กรมป่าไม้จับมือสำนักพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจิสด้า ติดตามการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าไม้ เพื่อรักษาทรัพยากรป่าไม้ของประเทศ 102.4 ล้านไร่ ให้คงอยู่อย่างสมบูรณ์ เผยประสิทธิภาพของจิสด้า รุกป่าแค่ 1 ไร่ ก็สามารถเห็นความเปลี่ยนแปลง พร้อมส่งข้อมูลเข้าสมาร์ทโฟน เพื่อให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่สกัดยับยั้งขบวนการตัดไม้ได้อย่างทันท่วงที

นายชลธิศ สุรัสวดี อธิบดีกรมป่าไม้ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) กล่าวว่า ตามนโยบายของรัฐบาลในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทย หรือโมเดลพัฒนาไทยแลนด์ 4.0 กรมป่าไม้ได้นำเทคโนโลยีมาปรับเปลี่ยนการดำเนินงานให้สอดรับกับนโยบายของรัฐบาล โดยได้นำภาพถ่ายดาวเทียมมาใช้ในการติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ป่าไม้ ซึ่งในปีงบประมาณ พ.ศ. 2560 กรมป่าไม้ร่วมกับสำนักพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือจิสด้า ทำโครงการติดตามการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ป่าไม้แบบบูรณาการ โดยการนำภาพดาวเทียมมาใช้ในการติดตามพื้นที่ที่ถูกบุกรุกได้รวดเร็ว พร้อมทั้งสามารถส่งผ่านข้อมูลให้กับเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ได้รับทราบอย่างทันท่วงที

“ปัจจุบันทรัพยากรป่าไม้ของประเทศไทยเหลือเพียง 102.4 ล้านไร่ เราจึงนำเทคโนโลยีสารสนเทศที่มีความทันสมัยมาเป็นเครื่องมือในการติดตามสภาพพื้นที่ป่าไม้ที่มีการเปลี่ยนแปลงเพื่อป้องกันไม่ให้มีการบุกรุกป่าเพิ่มอีกเด็ดขาด และกรมป่าไม้พร้อมจะเร่งผลักดันภารกิจด้านต่างๆ ที่สามารถนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ร่วมกับการทำงานเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการด้านทรัพยากรป่าไม้ของประเทศต่อไป” อธิบดีกรมป่าไม้ กล่าว

นายอรรถพล เจริญชันษา ผอ.สำนักป้องกันรักษาป่าและควบคุมไฟป่ากรมป่าไม้ กล่าวว่า การใช้ภาพถ่ายดาวเทียมของจิสด้าจะสามารถทราบการเปลี่ยนแปลงพื้นที่ป่าได้ตั้งแต่ 1 ไร่ ขึ้นไป ซึ่งข้อมูลดังกล่าวจะมีการอัพเดททุก 15-30 วัน แบบเรียลไทม์ ทั้งนี้เมื่อพบการเปลี่ยนแปลงของพื้นที่ ทางจิสด้าจะส่งข้อมูลผ่านโทรศัพท์สมาร์ทโฟนของเจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่า เพื่อให้เจ้าหน้าที่ลงพื้นที่เข้าตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว และเข้าถึงพื้นที่เป้าหมายอย่างแม่นยำ นอกจากนี้จะได้วิเคราะห์ข้อมูลการเปลี่ยนแปลงสภาพพื้นที่ป่าพร้อมสรุปผลเพื่อเก็บเป็นฐานข้อมูลเป็นประจำทุกเดือน เพื่อใช้ในการวางแผนการดำเนินงาน ไม่ว่าจะเป็นการปลูกป่า ไฟป่า ตลอดจนการลงพื้นที่เพื่อยับยั้งปัญหาการบุกรุกป่าได้ทันสถานการณ์ สำหรับสถิติคดีป่าไม้ ปีงบประมาณ 2557 – 2560 สามารถดำเนินคดีไปแล้ว 9,753 คดี ผู้ต้องหา 2,402 คน เนื้อที่บุกรุก 322,891.47 ไร่ ที่กรมป่าไม้สามารถทวงคืนมาได้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2557 ดำเนินคดีบุกรุกป่าได้ 3,187 คดี ผู้ต้องหา 881 คน เนื้อที่บุกรุก 81,941.59 ไร่ ปีงบประมาณ 2558 ดำเนินคดีบุกรุกป่าได้ 3,443 คดี ผู้ต้องหา 797 คน เนื้อที่บุกรุก 141,065.16 ไร่ ปีงบประมาณ 2559 ดำเนินคดีบุกรุกป่าได้ 2,569 คดี ผู้ต้องหา 583 คน เนื้อที่บุกรุก 86,856.97 ไร่ และปีงบประมาณ 2560 ดำเนินคดีบุกรุกป่าได้แล้ว 554 คดี ผู้ต้องหา 141 คน เนื้อที่บุกรุก 13,027.75 ไร่ ซึ่งจะเห็นได้ว่าภายหลังที่มีการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด สถิติการบุกรุกป่าลดน้อยลง ในขณะที่มีจับกุมดำเนินคดีได้มากขึ้น ถือเป็นการดำเนินการเชิงรุกที่เน้นด้านการป้องกันการบุกรุกพื้นที่ป่าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน