ทวี ขึงขัง “ยิ่งลักษณ์” ไม่เข้าเกณฑ์ขังนอกเรือนจำ ชี้โทษสูงกว่า 4 ปี ลั่นอย่าไปกลัวเมื่อให้ความเป็นธรรมและให้สิทธิคนโดน ม.112

วันที่ 7 ม.ค.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงความคืบหน้าการจำคุกนอกเรือนจำ ที่กรมราชทัณฑ์เตรียมบังคับใช้ในเดือนม.ค.นี้ ว่า ปัจจุบันคณะกรรมการที่ดูแลเรื่องนี้กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งเป็นอำนาจของกรมราชทัณฑ์ โดยหลังจากรับฟังความเห็นแล้ว อธิบดีกรมราชทัณฑ์ก็ต้องเอาผลไปพิจารณาให้ละเอียด เพราะอาจยังมีบางคนที่กังวลใจ

ขณะนี้รับทราบว่ามีการประชุมกันอยู่ ส่วนใหญ่ตามหลักการก็เห็นด้วย เพียงแต่มีรายละเอียด เช่น ค่าสาธารณูปโภค ถ้าไปอยู่ในที่คุมขังที่เป็นสถานที่ราชการจะดำเนินการอย่างไร หรือค่ากล้องวงจรปิดที่ต้องรายงานตัว หรือการติดกำไลอีเอ็มที่ต้องไปผูกอยู่กับงบประมาณ ซึ่งค่าใช้จ่ายเหล่านี้เป็นไปตามระเบียบที่ระบุอยู่แล้ว ซึ่งนำไปสู่การปฏิบัติของกรมราชทัณฑ์

ทั้งนี้ ได้มีการจำแนกผู้ต้องราชทัณฑ์ พัฒนาพฤตินิสัย ให้เอาหลักวิชาการมาใช้มากที่สุด เราอยากให้ราชทัณฑ์เป็นสถานที่ฟื้นฟู ได้มีชีวิตใหม่ ออกมาอยู่ในสังคมได้อีกครั้ง

ส่วนข้อกังวลอื่นๆ ในเรื่องการรับฟังความเห็นนั้น พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ให้คณะกรรมการเป็นผู้ดำเนินการเพราะเป็นเรื่องภายใน แต่มีประชาชนสนใจมากและมองว่าจะออกมาเพื่อคนใดคนหนึ่ง แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยว เราไม่เอาตัวคนใดคนหนึ่งมาตั้ง เพราะประเทศเราเรือนจำมีความแออัดมาก ทุกวันนี้ก็ถูกกล่าวหาว่าละเมิดสิทธิอยู่แล้ว ซึ่งจากนี้เราจะมีที่คุมขังไม่ว่าจะเป็นหน่วยราชการ หน่วยเอกชนที่เป็นที่คุมขัง ซึ่งจะเป็นการแก้ไขปัญหาด้วยหลักนิติธรรมอย่างแท้จริง ไม่มีว่าเอามาช่วยเหลือคนนั้นคนนี้เด็ดขาด

ส่วนกรณีที่คุมขังเป็นบ้านพักส่วนตัว ก็มีระเบียบอยู่แล้ว และยิ่งจะถูกควบคุมมากด้วยซ้ำ และต้องดูว่าค่าใช้จ่ายในเรื่องการติดตั้งกล้องวงจรปิดของกรมราชทัณฑ์กับบ้านพักส่วนตัว ระบบจะเป็นอย่างไร และเราจะมีเจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ไปดูแลด้วย

สำหรับ 4 กลุ่มคนที่จะได้รับการพิจารณา เข้าเกณฑ์จำคุกนอกเรือนจำ ประกอบด้วย

1.กลุ่มที่ได้รับการจำแนก

2.กลุ่มที่ต้องได้รับการพิจารณาพฤตินิสัย

3.กลุ่มเตรียมความพร้อมก่อนปล่อย

4.กลุ่มผู้ต้องขังเจ็บป่วย

โดย 4 กลุ่มนี้ จะผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการตั้งแต่ระดับเรือนจำ ระดับอธิบดีกรมราชทัณฑ์ ซึ่งตนให้นโยบายไปว่าไม่อยากให้ใช้ดุลพินิจมาก ให้ใช้หลักเกณฑ์เพราะถือเป็นกติการ่วมกัน อีกทั้งยังได้จากการรับฟังความเห็น ที่ทุกคนเห็นด้วยในหลักการทั้งหมด และข้อเสนอแนะบางอย่างก็จะนำเข้าไปเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยไม่ต้องผ่านการพิจารณารัฐมนตรี

แต่ในฐานะของคณะกรรมการกรมราชทัณฑ์ ที่มีคณะกรรมการชุดหนึ่งซึ่งมีตนเป็นประธาน รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง เช่น ปลัดกระทรวงยุติธรรม ผู้พิพากษา ตำรวจ อัยการ เราก็ต้องดูให้มีการบริหารเป็นไปตามเจตนารมณ์ของกฎหมายราชทัณฑ์ ซึ่งเราคำนึงถึงให้เกิดความสมดุล

ส่วนกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี หากเดินทางกลับไทยจะเข้าเกณฑ์ 4 กลุ่มนี้ หรือไม่นั้น พ.ต.อ.ทวี ยืนยันว่า ไม่ได้เข้าเกณฑ์ เนื่องจากน.ส.ยิ่งลักษณ์มีโทษเกิน 5 ปี โดยผู้ที่เข้าเกณฑ์ดังกล่าวจะต้องมีโทษไม่เกิน 4 ปี

ส่วนที่คาดการณ์ว่าหากมีการยื่นขอพระราชทานอภัยโทษก็จะเข้าเกณฑ์นั้น พ.ต.อ.ทวี บอกว่า ไม่อยากให้พูดถึงประเด็นนั้น แต่ย้ำว่าหากเกิน 4 ปีไม่ได้อยู่แล้ว

เมื่อถามย้ำว่าถ้าโทษจำคุกไม่เกิน 4 ปีก็เข้าเกณฑ์ใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการพิจารณาของหน่วยงานกรมราชทัณฑ์

พ.ต.อ.ทวี กล่าวอีกว่า ปัจจุบันกระทรวงยุติธรรมได้งบประมาณก่อสร้างปีละ 1 เรือนจำ แต่เรือนจำแต่ละที่มีอายุเฉลี่ย 90 ปี ซึ่งมีถึง 50 เรือนจำ และมีสภาพทรุดโทรม หลายประเทศใช้วิธีการคุมประพฤติ และเราพบว่าในประเทศไทยใช้วิธีคุมประพฤติแล้วมีการกระทำผิดซ้ำน้อยกว่าผู้ต้องขังที่อยู่หลังกำแพง เพราะได้อยู่กับชุมชน และมีมาตรการควบคุมที่หลากหลาย

เมื่อถามว่า สามารถควบคุมนอกเรือนจำได้เมื่อไหร่ พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า ระเบียบนี้หลังจากกฎหมายใช้บังคับเมื่อปี 60 บัญญัติให้มีกฎกระทรวงและระเบียบขึ้นแล้ว ภายใน 90 วัน เพียงแต่ไม่มีการปฏิบัติตามกฎหมายกัน และเมื่อมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ที่ระบุว่า รัฐต้องบังคับใช้กฎหมายอย่างเคร่งครัด ซึ่งตนมองว่าคนที่ไม่ออกระเบียบในขณะนั้น อาจเป็นประเด็น

ความกังวลอะไรก็ตามทำให้กฎหมายไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ และไม่คุ้มครองสิทธิของประชาชน ถ้าเป็นผู้บริหารที่ไม่มีภาวะผู้นำ การตัดสินใจปฏิบัติตามกฎหมายช้า ก็จะทำให้เรื่องคาราคาซัง และเมื่อเราจะไปประกาศยกระดับนิติธรรมให้เป็นสากล เมื่อมีการวัดและประเมินผล กรมราชทัณฑ์ ได้ผลประเมินต่ำสุดคือ 0.25 จากคะแนนเต็ม 1

เมื่อถามว่าการจำคุกนอกเรือนจำ มีคนที่โดนคดี ม.112 อยู่ในการพิจารณาด้วย กังวลหรือไม่ว่าจะถูกโจมตีทางการเมือง พ.ต.อ.ทวี กล่าวว่า เรื่องความเป็นธรรมเราอย่าไปกลัวจะโดนโจมตี หากเรากล้าหาญที่จะให้ความเป็นธรรมและไม่อคติ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน