ภูมิธรรม ต้อนรับทูตเกาหลี เข้าเยี่ยมสานสัมพันธ์ไทย-เกาหลี ครบรอบ 66 ปี
เมื่อวันที่ 13 พ.ย.67 ที่กระทรวงกลาโหม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ให้การต้อนรับ นายพัก ยงมิน เอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำไทย ในโอกาสเข้าแนะนำตัว และแสดงความยินดีในโอกาสได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม
นายภูมิธรรม กล่าวต้อนรับและยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้พบปะหารือและแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นเพื่อแสวงหาแนวทางในการส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกัน โดยที่ผ่านมาไทยและสาธารณรัฐเกาหลี มีความสัมพันธ์ทางการทูตยาวนานกว่า 66 ปี และมีการพัฒนาความร่วมมือด้านความมั่นคงมาอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม ได้แสดงความยินดีต่อการ ครบรอบ 35 ปี ความสัมพันธ์ระหว่างอาเซียนกับสาธารณรัฐเกาหลี ซึ่งจะมีการเฉลิมฉลองระหว่างการประชุม ADMM-Plus ใน 21 พ.ย.67 ณ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
ในโอกาสดังกล่าว รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม จะได้มีโอกาสพบกับรมว.กลาโหมสาธารณรัฐเกาหลีท่านใหม่ พร้อมแนะนำตัวในโอกาส เข้ารับตำแหน่งอีกด้วย และแสดงความยินดีกับสาธารณรัฐเกาหลีสำหรับความสำเร็จในการเป็นประธานร่วมในคณะทำงานผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคงทางไซเบอร์กับประเทศมาเลเซีย ในวงรอบ ปี 64 – 67 ซึ่งไทยพร้อมขับเคลื่อนความร่วมมือด้านความมั่นคงทางไซเบอร์และอุตสาหกรรมป้องกันประเทศกับสาธารณรัฐเกาหลีต่อไป พร้อมชื่นชมการพัฒนาอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของสาธารณรัฐเกาหลีที่มีศักยภาพสูง โดยไทยได้จัดหา อาวุธยุทโธปกรณ์ที่สำคัญ อาทิ กระสุนปืนเล็ก เรือฟริเกต (ร.ล.ภูมิพลอดุลยเดช) และเครื่องบินฝึกนักบินขับไล่ ขั้นต้นแบบ T-50TH ในการนี้ หวังว่าทั้งสองประเทศจะมีความร่วมมือกัน ในการบำรุงรักษาให้ยุทโธปกรณ์ดังกล่าว ให้มีความพร้อมรองรับการปฏิบัติภารกิจต่อไปในอนาคต
โดยเอกอัครราชทูตสาธารณรัฐเกาหลีประจำประเทศไทย ขอบคุณกองทัพไทยที่ได้ส่งกำลังเข้าร่วมรบในสงครามเกาหลี ซึ่งเป็นสิ่งที่ทางสาธารณรัฐเกาหลีไม่เคยลืม อีกทั้งให้ความสำคัญและสนับสนุนทหารผ่านศึกของไทยมาโดยตลอดผ่านการพบปะเยี่ยมเยียนอดีตทหารผ่านศึกสงครามเกาหลีที่ยังมีชีวิตอยู่ในภูมิภาคต่างๆ ของไทยอย่างต่อเนื่อง และที่สำคัญยิ่งคือการค้นหาและส่งกลับอัฐิของทหารที่เสียชีวิตในสงครามเกาหลีกลับมายังประเทศไทย กระทรวงกลาโหมขอขอบคุณรัฐบาลและประชาชนสาธารณรัฐเกาหลีที่ยังไม่ลืมวีรกรรมการรบของกำลังพล
กองทัพไทยกว่า 6,000 นายที่ถูกส่งไปร่วมรบ และอีก138 นายที่พลีชีพในสงครามดังกล่าว โดยการจัดสร้างอนุสาวรีย์เชิดชูวีรกรรมทหารไทยไว้ที่เมืองอึนชอนและจัดพิธีรำลึกเป็นประจำทุกปี ก่อนจบการหารือทั้ง 2 ประเทศ พร้อมขับเคลื่อนความร่วมมือด้านความมั่นคงในด้านต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ไทย – เกาหลี ให้ยั่งยืนต่อไป