วนตัวเข้าพื้นที่การจราจรคับคั่ง ประเทศที่ทำกัน คือประเทศที่เจริญแล้วและมีระบบคมนาคมที่ดี เช่น สิงคโปร์ อังกฤษ อิตาลี สวีเดน และอเมริกา แต่ประเทศไทย ตนอยากทราบว่าการเก็บภาษีรถติด เพื่อต้องการนำภาษีที่เก็บได้ไปเวนคืนรถไฟฟ้า หรือเพื่อนำไปแก้ไขปัญหารถติด เพิ่มจำนวนประชาชนให้ใช้ระบบขนส่งมากขึ้น
การจะแก้ปัญหารถติด ต้องโฟกัสที่การแก้ไขปัญหารถเมล์ ซึ่งนายสุริยะ เคยให้สัมภาษณ์ว่าจะแก้ไขปัญหาระบบขนส่งมวลชนให้เสร็จภายใน 6 เดือน ก่อนจะมีการเก็บเงินและเวนคืนค่าสัมปทาน นอกจากนี้ยังมีปัญหาการเดินรถของเอกชนที่ไม่ครอบคลุมตามที่ทำสัมปทานไว้กับรัฐ จนประชาชนต้องตัดสินใจขึ้นรถแท็กซี่แทน จึงอยากถามว่ามั่นใจหรือไม่ว่าจะแก้ไขปัญหาได้สำเร็จ
“ทำไมกระทรวงคมนาคมภายใต้การดูแลของพรรคเพื่อไทย ดูทรงแล้วเหมือนหาเงินให้กับเอกชน บริษัทนายทุน ไม่ว่าจะเป็นบริษัทรถไฟฟ้า บริษัททางด่วน และอยากทราบว่าจะใช้ร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางราง ฉบับครม. หรือฉบับพรรคเพื่อไทย เป็นหลักในการพิจารณา” นายศุภณัฐ กล่าว
ด้านนายสุรพงษ์ ชี้แจงว่า จากสถิติวันนี้ มีรถจำนวน 3.9 แสนคันต่อวัน ที่วิ่งในพื้นที่คับคั่งของ กทม.นั้น ถือว่ามีจำนวนมาก ซึ่งการเกิดฝุ่นPM2.5 จากผลการศึกษาพบว่า ในกทม.มีสาเหตุหลักมาจากสันดาษของเครื่องยนต์ ฉะนั้น ถ้าจัดการระบบรถติดได้ ก็จะแก้ไขปัญหาฝุ่นได้เช่นกัน
รมช.คมนาคม กล่าวต่อว่า นายกฯสั่งการให้กระทรวงคมนาคมไปศึกษาหาวิธีการซื้อคืนรถไฟฟ้าทั้งหมดเป็นของรัฐ แบบสายสีแดง และจัดการเดินรถแบบโมเดลสายสีแดง ส่วนการเก็บภาษีรถติดยังเป็นแนวคิดและให้กระทรวงการคลังเป็นเจ้าภาพ ไปศึกษารูปแบบและวิธีการ หน่วยงานที่มีอำนาจจัดเก็บ วันนี้ยังไม่ใช่กระทรวงคมนาคม
ส่วนรถไฟฟ้าสายใดต้องจ่ายคืนเอกชนเท่าไหร่นั้น ก็จะรวบอยู่ในผลการศึกษาด้วย ซึ่งตนไม่แน่ใจว่าผลศึกษาจะออกเป็นอย่างไร ทั้งนี้ ยอมรับว่าขสมก. มีปัญหาจริง ซึ่งช่วงนี้เราอยู่ในขั้นตอนการปฏิรูป และยินดีที่จะเชิญนายศุภณัฐไปร่วมปฏิรูปด้วยกัน
“ไม่อยากให้มองว่าหาเงินให้ใคร แต่เรามาทำหน้าที่ ต้องหาผลประโยชน์ให้ประชาชน บ้านเมืองมีกฎหมาย องค์กรอิสระคอยจัดการเรื่องเหล่านี้ ไม่ต้องการให้ใครไปทำอะไรให้ใคร ซึ่งท่านก็ทราบอยู่แล้วว่าทำไม่ได้ ส่วนการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ขนส่งทางราง ที่ถามมานั้น เราจะใช้ร่างของครม.เป็นหลักในการพิจารณา” นายสุรพงษ์ กล่าว