ณฐพร ยื่นศาลรธน.เอาผิด กกต.จัดเลือกสว.ไม่สุจริตทำโมฆะตั้งแต่ต้น พร้อมขอให้สว.ชุดปัจจุบันหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว ขู่เตรียมยื่นยุบพรรคหนึ่ง ก้าวก่ายขบวนการเลือก สว.
เมื่อเวลา 13.20น. วันที่ 12 มี.ค.2568 ที่สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญ นายณฐพร โตประยูร อดีตที่ปรึกษาประธานผู้ตรวจการแผ่นดิน ยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อเอาผิดคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่ทำให้กระบวนการได้มาซึ่งสมาชิกวุฒิภา (สว.) ไม่เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม
นายณฐพร กล่าวว่า มายื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า การเลือก สว.ครั้งที่ผ่านมา ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ มาตรา 5 คือการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญไม่มีผลบังคับใช้ ฉะนั้น เรื่องนี้ถ้าตัดคำว่าไม่มีผลบังคับใช้ นั่นคือจะเป็นโมฆะตั้งแต่ต้น โดยประเด็นที่ยื่นในวันนี้คือยื่นข้อเท็จจริงการกระทำของ กกต.ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ
ประเด็นแรก การจัดเลือกตั้งไม่สุจริต มีการฮั้ว การจ้างการลงคะแนน ข้อมูลต่างๆ กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้รับสอบสวนตั้งแต่เดือนก.ย.2567
ประเด็นที่สอง การปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.มิชอบด้วย พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. หมวด 4 กรณีการควบคุมการเลือกตั้งให้เป็นไปโดยสุจริตเที่ยงธรรม เช่น การไม่ตรวจสอบคุณสมบัติ หรือให้คนที่ไม่มีคุณสมบัติมาลงสมัคร ซึ่งการให้ผู้ไม่มีคุณสมบัติมาลงคะแนนให้ มีผลกระทบถึงการเลือกสว.ระดับประเทศ
การตรวจคุณสมบัติของ สว.ในครั้งนี้ จึงมีความสำคัญตามมาตรา 107, 108 ทำให้ได้คนที่ตรงตามที่รัฐธรรมนูญต้องการ มีความรู้ความสามารถ แต่ไม่ใช่เอาแม่ค้าขายกล้วยแขก หรือหมอนวด มาเป็น สว. โดย กกต.ต้องมีหน้าที่ตรวจสอบ แต่ผ่านมา 1 ปีแล้วกลับไม่ได้ดำเนินการใดๆ
ประเด็นที่สาม ในฐานะที่ สว.ชุดนี้เข้ามาปฏิบัติหน้าที่ มีการกระทำที่เห็นได้ชัดว่า อยู่ในการควบคุมของพรรคการเมือง ซึ่งตนมีคลิปเสียงของ หัวหน้าพรรคการเมืองใหญ่พรรคหนึ่ง คุยกับผู้สมัคร สว.รายหนึ่งในการต่อรองว่า จะให้ 50,000 แต่หากจะเข้ามาเป็น สว.จะให้เอาเงินมาบริจาคพรรค 200,000
ดังนั้น ความเชื่อมโยงของ สว.ชุดนี้กับพรรคการเมืองนี้ เรามีรายละเอียดพอสมควรว่าเชื่อมโยงกับใครบ้าง ซึ่งรายละเอียดตนมีอยู่ในสำนวนที่มายื่น
ประเด็นที่สี่ การปฏิบัติหน้าที่ของ กกต.ก่อให้เกิดความเสียหายต่อระบบการเลือกตั้งอย่างร้ายแรง เพราะ กกต.ต้องเป็นกลางทางการเมือง แต่ปล่อยให้คนอย่าง พญ.เกศกมล เปลี่ยนสมัย กรอกข้อมูลอันเป็นเท็จลงสมัคร สว. แล้วไม่มีการดำเนินการใดๆ มา 7 เดือน ปล่อยให้คนที่ไม่มีคุณสมบัติ ไปเลือกคนที่มีคุณสมบัติออกไป ทำให้เป็นการละเมิดสิทธิเสรีภาพของบุคคลที่รัฐธรรมนูญรับรองไว้
นายณฐพร กล่าวว่า ส่วนที่ สว.ชุดนี้ปฏิบัติหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญระบุไว้ สว.ต้องมาอยู่ในอาณัติของกลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่ง แต่ปรากฏว่า สว.ชุดนี้ 140 กว่าคน มีมติเหมือนกันเกือบหมดทุกอย่าง ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่คนทั้ง 140 กว่าคน จะทำเหมือนกัน เช่น กรณีแต่งตั้งรองผู้ว่าการตรวจเงินแผ่นดิน ทราบข่าวว่าให้ไปพบกับบ้านใหญ่บุรีรัมย์ แต่รองผู้ว่าฯ ไม่ไป ปรากฏว่าคะแนนเสียง 140 ไม่ลงคะแนนให้
ฉะนั้นการทำงานเช่นนี้ จึงไม่เป็นกลางทางการเมือง และเห็นได้ชัดว่า สว.ชุดนี้ปฏิบัติหน้าที่ตามอิทธิพลของพรรคการเมือง
กกต.รู้อยู่แล้วว่ามีการฮั้ว มีการกระทำที่ไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ แต่กลับไม่ดำเนินการสืบสวนสอบสวน นั่นแสดงว่า กกต.ปฏิบัติหน้าที่เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคดังกล่าว ยืนยันว่าข้อมูลพยานหลักฐานในวันนี้ครบถ้วน ทั้งจากดีเอสไอ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ
วันนี้ตนจึงยื่นให้กับศาลรัฐธรรมนูญเอาผิด กกต.ในฐานะที่จัดการเลือกตั้งไม่สุจริตเที่ยงธรรม เป็นเหตุให้การเลือก สว.เป็นโมฆะ และให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยว่า ในระหว่างที่ศาลรับคำร้องของตนขอมีคำสั่งให้ สว.ชุดนี้หยุดปฏิบัติหน้าที่
นายณฐพร กล่าวอีกว่า ตนไม่ได้หยุดแค่นี้แน่ ตนจะยื่นยุบพรรค กรณีพรรคการเมืองเข้าไปก้าวก่ายการดำเนินการเรื่อง สว. โดยเรื่องนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับมาตรา 49 กรณีล้มล้างการปกครองฯ