อนุทิน ซัดคนเดียวอยากเล่นการเมือง ทำประชาชนเดือดร้อน หลังถูกสอบปมที่ดิน เตือนระวังตรงนั้นมีที่ใครบ้าง ท้าจัดการให้หมดทุกพื้นที่ มองกระทบที่อื่นไม่กล้าพัฒนา
เมื่อเวลา 11.45 น. วันที่ 20 ก.พ.2568 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย (ภท.) กล่าวถึงกรณีที่ดินเขาใหญ่ จ.นครราชสีมา ที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ระบุมีการทับซ้อนกับที่ดิน ส.ป.ก.ว่า ไม่มีอะไรต้องชี้แจง เพราะทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ เป็นเรื่องของทางราชการกับราชการ
ฉะนั้น ไปว่ากัน 3 กระทรวง (กระทรวงเกษตรฯ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และกระทรวงมหาดไทย) ก็ต้องไปพิสูจน์กัน เพราะประชาชนเข้าไม่ถึงข้อมูล
เมื่อถามว่าหากมีการขุดคุ้ยการขายตั้งแต่รุ่น 1 และรุ่น 2 ถ้าพบว่าผิด ยินดีคืนที่ดินดังกล่าวใช่หรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า มันไม่ได้ยินดีที่จะคืน ผิดก็คือผิด แต่ใครผิดไม่รู้ แต่คนที่ซื้อมาครอบครองโดยสุจริตเขาก็ผิดไม่ได้ ผู้ที่ซื้อที่ดินเป็นโฉนดในประเทศไทย ถ้าเชื่อโฉนดที่ออกไม่ได้แล้ว จะเชื่ออะไรได้อีก อย่างที่เขาพูดกัน บางทีเอามาเป็นประเด็นทางการเมือง ตอนนี้ถามว่าใครเดือดร้อน ตนไม่ได้เดือดร้อน แต่เป็นชาวบ้าน และพอเป็นปัญหาก็เดือดร้อนกันหมด ก็ต้องดูว่าเขาจะรับผิดชอบอย่างไร
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ที่ดินข้อพิพาทดังกล่าวมีพื้นที่กว้าง ไม่ใช่เฉพาะที่ปากช่อง แต่รวมถึงเขาใหญ่ ไปโดนอะไรบ้าง ก็ต้องดูให้หมด ต้องระวัง มีใครอยู่ตรงนั้นบ้าง ถ้าโดนก็ต้องโดนหมด แล้วจะกล้าไหม ส่วนจะมีใครบ้างก็ต้องไปหาเอาเอง
ส่วนทางครอบครัวจะมีการฟ้องร้องหรือไม่ ที่ทำให้เสียหาย นายอนุทิน ย้อนถามว่า จะไปฟ้องอย่างไร เขาบอกว่าเขาสงสัย จะบอกว่าครอบครัวตนเองเสียหายก็ไม่ได้ เพราะครอบครัวของตนไม่ได้ตั้งใจจะขายที่ดินนี้ และสุดท้าย หากการออกโฉนดผิด กรมที่ดินก็ต้องเพิกถอน และต้องชดใช้จ่ายค่าที่ดินมา ซึ่งครอบครัวตนไม่ได้เสียหาย แต่ชาวบ้านทั่วไปเสียหาย รวมถึงคนที่ไปลงทุนอื่นๆ
“ครอบครัวผม ไม่มีสนามกอล์ฟนี้ก็ยังมีใช้ ผมแค่มีทรัพย์สินและกิจการอยู่ตรงนั้น แต่ประชาชนถ้าเขาต้องยังชีพอยู่ตรงนั้น เขาก็เดือดร้อน”
นายอนุทิน กล่าวว่า ครอบครัวตนมีธุรกิจหลักเป็นของตัวเอง ตนก็เลิกทำมากว่า 20 ปีแล้ว ทุกวันนี้อยู่ได้ด้วยเงินที่เก็บสะสมมาตั้งแต่ทำธุรกิจ แบ่งลูกแบ่งเต้าหมดแล้ว หย่าสองครั้งก็ดูแลเมียเก่าหมดแล้ว เหลือแค่ตนไม่ได้ใช้อะไรเยอะแยะ
“แต่สงสารชาวบ้าน เพราะคนๆเดียวต้องการเล่นการเมือง แล้วไปทำให้เกิดความเสียหาย ตรงนั้นชาวบ้านน่าสงสารมากกว่า เพราะไม่เป็นธรรมกับชาวบ้าน ไปสั่งปิดร้านกาแฟเขา อย่างที่บอกต้องดูให้เยอะๆ ไอ้เส้นที่เขาขีดใครเป็นเจ้าของบ้าง ต้องทำให้หมด ไม่ใช่ถึงเวลามีเส้นปะแบบนี้” นายอนุทิน กล่าว
เมื่อถามว่าจะเป็นในลักษณะที่ผ่านมาหรือไม่ แหย่แล้วก็เงียบไป นายอนุทิน กล่าวว่า ไม่ทราบ เพราะเกี่ยวข้องกับหลายหน่วยงาน กว่าจะพิสูจน์กันแต่ละเรื่องต้องใช้เวลา 20-30 ปี
นายอนุทิน ระบุอีกว่า ชาวบ้านแถวนั้นบางคนที่เห็นแก่อามิสสินจ้าง สุดท้ายก็ขายที่ไม่ได้ เพราะเห็นมีอยู่หลายแปลงเหมือนกัน มันจะไม่ใช่แค่ปากช่อง เขาใหญ่ แต่จะลามไปทั่วประเทศ ต่อไปใครไปดูที่ดินที่ยังไม่ได้พัฒนาก็ไม่กล้าซื้อ แล้วการพัฒนาจะเกิดได้อย่างไร