วันนอร์ ชี้ ข่าวดีปีใหม่ สภาเดินหน้าถกแก้รัฐธรรมนูญ 14-15 ม.ค.นี้ หวังได้รธน.ฉบับใหม่ ทันเลือกตั้งปี 70 แต่อย่าลืม บรรจุวาระไม่ได้หมายความว่าผ่าน
เมื่อวันที่ 25 ธ.ค. 2567 ที่รัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กล่าวถึงการพิจารณาร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ว่า ได้คุยกับวิป 3 ฝ่ายไปแล้วว่า เรามีร่างรัฐธรรมนูญที่แก้รายมาตรา 17 ฉบับ และยังมีร่างที่แก้ทั้งฉบับของพรรคประชาชน (ปชน.) โดยนายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาชน ที่เสนอแก้ไขมาตรา 256 และหมวด 15/1 เพื่อมีสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.)
ซึ่งคณะกรรมการฝ่ายกฎหมายของประธานสภาฯ พิจารณาแล้ว และมีความเห็นให้ส่งมายังตน เพื่อบรรจุเข้าระเบียบวาระ แต่ตนขอดูรายละเอียด โดยอาจจะมีร่างแก้ไขของพรรคการเมืองอื่น เราจะพิจารณาไปพร้อมกับร่างแก้ไขรายมาตรา ในวันที่ 14-15 ม.ค. 68 ทั้งนี้ ในวันที่ 8 ม.ค. จะเชิญวิป 3 ฝ่าย รวมถึงผู้แทนจากรัฐบาลหารืออีกครั้งว่า จะหยิบยกฉบับใดขึ้นมาพิจารณาก่อน
นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวต่อว่า สำหรับกรณีที่ตนเคยกังวลเรื่องการทำประชามติ 2 ครั้งอาจจะทำให้เกิดความเสี่ยงหากมีผู้นำไปร้องศาลรัฐธรรมนูญนั้น ร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หากความเห็นของประธานสอดคล้องคณะกรรมการด้านกฎหมายแล้วก็จะบรรจุวาระ ซึ่งการทำประชามติเพียง 2 ครั้ง เชื่อว่าน่าจะเดินหน้าไปได้ และหวังว่าจะไม่มีใครนำเรื่องไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ
“ไม่ว่าจะทำประชามติกี่ครั้ง การจะผ่านร่างแก้ไขต้องเป็นมติที่ประชุมร่วมรัฐสภา และต้องได้รับเสียงเห็นชอบ 1 ใน 3 จากวุฒิสภา ตั้งแต่ด่านแรก เมื่อผ่านแล้วต้องนำไปทำประชามติ แล้วไปยกร่างรัฐธรรมนูญ และเมื่อทำเสร็จก็ต้องนำกลับไปทำประชามติถามประชาชนอีกครั้งหนึ่ง
ดังนั้น จะทันสภาชุดนี้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับคณะทำงาน แต่ประชาชนอยากให้การยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่เสร็จทันในการเลือกตั้งปี 70 ซึ่งผมก็หวังเช่นนั้น แต่ต้องไม่ลืมว่าการได้บรรจุเข้าสู่การพิจารณา ไม่ใช่หมายความว่าจะผ่านการพิจารณา แต่ต้องเป็นไปตามขั้นตอน” นายวันมูหะกมัดนอร์ กล่าว
เมื่อถามว่าหากมีคนไปยื่นตีความจะสะดุดหยุดลงหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวว่า เราไม่ทราบว่าจะมีคนยื่นหรือไม่ หรือถ้ายื่นแล้วก็ไม่ทราบว่าศาลจะรับหรือไม่ อาจไม่รับก็ได้ หรือถ้ารับแล้วก็ไม่ทราบว่าคำวินิจฉัยจะเป็นเช่นใด
ดังนั้น ขึ้นอยู่กับสถานการณ์วันข้างหน้า แต่ถ้าปล่อยไว้ไม่ได้เข้าสู่วาระหรือไม่ได้พิจารณาเลยประชาชนจะรู้สึกเสียดายที่รอมาหลายปี และไม่ได้ขยับเดินไปข้างหน้า ดังนั้น การบรรจุเข้าระเบียบวาระ อย่างน้อยก็จะทำให้สามารถพิจารณาได้ในวันที่ 14-15 ม.ค.นี้ ถือเป็นข่าวดีในช่วงปีใหม่สำหรับประชาชน