ดร.นพ.จรุง เมืองชนะ ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ (สวช.) เปิดเผยว่า วงการแพทย์ทั่วโลกต่างให้การยอมรับมาช้านานว่า การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคด้วยวัคซีนเป็นวิธีป้องกันโรคที่มีประสิทธิภาพสูง และมีความคุ้มค่าในเชิงเศรษฐศาสตร์สาธารณสุข เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายต่อคนไม่มากเมื่อเทียบกับค่าใช้จ่ายใน การรักษาพยาบาลกรณีผู้ป่วยไม่ได้รับหรือเข้าไม่ถึงวัคซีนป้องกันโรคนั้น ๆ แต่ด้วยข้อจำกัดในเรื่องการรับรู้ข้อมูลข่าวสารหรือสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ องค์การอนามัยโลกจึงกำหนดให้สัปดาห์สุดท้ายของเดือนเมษายนของทุกปี เป็นสัปดาห์แห่งการรณรงค์การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโลก (World Immunization Week) เพื่อส่งเสริมการใช้วัคซีนเพื่อป้องกันโรคแก่คนทุกวัย
“สัปดาห์แห่งการรณรงค์การสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโลกในปีนี้อยู่ในช่วงวันที่ 24-30 เมษายน โดยปีนี้องค์การอนามัยโลกกำหนดหัวข้อรณรงค์ว่า VaccinesWork หรือวัคซีนได้ผล เป็นการตอกย้ำว่าการส่งเสริมภูมิคุ้มกันด้วยวัคซีน เป็นกลไกหนึ่งในการป้องกันโรคที่ประสบความสำเร็จและมีความคุ้มค่าทางเศรษฐกิจ อย่างไรก็ดีปัจจุบันยังมีเด็กจำนวน 19.4 ล้านคนทั่วโลกไม่ได้รับวัคซีนหรือรับวัคซีนไม่ครบถ้วน ดังนั้นทุกหน่วยงานต้องรณรงค์อย่างแข็งขันให้มีการใช้วัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรคตลอดชีวิตแก่คนทุกเพศทุกวัย และที่สำคัญเพื่อให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืนขององค์การสหประชาชาติในปี ค.ศ. 2030 (พ.ศ.2573) อีกด้วย” ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ ระบุ
ดร.นพ.จรุง กล่าวอีกว่า เพื่อให้คนไทยเห็นความสำคัญของการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคทุกช่วงวัย และตระหนักถึงการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคอย่างยั่งยืนและมีความต่อเนื่อง สถาบันวัคซีนแห่งชาติได้จัดทำวัสดุสุขศึกษาประชาสัมพันธ์เพื่อการรณรงค์จำนวนกว่า 1,000 ชุด แจกจ่ายไปยังโรงพยาบาลและสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ พร้อมกันนี้ได้ร่วมกับภาคีเครือข่ายจัดกิจกรรมรณรงค์สัปดาห์แห่งการสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรคโลก พ.ศ.2560 (World Immunization Week 2017) จัดเสวนาสาธารณะเรื่อง “วัคซีนสำหรับสำหรับคนทุกวัย…เพื่อประชาชน” ในวันจันทร์ที่ 24 เมษายน 2560 เวลา 12.30-16.30 น. ณ โรงแรม ดิ เอมเมอรัลด์ ถนนรัชดาภิเษก เขตดินแดง กรุงเทพฯ
นอกจากนี้สถาบันวัคซีนแห่งชาติยังร่วมกับภาคีเครือข่ายลงพื้นที่ประชาสัมพันธ์ “วัคซีนสำหรับสำหรับคนทุกวัย…เพื่อประชาชน” เพื่อให้ความรู้และกิจกรรมชิงรางวัล ในวันพฤหัสบดีที่ 27 เมษายน เวลา 15.00-18.00 น. บริเวณตลาดท่าน้ำนนท์ อำเภอเมือง จังหวัดนนทบุรี และวันเสาร์ที่ 29 เมษายนเวลา 13.00-16.00 น. ณ ห้างสรรพสินค้าเมเจอร์รัชโยธิน ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ
