‘ฝ้า’ ปัญหาผิวหนังที่แม้จะไม่ก่อให้เกิดอันตรายกับผิวหน้า แต่ก็ทำให้สาวๆ หลายคนกลุ้มใจไม่น้อย เพราะนอกจากจะทำลายความมั่นใจแล้ว การรักษาให้หายขาดยังทำได้ยากอีกด้วย อย่างไรก็ตาม หากได้รับวิธีการรักษาฝ้าอย่างถูกวิธีก็อาจช่วยให้รอยฝ้า กระ และจุดด่างดำบนใบหน้าลดเลือนและจางลงได้เช่นกัน ซึ่งการรักษาฝ้าอย่างถูกวิธีสามารถทำได้อย่างไรบ้างนั้น มาศึกษาและทำความเข้าใจไปพร้อมกันเลย
สาเหตุของการเกิดฝ้า
ฝ้า เป็นปัญหาผิวพรรณที่เกิดจากการที่เม็ดสีหรือเมลานินถูกผลิตมากจนเกินไป ซึ่งโดยส่วนใหญ่แล้วมักเกิดกับบริเวณผิวหนังที่สัมผัสกับแดดมาก ไม่ว่าจะเป็น โหนกแก้ม หน้าผาก หรือคาง ซึ่งนอกจากแสงแดดแล้ว ปัจจัยอื่นๆ ก็อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน เช่น การรับประทานยาคุมกำเนิด การตั้งครรภ์ การใช้เครื่องสำอางบางชนิด และกรรมพันธุ์ เป็นต้น
การรักษาฝ้าอย่างถูกวิธี
ปัจจุบันยังไม่มีวิธีใดที่จะช่วยรักษาฝ้าให้หายขาดได้ อย่างไรก็ตาม ผู้ที่มีปัญหาฝ้าซึ่งเกิดมาจากการรับประทานยาฮอร์โมนหรือการตั้งครรภ์ ฝ้าอาจลดเลือนลงและจางหายเองได้เมื่อคลอดบุตรหรือหยุดรับประทานยานั้นๆ ทั้งนี้ การรักษาฝ้าจะต้องใช้หลายวิธีร่วมกันเพื่อประสิทธิภาพที่ดีที่สุด ซึ่งการรักษาฝ้าอย่างถูกวิธีสามารถทำได้ด้วยวิธีต่อไปนี้
การรักษาด้วยยา เป็นวิธีการรักษาที่ได้ผลดีและปลอดภัย แต่อาจต้องใช้ระยะเวลานานจึงจะเห็นผล ซึ่งการรักษาฝ้าด้วยวิธีนี้ได้ผลดีกับฝ้าตื่นมากกว่าฝ้าลึก โดยยาที่ใช้มักเป็นยาในรูปแบบครีมที่มีส่วนผสมของสารฟอกสีเป็นส่วนผสมหลัก เช่น ยาทากลุ่มไฮโดรควิโนน, ยาทากลุ่มกรดวิตามินเอหรือเรตินอยด์, กรดอะซีลาอิก, กรดโคจิก, คอร์ติโคสเตียรอยด์ และกรดไกลโคลิก
การผลัดเซลล์ผิวหนัง เป็นการกำจัดเม็ดสีที่มีอยู่ให้ออกไป โดยใช้สารที่มีความเป็นกรดหรือสารฟอกขาว เช่น กรดซาลิซิลิก หรือกรดไกลโคลิก ช่วยเร่งให้เกิดการผลัดเซลล์ผิวหนังชั้นนอก ซึ่งการรักษาด้วยวิธีนี้จำเป็นต้องทำโดยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะอาจก่อให้เกิดรอยแผลเป็นถาวรได้และอาจเสี่ยงทำให้สีผิวเข้มขึ้นด้วย
การรักษาด้วยเลเซอร์ เป็นการรักษาที่ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน เพราะสามารถปรับสภาพและรักษาความผิดปกติของสีผิวได้อย่างตรงจุด เช่น เลเซอร์ระบบคิวสวิทซ์ อย่างไรก็ตาม การรักษาฝ้าด้วยวิธีนี้ไม่ใช่ทางเลือกหลักของแพทย์ เพราะไม่ได้เป็นการรักษาที่ต้นเหตุ จึงทำให้ฝ้าจางลงเพียงชั่วคราวเท่านั้น
ทั้งนี้ นอกจากจะดูแลตัวเองด้วยการรักษาฝ้าอย่างถูกวิธีแล้ว ควรปกป้องผิวตัวเองอีกขั้นด้วยการหลีกเลี่ยงการเผชิญกับแสงแดดโดยตรงและทาครีมกันแดดที่มีค่า SPF30+ ขึ้นไปก่อนออกจากบ้านเป็นประจำ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้เครื่องสำอางที่ไม่ได้มาตรฐานเพื่อป้องกันโอกาสเสี่ยงที่อาจทำให้เกิดฝ้าได้
