เมื่อวันที่ 23 เม.ย.นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีการเคลื่อนไหวให้รื้อถอนบ้านพักผู้พิพากษา ดอยสุเทพ จ.เชียงใหม่ ว่า ตนมีความรู้สึกว่าไปถกเถียงในบางประเด็นแล้วทำให้สับสน ทำให้เกิดการโต้ตอบที่ไม่เป็นประโยชน์เท่าไหร่ ซึ่งตนมองว่าเงินที่เสียก็เสียไปแล้ว ไม่ว่าตัดสินใจอย่างไรเงินก็ไม่ได้กลับมา คำถามคือเราอยากได้อะไร และการได้อะไรจากนี้ไปมีต้นทุนเท่าไหร่ ถ้ารัฐบาลบอกว่าทำต่อไป หรือรัฐบาลบอกว่าปรับเป็นศูนย์เรียนรู้ หรือคืนเป็นพื้นที่ป่า เงินก้อนที่ผ่านมาอย่างไรก็ไม่มีความแตกต่างเหมือนกันหมด ไม่ต้องไปคิดว่าทำอย่างนี้เสียด้าย อย่างนี้ไม่เสียดาย ตนถึงบอกว่าเราน่าจะตัดสินใจได้ว่าดูพื้นที่ตรงนี้แล้วเราอยากให้เป็นอะไร ซึ่ง ที่เขาเรียกร้องกันคืออยากได้พื้นที่ป่าคืน ซึ่งจะมีต้นทุนคือการรื้อถอนและการปลูกป่า อย่าไปคิดกี่ร้อยล้านบาทที่จมไปแล้ว เพราะจะทำอะไรก็จมไปแล้ว ซึ่งก็ต้องถามว่าคุ้มค่าหรือไม่กับการรื้อถอน แล้วทำให้คืนสภาพป่า
“ในความรู้สึกเบื้องต้นของผมยังเห็นว่ามันคุ้ม ผมดูสภาพเชิงดอยตรงนั้น ใจผมอยากให้เป็นป่าที่ไม่แหว่ง ซึ่งผมคิดว่ามันคุ้มกับการที่จะลงทุนถ้าอยากได้ป่า นอกจากจะได้ป่าคืนยังเป็นการลงทุนที่ผมคิดว่าจะช่วยปราม ป้องกัน ไม่ให้เกิดกรณีแบบนี้ขึ้นอีก ไม่ว่ากรณีนี้จะถูกหรือผิดกฎหมาย และช่วยปรามว่าต่อไปถ้ามีกรณีอย่างนี้แม้จะถูกกฎหมาย แต่สังคมไทยได้ตัดสินใจแล้วว่าเราเห็นคุณค่าความอุดมสมบูรณ์บางพื้นที่ที่ต้องอนุรักษ์ รักษาไว้ หากปล่อยไปพื้นที่อื่นก็อาจจะตามมาอีก และระหว่างบอกว่าให้ผู้พิพากษาไปอยู่บอกว่าไปใช้เพื่อประโยชน์อย่างอื่น ผมมองว่าถ้าสภาพพ้นที่มีคนไปใช้ อย่างไรก็ไม่กลมกลืนและอุดมสมบูรณ์ ดังนั้นขอให้ตัดสินใจว่าการรื้อถอนคืนสภาพป่าเป็นการลงทุนที่คุ้ม ส่วนเรื่องอดีตก็ต้องไปตรวจสอบรายละเอียดว่าเกิดอะไรขึ้น” นายอภิสิทธิ์ กล่าว