11 เม.ย. จากกรณีเมื่องวันที่ 9 เม.ย. มี นิสิตจากจุฬาลงการณ์มหาวิทยาลัย จำนวนสามคน ชูป้าย “ชาวจุฬารักลุงตู่(เผด็จการ)” ประจันหน้า กับ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นากรัฐมนตรี และหัวหน้า คสช. ที่บริเวณสยามสแควร์วัน ซึ่งเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์เห็นเหตุการณ์ ได้สะกดอารมณ์ พร้อมหันไปพูดกับกลุ่มนิสิต และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยว่า “ปล่อยเขาไปเถอะ อย่าทำร้ายเขาเลย หากเขาไม่เข้าใจก็ปล่อยไป” พร้อมกล่าวย้ำว่า “ไปเถอะนะ คนเก่ง เยี่ยม เก่งมาก หากประเทศเสียหายก็ออกมาด้วยนะ” ก่อนเดินขึ้นรถกลับทำเนียบรัฐบาลทันที (อ่านข่าวเก่าได้ที่นี่)

ผู้สื่อข่าวได้สัมภาษณ์ “วิรัลพัชร รอดแก้ว” นิสิตชั้นปีที่3 คณะรัฐศาสตร์ จุฬาลกรณ์มหาวิทยาลัย หนึ่งในสี่ นศ. ที่ชูป้ายในวันนั้น ซึ่งเมื่อวานนี้ (10 เม.ย.) วิรัลพัชร ได้โพสต์ลงในเฟซบุ๊กส่วนตัว ระุบว่า “วันนี้มีตำรวจ 2 คนไปคุยกับแม่ที่บ้าน”

 

โดย “วิรัลพัชร รอดแก้ว” ได้เล่าถึงนาทีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปคุยกับแม่ที่บ้าน โดยระบุว่า “วันนี้ (10เม.ย.) เวลาประมาณ 14.00 น. แม่โทรมาบอกว่ามีตำรวจนอกเครื่องแบบ 2 คนมาที่บ้าน บอกว่ามาจากหน่วยลับ ไม่มีการแสดงหมายศาล เพียงแค่แสดงบัตรเจ้าหน้าที่ มาพูดคุยถามข้อมูลเกี่ยวกับเราและครอบครัว พยายามถามถึงความชื่อมโยงของเรากับพรรคการเมืองและกลุ่มสนับสนุนพรรคการเมือง หาคนอยู่เบื้องหลัง และได้มีการขอเบอร์โทรศัพท์ของเรากับแม่ไป แม่เราพยายามจะขอชื่อและถ่ายรูป แต่เจ้าหน้าที่ไม่ให้ ให้ไว้เพียงเบอร์โทรศัพท์ที่ติดต่อไม่ได้ ทั้งยังมีการบอกว่าไม่ให้ไปร่วมการชุมนุมหรือแสดงออกที่ไหนอีกในช่วงนี้

ขอบคุณภาพจาก : Wiranpat Rodkaew

วิรัลพัชร ยังกล่าวต่ออีกว่า “การกระทำเช่นนี้คือการคุกคาม เพราะเรามั่นใจว่าเราไม่ได้ทำอะไรผิด ไม่มีการละเมิดกฎหมายหรือคำสั่งคสช.ใดๆ ไม่มีเหตุผลใดที่ตำรวจจะต้องมาบุกถึงบ้านและขอข้อมูลไป อีกทั้งคำเตือน(ข่มขู่)ที่เจ้าหน้าที่ให้ไว้ยังแสดงให้เห็นถึงจุดประสงค์ของการมาอย่างชัดเจนว่าต้องการที่จะจำกัดสิทธิเสรีภาพในการแสดงออก หรือการชุมนุมของเรา เราไม่เข้าใจว่ารัฐนี้ปฏิบัติต่อคนไม่ได้ทำผิดกฎหมายแบบนี้ได้ด้วยหรือ นี่มันอำนาจอะไร ระบุอยู่ในส่วนไหนของกฎหมาย ไม่เคยทราบ”

  • เมื่อถาม วิรัลพัชรว่า “ทำไมต้องใช้คำว่าเรารักลูงตู่(เผด็จการ)”

“เหตุผลที่พวกเราใช้คำว่ารักลุงตู่ (เผด็จการ) เพราะมันเป็นคำที่แสดงให้เห็นถึงท่าทีของผู้บริหารจุฬาที่มีต่อรัฐบาลนี้มาโดยตลอดตั้งแต่แรกเริ่มจนถึงปัจจุบัน แม้ว่าตลอดระยะเวลาทั้ง 4 ปี ที่คสช.เข้ายึดอำนาจจะมีการคุกคามสิทธิเสรีภาพของประชาชน และกระทำการอันผิดหลักการนิติรัฐ นิติธรรม มากแค่ไหน ชาวจุฬาฯ ก็ยังคงรักและปิติยินดีที่ได้ต้อนรับพลเอกประยุทธ์เสมอ ดังนั้น คำนี้จึงเป็นคำที่เหมาะสมที่สุดในการอธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อวาน แต่เราในฐานะนิสิตจุฬาฯ คนหนึ่งก็เพียงแค่อยากที่แสดงออกว่าไม่ใช่ทุกคนที่จะเห็นด้วยกับการเชิญพลเอกประยุทธ์มามหาวิทยาลัยเราในครั้งนี้ และไม่ใช่ชาวจุฬาฯทุกคน ที่จะยอมจำนนต่ออำนาจจากปลายกระบอกปืน” วิรัลพัชร กล่าวตอบ

  • เมื่อถาม วิรัลพัชรว่า “อยากฝากอะไรถึงลุงตู่?”

วิรัลพัชรตอบว่า “อยากบอกกับลุงตู่ว่า สิ่งที่คุณต้องการ โลกในอุดมคติของคุณมันไม่เหมาะสมและเอื้อต่อการพัฒนาประเทศในยุคสมัยนี้อีกต่อไปแล้ว ถ้ารักประเทศจริงอย่าดึงประเทศเราให้ถอยหลังลงคลอง ยิ่งคุณอยู่นานประเทศชาติยิ่งแย่ ยิ่งเสียหาย ปัญหามากมายที่คุณกำลังสร้างในวันนี้ไม่รู้ว่ารุ่นลูกรุ่นหลานจะต้องใช้เวลาอีกกี่ปีกว่าจะแก้ไขได้ วันนี้คุณมีปืน คุณมีกฎหมายที่ใช้ได้ตามอำเภอใจ”

“คุณจะชี้นิ้วสั่งอะไรหรือกดหัวใครก็ได้ แต่พึ่งระลึกไว้เสมอว่าอำนาจนี้ไม่ใช่ของคุณ ประชาชนผู้เป็นเจ้าของอำนาจเขารอวันเอาคืนอยู่” วิรัลพัชร กล่าวปิดท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน