“ไก่อู”แจง”บิ๊กตู่”ตรวจงานกระทรวง แจ้งรัฐมนตรีล่วงหน้า ยันไม่ได้จับผิด “วิษณุ”ย้ำไม่มีสัญญาณเซ็ตซีโร่พรรค การเมือง องค์กรอิสระ ปชป.ติงกรธ.เสนอตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง ซ้ำซ้อนกกต.จังหวัด “มาร์ค” ยันปชป.ไม่ขัดแย้ง ไม่มีแม้คนเดียวที่เข้าร่วมกปปส.แล้วลาออกจากพรรค เหน็บพรรค การเมืองขายข้าวมีจุดประสงค์ โรงสีพิจิตร ยันซื้อข้าวได้ไม่เกินเกวียนละ 6,000 บาท ไม่รับซื้อหอมมะลิล็อตใหม่ สุรินทร์วอนรัฐบาลเร่งระบายข้าวค้างยุ้งฉาง โพลอีสาน ให้คะแนนรัฐบาลแก้ข้าวราคาตกในระดับพอใช้ เสียงส่วนใหญ่ร้อยละ 37.2 ชี้”ปู” ไม่ต้องจ่ายค่าเสียหาย”จำนำข้าว”

“ไก่อู”แจง”บิ๊กตู่”ดอดจี้งาน

วันที่ 12 พ.ย. พล.ท.สรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวกรณีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) เดินทางตรวจเยี่ยมและติดตาม ความคืบหน้าการทำงานของกระทรวงต่างๆ เป็นการด่วน โดยไม่แจ้งล่วงหน้า ว่า ถือเป็นเรื่องปกติสำหรับการทำงานที่ต้องมีการตรวจและติดตามความคืบหน้า การที่พล.อ.ประยุทธ์ เดินทางตรวจกระทรวงต่างๆ คล้ายการตรวจราชการทั่วไป เพื่อติดตามความคืบหน้าหลังจากที่ได้ให้แนวทางการทำงานและนโยบายไปแล้ว เพื่อดูว่าแต่ละหน่วยงาน กระทรวง ทบวง กรม ได้นำไปดำเนินการขับเคลื่อนแก้ไขปัญหาได้มากน้อยเพียงใด หากยังมีปัญหาใดที่ยังคงค้างคา ติดขัด ก็สามารถเสนอแนะมายังนายกฯ ได้เพื่อหาวิธีการแก้ไขต่อไป

“การตรวจงานส่วนใหญ่มีการแจ้งกันก่อนอยู่แล้ว เพื่อไม่ให้ทุกคนรู้สึกระส่ำระสาย ก่อนหน้านี้ได้ไปกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง คงไม่ถึงกับไม่บอกกล่าวหรือแจ้งล่วงหน้าเพราะมีการแจ้งกันเป็นการภายใน เช่น แจ้งรัฐมนตรี ขณะเดียวกันนายกฯ เองไม่ต้องการให้มีการจัดการต้อนรับเพราะอยากไปเพื่อตรวจงานจริงๆ ไปฟังปัญหาข้อขัดข้องที่เกิดขึ้นเพื่อรับทราบและแก้ไข ไม่ใช่ว่าไปโดยไม่บอก เพียงแต่บอกอย่างไม่เป็นทางการ” พล.ท.สรรเสริญกล่าว

เลี่ยงตอบบุกก.เกษตรฯพรุ่งนี้

พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์มีความไว้วางใจทุกคนที่ทำงาน เชื่อว่าจะไม่ทำให้ข้าราชการกดดัน เพราะเป็นเรื่องของรัฐมนตรีแต่ละกระทรวงที่จะต้องบริหารจัดการกันเอง และการไปตรวจกระทรวง นายกฯ ก็ไม่ได้คิดว่าป้องกันการเตรียมการแบบผักชีโรยหน้า เพียงแต่ต้องการไปดูปัญหาต่างๆ ของแต่ละกระทรวงก็เท่านั้น

พล.ท.สรรเสริญกล่าวถึงกระแสข่าวพล.อ.ประยุทธ์มีกำหนดการตรวจเยี่ยม ให้กำลังใจและติดตามงานของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในวันที่ 14 พ.ย.นี้ ว่า อยู่ระหว่างตรวจสอบ ตอนนี้ยังไม่ชัดเจนว่านายกฯจะไปตรวจเยี่ยมกระทรวงเกษตรฯ หรือไม่ แต่การเดินทางไปตรวจเยี่ยมกระทรวงของนายกฯ เพื่อไปให้กำลังใจและติดตาม การทำงานของกระทรวงต่างๆ หลังมอบนโยบาย ไม่ใช่นายกฯไปตรวจกระทรวงแล้วไม่บอก โดยอาจจะบอกรัฐมนตรีเจ้ากระทรวงไปแล้ว แต่เจ้ากระทรวงอาจจะไม่ได้บอก กับข้าราชการ ยืนยันว่านายกฯ ไม่ได้ไป จับผิดอะไร อยากไปดูเพื่อตรวจงานและเชื่อมั่นว่าทุกคนตั้งใจทำงาน ขณะเดียวกันในช่วงปลายเดือนพ.ย.นี้คาดว่านายกฯ พร้อมด้วยรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องจะลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่ภาคเหนือ เพื่อดูเรื่องระบบบริหารจัดการขยะ

รบ.หนุนสหกรณ์เข้มแข็ง

พล.ท.สรรเสริญกล่าวถึงการส่งเสริมให้เกษตรกร ชาวนา ชาวไร่ และวิสาหกิจชุมชน รวมกลุ่มกันเป็นสหกรณ์ เพื่อแก้ไขปัญหาการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน ว่า รัฐบาลได้จัดตั้งศูนย์กระจายสินค้าสหกรณ์ หรือ CDC ขณะนี้มีอยู่ประมาณ 107 แห่งทั่วประเทศ และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกเพื่อตอบสนองความต้องการของเกษตรกรและสมาชิกสหกรณ์ที่ส่งสินค้าไปขายยังศูนย์ดังกล่าว ตั้งแต่เริ่มจัดตั้ง ต.ค.58-พ.ค.59 เพียง 6 เดือน มียอดจำหน่ายรวมกว่า 6,300 ล้านบาท เพื่อแก้ไขปัญหาการประกอบอาชีพอย่างยั่งยืน จากที่แต่ละคนไม่สามารถแก้ปัญหาตามลำพังได้ไปสู่การดำเนินวิสาหกิจที่ทุกคนเป็นเจ้าของร่วมกัน มีเงินทุนหมุนเวียน มีอำนาจต่อรองในการซื้อขายสินค้า และยังได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ

พล.ท.สรรเสริญกล่าวว่า รัฐบาลได้ต่อยอดการซื้อขายสินค้าของสหกรณ์ด้วยการเชื่อมโยงกับระบบพาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ ตามนโยบายส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลและไทยแลนด์ 4.0 เพิ่มช่องทางการตลาดให้เข้าถึง ผู้บริโภคทั่วโลก โดยนำข้อมูลผลิตภัณฑ์ ของสหกรณ์ กลุ่มเกษตรกร และวิสาหกิจชุมชน ที่มีคุณภาพดี ไปบรรจุไว้ในตลาดสินค้าสหกรณ์ออนไลน์ www.co-opclick.com

โพลอีสานชี้เหตุข้าวราคาตก

นายสุทิน เวียนวิวัฒน์ หัวหน้าโครงการสำรวจอีสานโพล ให้สัมภาษณ์ว่า อีสานโพล (E-Saan Poll) ศูนย์วิจัยธุรกิจและเศรษฐกิจอีสาน คณะเศรษฐศาสตร์ มข. สำรวจเรื่อง “ความคิดเห็นคนอีสานกับปัญหาชาวนา” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,168 ราย ระหว่างวันที่ 5-8 พ.ย. ที่ผ่านมา จากกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุตั้งแต่ 18 ปีขึ้นไป ในเขตพื้นที่ 20 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

พบว่าคนอีสานมากถึงร้อยละ 25.1 ระบุสาเหตุที่ราคาข้าวเปลือกตกต่ำช่วงนี้เกิดจากรัฐไม่เตรียมมาตรการรองรับ รองลงมาร้อยละ 17.2 เกิดจากปัญหาพ่อค้าคนกลางและโรงสีกดราคา มีเพียงร้อยละ 16.0 ที่เห็นว่ารัฐบาลไม่สามารถลดพื้นที่การปลูกข้าวได้ตามเป้า

“ขณะที่ผลการสำรวจพบว่าร้อยละ 31.7 ต้องการให้รัฐส่งเสริมการทำเกษตรแบบผสมผสานตามแนวพระราชดำริของในหลวง ด้วยการให้ความช่วยเหลือครัวเรือนชาวนาอย่างยั่งยืน รองลงมา ร้อยละ 23.1 ต้องการให้ลดพื้นที่การปลูกข้าวที่ไม่เหมาะสม และร้อยละ 21.1 ต้องการให้รัฐบาลได้ทำการส่งเสริมการรวมกลุ่มให้ชาวนาเข้มแข็ง” นายสุทิน กล่าว

ส่วนมากชี้”ปู”ไม่ควรชดใช้จำนำข้าว

นายสุทินกล่าวว่า มีการสอบถามถึงการแก้ไขปัญหาและการเตรียมการรับมือกับราคาข้าวที่กำลังตกต่ำในขณะนี้ พบว่ามากถึงร้อยละ 35.0 ให้คะแนนการเตรียมการและการ แก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำของรัฐบาลปัจจุบัน อยู่ที่ระดับพอใช้ รองลงมาร้อยละ 28.3 ที่ให้คะแนนว่าอยู่ในระดับดี และร้อยละ 22.9 ระดับแย่ มีเพียงร้อยละ 12.4 เท่านั้นที่ให้คะแนนรัฐบาลในระดับที่แย่มากและล้มเหลว

อย่างไรก็ตามยังคงมีการสำรวจความคิดเห็นถึงประเด็นการเรียกเก็บค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าวเปลือก ซึ่งพบว่ามากถึงร้อยละ 37.2 ที่คนอีสานเห็นว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่ถูกเรียกค่าเสียหายจากโครงการรับจำนำข้าว 3.5 หมื่นล้านบาท ไม่สมควรจ่ายค่าเสียหาย ขณะที่ร้อยละ 31.8 เห็นว่าสมควรจ่ายค่าเสียหาย และร้อยละ 30.9 เฉยๆ ไม่แน่ใจ

ท่าข้าวพิจิตรไม่ซื้อข้าวหอม105

ผู้สื่อข่าวรายงานจาก จ.พิจิตรว่า ชาวนาจาก อ.สากเหล็ก อ.วังทรายพูน เร่งเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปี ข้าวหอมมะลิ 105 เนื่องจากกลัวว่าข้าวจะกรอบ ซึ่งขณะนี้ราคาที่ทางท่าข้าวและโรงสีรับซื้อต่ำสุดเหลือเกวียนละ 5,400-6,000 บาท/เกวียน โดยท่าข้าว เปิดจุดรับซื้อข้าวและรับซื้อตามสภาพแต่มากกว่า 6,000 บาท โรงสีไม่รับชื้อ

นางพิมพ์ฉวี พัฒน์พงศ์ เจ้าของท่าข้าวพิมพ์ฉวี อ.สากเหล็ก เผยว่า การเปิดจุดรับซื้อข้าวในพื้นที่ อ.สากเหล็ก เป็นการช่วยเหลือชาวนาอีกทางหนึ่ง ตอนนี้ท่าข้าวของเราไม่รับซื้อข้าวหอมมะลิ 105 ไม่กล้ารับซื้อเพราะราคาสูง และกลัวปนเปื้อน ส่วนราคาข้าวเราซื้อตามสภาพ อย่างต่ำสุดคือข้าวปน ข้าว ไม่สวย หรือข้าวเปียกจัดอยู่ที่เกวียนละ 5,400 บาท/เกวียน ข้าวที่พอดูได้อยู่ที่ 5,500-5,700 บาท หากข้าวสวยก็จะรับซื้อในราคา 6,000 บาท มากกว่านี้ทางโรงสีก็ไม่รับซื้อ

ยันซื้อได้เกวียนละ 6 พัน

นายอัครวินท์ เกษวิริยะการ อายุ 45 ปี กรรมการสหกรณ์ชาวนาวังทรายพูน จำกัด กล่าวว่า สหกรณ์ไม่สามารถรับซื้อในราคา 6,300 บาท/เกวียนได้ เพราะเท่าที่ทราบจุดรับซื้อข้าวที่อื่นไม่ว่าจะเป็นจุดไหน ราคาข้าว ณ เวลานี้ดัมพ์ราคาลงหมดทุกที่ แต่เรายังรับซื้อและช่วยเหลือเกษตรกรในรูปแบบสหกรณ์ชาวนาวังทรายพูนได้ในราคาเกวียนละ 5,700-6,000 บาท ตอนนี้โรงสีในพิจิตรไม่รับซื้อข้าวแล้ว ทุกวันนี้สหกรณ์รับซื้อข้าวจากกลุ่มชาวนาในพื้นที่ได้ประมาณวันละ 500 ตัน ปัญหาที่เกิดขึ้นในขณะนี้ คือ เรื่องราคาข้าวตกต่ำ เนื่องจากท่าข้าวทั้ง 42 แห่ง ที่เปิด จุดรับซื้อข้าวในพิจิตรกดราคาลงมาเหลือ เพียงเกวียนละ 5,400-5,700 บาทเท่านั้น โดยอ้างว่ารับซื้อข้าวจากชาวนาตามสภาพข้าว ที่นำมาขาย

ข่าวโกงตาชั่ง-เรื่องเข้าใจผิด

นายอัครวินท์เผยกรณีเจ้าหน้าที่ชั่ง ตวง วัด ของพาณิชย์จังหวัดพิจิตรเข้าตรวจจับเรื่องตาชั่งของสหกรณ์ชาวนาวังทรายพูน เมื่อวันที่ 9 พ.ย. ว่า ไม่ได้เป็นความผิดของสหกรณ์ ข้อเท็จจริงคือโปรแกรมตาชั่งเดิมกระทรวงสั่งยกเลิกมา 3 เดือนแล้ว แต่บริษัทที่ติดตั้งตาชั่งและพาณิชย์จังหวัดพิจิตรไม่ได้แจ้งให้สหกรณ์ทราบ เมื่อมีการตรวจตาชั่งเราก็ให้ตรวจ ซึ่งตอนนี้ได้เปลี่ยนโปรแกรมตาชั่งตามที่กระทรวงพาณิชย์กำหนดเรียบร้อยแล้ว ขอเรียนอีกครั้งว่าสหกรณ์ชาวนาวังทรายพูนเป็นของชาวนาทุกคนที่มีหุ้นในสหกรณ์และเป็นสมาชิก เรื่องการโกงตาชั่งเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด

“เราจะมาโกงพวกเดียวกันทำไม เรื่องตาชั่งที่ข่าวออกมาว่าโกง ข้อเท็จจริงคือกระทรวงพาณิชย์เขายกเลิกมาได้ 3 เดือนแล้ว เพราะมันล้าสมัย พวกผมและชาวนาจะรู้ไหมว่ามีการเปลี่ยนโปรแกรมตาชั่งใหม่ เคยมีหนังสือเวียนมาให้ทางสหกรณ์ทราบหรือเปล่า สหกรณ์ทำตามกฎของกระทรวงพาณิชย์ทุกอย่าง” นายอัครวินท์กล่าว

ขายตรงข้าวโคราชคึกคัก

ที่บริเวณลานอนุสาวรีย์ท้าวสุรนารี อ.เมือง จ.นครราชสีมา ชาวนาจากอำเภอต่างๆ เร่ง ขนย้ายข้าวสารมาลงในจุดจำหน่ายข้าวสาร ที่จังหวัดจัดเตรียมเต็นท์ผ้าใบเพื่อให้เกษตรกรนำข้าวสารมาจำหน่ายให้กับประชาชนโดย ตรงในราคาถูกและเหมาะสมกับราคาที่เกษตรกรยอมรับได้ ตั้งแต่กิโลกรัมละ 25-30 บาท นอกจากข้าวสารหอมมะลิแล้วเกษตรกรยังสามารถนำข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ และข้าวไรซ์เบอร์รี่ มาจำหน่าย

การจัดตลาดขายตรงจากเกษตรกรครั้งนี้ถือเป็นครั้งที่สอง ครั้งแรกจัดไปเมื่อวันที่ 5-6 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยมณฑลทหารบกที่ 21 ร่วมกับจังหวัดนครราชสีมา เปิดจุดจำหน่ายข้าวสารโดยตรงจากเกษตรกรมาแล้ว ครั้งแรกรวมปริมาณข้าวสารที่เกษตรกรจำหน่ายไปกว่า 10 ตัน มูลค่ากว่า 3 แสนบาท ส่วนการเปิดตลาดครั้งนี้ ทางสำนักงานเกษตรจังหวัดนครราชสีมาคาดว่าวันที่ 12-13 พ.ย.นี้จะมีปริมาณข้าวสารที่เกษตรกรระบายออกจากท้องตลาดได้ไม่ต่ำกว่า 10 ตันอย่างแน่นอน

สุรินทร์วอนรบ.ระบายข้าวเก่า

ที่จ.สุรินทร์ หลังการเก็บเกี่ยวข้าวหอมมะลิพันธุ์ กข.15 ในช่วงที่ผ่านมา ช่วงนี้ชาวนาเริ่มเก็บเกี่ยวข้าวหอมมะลิพันธุ์ 105 ซึ่งปลูกจำนวนมาก เนื่องจากยังมีฝนตกและน้ำตามลำห้วยและลำน้ำชีเอ่อเข้าท่วมนาข้าว ชาวนาจำเป็นต้องเร่งเก็บเกี่ยวเพื่อไม่ให้ข้าวแช่น้ำนาน เพราะอาจทำให้ข้าวเสียได้ก่อนนำมาตาก เช่น ที่บ้านเมืองลีง ม.1 ต.เมืองลีง อ.จอมพระ ชาวนาต้องเร่งเก็บเกี่ยวแล้วนำข้าวเปลือกมาตากให้แห้ง ตามถนนหมู่บ้านจะพบชาวนานำข้าวเปลือกมาตากเป็นจำนวนมาก

นายแงะ สุขจิตร อายุ 57 ปี ชาวนาที่บ้านเมืองลีงเผยว่า ต้องเร่งเกี่ยวข้าวและนำข้าวเปลือกมาตากแห้งเพื่อลดความชื้น ราคาข้าวก็ต่ำอยู่แล้วไม่คุ้มกับการทำนา แต่ยังดีที่รัฐบาลมีนโยบายเข้ามาช่วยจำนำยุ้งฉาง พอได้บ้างแต่จะให้คุ้มคงไม่คุ้มแน่นอน ที่สำคัญขณะนี้ข้าวเริ่มเก็บเกี่ยวจำนวนมาก พื้นที่ตากและจัดเก็บมีปัญหามากเนื่องจากยุ้งฉางชาวบ้านเก็บข้าวที่จำนำไว้ปีที่ผ่านมาไม่สามารถระบายออกได้ อยากให้รัฐบาลเร่งในการระบายที่จำนำอยู่ในยุ้งฉางปีที่ผ่านมาออกให้เร็ว จะได้มีที่เก็บข้าวใหม่ที่กำลังเก็บเกี่ยวขณะนี้ หากช้าก็จะไม่มีที่เก็บข้าวและส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก

เกษตรกรชาวนาในหมู่บ้านเมืองลีงมีอยู่ถึง 157 ครัวเรือน มีเกษตรกรที่เข้าร่วมโครงการจำนำข้าวยุ้งฉางกับธ.ก.ส.เมื่อปีการผลิต 2558 ที่ผ่านมา 73 ราย การระบายข้าวออกล่าช้า มีเพียง 5 รายเท่านั้น ที่เหลือยังมีอีกจำนวนมาก ทำให้ชาวนาวิตกมากจะไม่มีที่เก็บข้าวเปลือกที่กำลังเก็บเกี่ยวมาใหม่ โดยเฉพาะข้าวหอมมะลิพันธุ์ 105

พรหมพิรามเร่งขายข้าวเก่า

ที่หน้าศาลากลาง จ.พิษณุโลก จุดที่จังหวัดเปิดตลาดนัดข้าวสารให้ชาวนานำข้าวมาขายให้ผู้บริโภค บรรยากาศวันนี้ค่อนข้างประชาชนบางตา เนื่องจากเป็นวันหยุดราชการ แต่มีชาวนากลุ่มปรับปรุงคุณภาพข้าวบ้านหางไหล ม.4 ต.มะต้อง อ.พรหมพิราม นำข้าวสารทั้งข้าวแข็ง ข้าวหอมมะลิ ข้าวท่อน ไข่เป็ด ไข่ไก่ มาวางขาย

นางสุพรรณิการ์ อ่อนศรี ประธานกลุ่มเผยว่า หลังจากที่จังหวัดเปิดตลาดนัดข้าวสารกำหนดระยะเวลา 2 เดือน ทางกลุ่มก็นำข้าวนาปี ข้าวเก่าของฤดูการผลิตที่แล้วที่รับซื้อมาจากสมาชิกสีที่โรงสีชุมชนทุกวัน และนำมาขายที่นี่วันละ 300 กิโลกรัม แต่ยังคงมีสต๊อกข้าวเก่าจากสมาชิกอีกประมาณ 10 ตันข้าวเปลือก จึงต้องนำมาขายทุกวันไม่มีวันหยุด เพื่อสำรองเงินไว้ในการรับซื้อข้าวนาปีฤดูกาลผลิต 2559 ที่กำลังจะเริ่มเก็บเกี่ยวในเดือนพ.ย.นี้ และช่วยให้สมาชิกขายข้าวเปลือก ในราคาที่สูงกว่าขายให้โรงสีหรือท่าข้าว จึงขอเชิญชวนชาวพิษณุโลกมาช่วยอุดหนุน

มาร์คชี้ปัญหาตกค้างจากรบ.เก่า

ที่จ.ชุมพร นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์หลังเป็นประธานทอดกฐิน ณ วัดศรีสุเทพ อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร และเยี่ยมชมกิจการของบริษัท ตี๋บ้านนก 2005 จำกัด เกี่ยวกับมาตรการแก้ปัญหาข้าวที่กำลังมีราคาตกต่ำว่า เป็นปัญหาตกค้างจากนโยบายเก่า และเมื่อต้นปีที่ผ่านมา มีการคาดการณ์ผิดคิดว่าภาวะแล้งจะทำให้ปริมาณข้าวน้อย เมื่อข้าวออกมามากรัฐบาลจึงใช้วิธีการแทรกแซง หากตนยังเป็นนายกฯ คงต้องใช้นโยบายการประกันราคาข้าว ที่ยุ่งยากน้อยที่สุดและไม่ส่งผลกระทบต่อ การค้ารวมทั้งไม่ต้องเสียต้นทุนค่าใช้จ่ายต่างๆ ด้วย มาตรการที่ออกมามีหลายอย่างที่มี ส่วนคล้ายกับการประกันรายได้ เพราะมีการจ่ายค่าเก็บเกี่ยว ค่ายุ้งฉาง สินเชื่อชะลอ การขาย มีหลายองค์ประกอบทำให้ดูยุ่งยากซับซ้อนแต่ก็เป็นมาตรการจำเป็นที่รัฐบาล ต้องเร่งช่วยเหลือ

เหน็บพรรคการเมืองขายข้าว

นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ที่รู้สึกไม่สบายใจคือพอข้าวมีปัญหาก็มักมองว่าโรงสีคือผู้ร้าย แล้วพยายามทำลายความน่าเชื่อถือโรงสีทั้งที่ควรระบุให้ชัดเจนว่าโรงสีใดทำไม่ถูกต้องแล้วจัดการเป็นรายๆ ไป ทั้งนี้ อยากให้ใช้การประกันราคาจะดีกว่า

นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ส่วนที่มีบางพรรค การเมืองออกมาเปิดจุดซื้อขายข้าวตามที่ต่างๆ นั้น คนส่วนใหญ่คงรู้ว่ามีจุดประสงค์อะไร ใครอยากช่วยเรื่องนี้ถือว่าดีแต่ก็ควรขึ้นอยู่กับหลักความเป็นจริงด้วย

ยันปชป.ไม่ขัดแย้ง

นายอภิสิทธิ์กล่าวเกี่ยวกับปัญหาความขัดแย้งที่เคยเกิดขึ้นในพรรคประชาธิปัตย์ กรณีนายธีระชาติ ปางวิรุฬห์รักษ์ อดีตส.ส.ชุมพร ประกาศให้สมาชิกหลายคนของประชาธิปัตย์ที่เข้าร่วมการเคลื่อนไหวทางการเมืองกับกลุ่ม กปปส.ที่มีนายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีตเลขาธิการของพรรคเป็นแกนนำ ลาออกจากพรรค ว่า ขอยืนยันว่าในพรรคประชาธิปัตย์ไม่มีความขัดแย้งใดๆ ในเรื่องนี้ ทุกคน ในพรรคยังอยู่ครบ ไม่มีใครที่เข้าร่วมการเคลื่อนไหวกับกลุ่ม กปปส.ลาออกจากพรรคแม้แต่คนเดียว

“ขอยืนยันว่าผมไม่เคยมีการเคลียร์ปัญหาใดๆ เรื่องนี้ในพรรค เพราะไม่เคยมีความ ขัดแย้ง และขณะนี้ผมก็ยังเจออดีตส.ส.ของพรรคหลายคนที่เข้าร่วมกับ กปปส. มีเพียงบางคนเท่านั้นที่ไปบวชเป็นพระ หากมีการเลือกตั้งเมื่อใดคิดว่าสมาชิกของพรรคก็คงกลับมารวมตัวกัน เพราะทุกคนคงอยาก กลับมาเป็นสมาชิกของพรรคประชาธัตย์เหมือนเดิม” นายอภิสิทธิ์กล่าว

ติงตั้งผู้ตรวจการเลือกตั้ง

นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงข้อเสนอของคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.) ที่จะให้มี ผู้ตรวจการการเลือกตั้งทำหน้าที่แทน กกต.จังหวัดว่า ส่วนตัวยังมีข้อสงสัยว่าเมื่อจะให้ ผู้ตรวจการการเลือกตั้งทำหน้าที่แทน กกต.จังหวัด เช่น จัดการเลือกตั้งระดับท้องถิ่นแล้วจะให้ กกต.จังหวัดทำหน้าที่อะไร จะให้นั่งดูอยู่เฉยๆ หรืออย่างไร จะทำหน้าที่ทับซ้อนหรือลักลั่นกันหรือไม่

นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า การจะให้มีผู้ตรวจการการเลือกตั้งทำหน้าที่แทน กกต.จังหวัดอาจมีอุปสรรคในการทำหน้าที่คือ 1.ความไม่ชำนาญพื้นที่ ไม่รู้จักบุคคล ไม่รู้ภูมิหลังของหัวคะแนนดีเท่า กกต.จังหวัด และ 2.การจะคงไว้ทั้ง กกต.จังหวัดและเพิ่มผู้ตรวจการการเลือกตั้งต้องใช้งบประมาณแผ่นดินเพิ่มขึ้น

นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า ดังนั้น อย่าหลงประเด็นแค่ กกต.จังหวัด เพราะปัญหาการทุจริตเลือกตั้ง การชงสำนวนให้ กกต.กลางพิจารณาอยู่ที่ฝ่ายสืบสวนสอบสวนของกกต. อยู่ที่การวางระบบจัดการบริหารและการสร้างวัฒนธรรมภายในองค์กร แต่หาก กรธ.จะยึดสรุปตามแนวทางนี้ตนก็ไม่มีปัญหาอะไร พร้อมรับการตรวจสอบตามระบบ ที่สำคัญที่สุดคือทำให้การเลือกตั้งสุจริตและเที่ยงธรรม โปร่งใส สามารถตรวจสอบในการทำหน้าที่คัดกรองบุคคลเข้าสู่อำนาจ แต่หาก กกต.ยังไม่มีการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงระบบสืบสวนสอบสวนของ กกต.ก็คงไร้ผล

ไม่ติดใจ-กรธ.ไม่รีเซ็ตกกต.

นายวิรัตน์ กัลยาศิริ หัวหน้าทีมกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณี กรธ.ไม่รีเซ็ต กกต.ว่า ไม่รีเซ็ตก็ไม่เป็นไร ว่าไปตาม กรธ.เขาคงดูละเอียด เมื่อไม่รีเซ็ตก็ไม่ว่า แต่ขอให้กระชับหน้าที่เพราะการเลือกตั้งจริงๆ อยู่ที่การทำผิดในเชิงนโยบาย ไม่ว่าจะเป็นประชานิยมหรือการซื้อเสียงทั้งหลาย ที่ผ่านมาจับได้เฉพาะการปราศรัยซื้อเสียง บาท 2 บาท แต่การซื้อเป็นอุตสาหกรรม ซึ่ง กกต.ไม่มีความสามารถ และ กกต.บางส่วนก็ทุจริต ดังนั้น ก็ต้องปรับองค์กรให้สมบูรณ์ พร้อมจะรับมือกับการเมืองที่โปร่งใส

นายวิรัตน์กล่าวว่า ส่วนที่จะใช้ผู้ตรวจการเลือกตั้งแทน กกต.จังหวัดนั้น เห็นว่า กกต.จังหวัดมีหน้าที่ในการอำนวยความสะดวก ในการเลือกตั้ง แต่ต้องไม่ให้เข้าไปวินิจฉัย สั่งการใดๆ ซึ่งต้องมีองค์กรดูแลในส่วนนี้ จะใช้ชื่ออะไรก็ได้ไม่ได้ติดใจ เพราะต้องเป็นหน่วยที่เตรียมการเกี่ยวกับการเลือกตั้ง ซึ่งต้องไม่มีผลต่อการชี้ถูก-ผิดของผู้สมัคร มีหน้าที่เพียงแค่อำนวยความสะดวกการเลือกตั้งเท่านั้น

สปท.ขอโควตาร่วมถกกฎหมายลูก

นพ.เจตน์ ศิรธรานนท์ โฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญกิจการสภานิติบัญญัติ แห่งชาติ (สนช.) หรือวิป สนช. กล่าวกรณีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานกรธ. ระบุจะส่งร่างพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการการเลือกตั้ง และร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง ให้ สนช.ได้พิจารณา ภายหลังจากรัฐธรรมนูญประกาศใช้ เพราะหากส่งให้พิจารณาก่อนอาจเกิดปัญหาได้ว่า เป็นสิ่งที่ถูกต้องแล้ว เพราะการพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญของ สนช.มีกรอบระยะเวลา 60 วัน นับตั้งแต่วันที่ได้รับร่าง ทั้งนี้ ไม่ว่า กรธ.จะส่งมาเป็นทางการหลังรัฐธรรม นูญประกาศใช้ หรือส่งมาก่อนล่วงหน้า ตนก็ขอย้ำว่าในส่วนของ สนช.เตรียมตัวมานานแล้ว เพราะเรา ต้องพิจารณาให้ความเห็นชอบให้แล้วเสร็จภายใน 60 วัน ซึ่งเป็นเวลาที่สั้นมาก โดยวันที่ 14 พ.ย.นี้ สนช.ได้จัดสัมมนาเตรียมความพร้อมในการพิจารณาร่างพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญ เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมให้แก่สมาชิก

นพ.เจตน์กล่าวว่า นอกจากนี้ ยังมีโครงการเก็บตัวที่ต่างจังหวัด เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ. ประกอบรัฐธรรมนูญด้วย เหตุผลสำคัญ เพราะเรากังวลเรื่องของเวลาที่ขยายออกไปจาก 60 วันไม่ได้ ขณะนี้ยังไม่ได้ระบุวัน เวลาและสถานที่ เนื่องจากยังมีเวลา ขณะเดียวกันวันที่ 16 พ.ย.กรธ.จะจัดรับฟังความคิดเห็นจากภาคส่วนต่างๆ เป็นการชี้ให้เห็นว่าทั้ง สนช.และ กรธ.ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ล่วงหน้า เพื่อให้ทุกอย่างเป็นไปตามโรดแม็ป

นายเสรี สุวรรณภานนท์ ประธานคณะกรรมาธิการขับเคลื่อนการปฏิรูปด้านการเมือง สปท.เผยว่า จากการหารือและเสนอกันเมื่อสองสัปดาห์ก่อนใน วิปสปท. ให้แก้ไขข้อบังคับการประชุมเพื่อกระชับการทำงานของสปท.ในช่วงที่เหลือ ล่าสุด วิปสปท.บรรจุระเบียบวาระดังกล่าวเข้าที่ประชุมวิปสปท. 17 พ.ย.นี้ ก่อนเสนอที่ประชุมใหญ่ต่อไป การแก้ไขข้อบังคับมี 2 ส่วนคือ 1.ต้องปรับ กระชับการทำงานที่เหลืออยู่ให้มีประสิทธิ ภาพ ชัดเจน รวดเร็ว ประชาชนสัมผัสได้ 2.เรื่องกฎหมาย ให้แก้ไขข้อบังคับให้สปท.อย่างน้อย 2 คน เข้าไปมีส่วนเป็นกมธ.ร่วมกับสนช.พิจารณากฎหมายแต่ละฉบับโดยเฉพาะฉบับที่เกี่ยวกับการปฎิรูป รวมไปถึงร่วมพิจารณากฎหมายลูกด้วย

วิษณุยันไม่มีสัญญาณเซ็ตซีโร่

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการพิจารณากฎหมายลูก ว่า เมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้แล้ว กรธ.พิจารณากฎหมายลูกเสร็จแล้ว สามารถเสนอมาที่รัฐบาลเพื่อเสนอเข้าที่ประชุม สนช. หากเสนอได้เร็วก็จะเป็นเรื่องดี เพราะกฎหมายลูกสามารถพิจารณา ในสภาได้ก่อนที่รัฐธรรมนูญจะประกาศใช้ แม้กฎหมายลูกทั้ง 10 ฉบับรัฐบาลสามารถจะแก้ไขได้แต่รัฐบาลจะไม่แก้ไขเนื้อหาที่ กรธ.เขียนมา อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่มีสัญญาณว่าจะมีการเซ็ตซีโร่ทั้งพรรคการเมืองและองค์กรอิสระ

นายวิษณุกล่าวถึงการทำงานของสปท.หลังรัฐธรรมนูญประกาศใช้นั้นต้องเร่งดำเนินการจัดยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และพ.ร.บ.ปฏิรูปประเทศให้แล้วเสร็จ ภายในเวลา 4 เดือน เมื่อกฎหมายดังกล่าวมีผลบังคับใช้แล้ว สปท.ก็จะหมดวาระในการทำงาน

นายวิษณุกล่าวว่า ส่วนข้อเสนอของ สปท.ที่ให้เพิ่มเงินค่าตอบแทนของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองเพื่อป้องกันการทุจริตนั้น นายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธาน กรธ. พูดเรื่องนี้มา 10 กว่าปีแล้วว่าควรกำหนดเงินเดือนของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองให้สูงและกำหนดโทษให้หนัก

“ที่มีการวิพากษ์วิจารณ์ว่านักการเมืองรับเงินทางโน้นทางนี้แล้วยังจะขึ้นเงินเดือนให้อีก เรื่องแบบนี้จะมีเฉพาะตอนนี้เท่านั้น แต่เมื่อเลือกตั้งแล้วจะทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะ อย่างน้อยข้าราชการประจำจะมาเป็นรัฐมนตรี ส.ว. และส.ส. สองตำแหน่งไม่ได้ เพราะรัฐธรรมนูญบัญญัติไว้ว่าข้าราชการจะดำรงตำแหน่งทางการเมืองไม่ได้ หากจะเพิ่มเงินเดือนจริงทุกครั้งจะเขียนว่าให้มีผลเกิดขึ้นในรัฐบาลหน้า หรือเมื่อมีการเลือกตั้งครั้งหน้า แต่ผมไม่รู้เรื่องนี้ว่าเขาจะปรับอะไรอย่างไร ขณะนี้คณะกรรมการข้าราชการพลเรือน (ก.พ.) กำลังศึกษาเรื่องโครงสร้างเงินเดือนทั่วประเทศอยู่แล้ว หากผลออกมาว่าสมควรก็ต้องมาคุยกัน” นายวิษณุกล่าวว่า

ไม่ปฏิเสธเพิ่มผู้ช่วยรมต. 10 ที่นั่ง

เมื่อถามกรณี ครม.เห็นชอบให้เพิ่มตำแหน่งผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีอีก 10 ตำแหน่ง จะเตรียมไว้ช่วยงานในด้านใด นายวิษณุกล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ปรารภว่างานรัฐบาลมีมาก เดิมทีมีผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำสำนักนายกฯ 30 คน และแจกจ่ายงานไปหมดแล้ว จึงต้องแต่งตั้งมาเพื่อติดตามงานบางเรื่อง เช่น มาช่วยงานผู้แทนพิเศษของรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ครม.ส่วนหน้า) หรือแก้ไขปัญหาข้าว ติดตามความคืบหน้านโยบายไทยแลนด์ 4.0 แต่ตอนนี้ยังไม่ได้ตั้งใครเข้ามา

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน