กรมชลประทาน เดินหน้าศึกษาโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสีสุก จังหวัดสุราษฎร์ธานี หวังแก้ปัญหาขาดแคลนน้ำ

นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน นำคณะสื่อมวลชนลงพื้นที่โครงการศึกษาผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้น อ่างเก็บน้ำคลองสีสุกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อติดตามผลการดำเนินโครงการฯ พร้อมพบปะแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้นำชุมชนและประชาชนในพื้นที่ โดยมีนายวิจารณ์ จุนทวิจิตร นายอำเภอพนม ผู้นำชุมชน ส่วนราชการ และผู้เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกิจกรรม

นายเฉลิมเกียรติ คงวิเชียรวัฒน์ รองอธิบดีกรมชลประทาน กล่าวว่า โครงการอ่างเก็บน้ำคลองสีสุกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เกิดจากประชาชนในพื้นที่ตำบลคลองชะอุ่น อำเภอพนม จังหวัดสุราษฎร์ธานี ประสบปัญหาขาดแคลนน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตรไม่เพียงพอ โดยเฉพาะในช่วงที่ฝนทิ้งช่วงติดต่อกันเป็นเวลานาน รวมทั้งขาดแคลนน้ำในช่วงฤดูแล้งเกือบทุกปี

ผู้นำชุมชนตำบลคลองชะอุ่น จึงได้มีหนังสือขอพระราชทานพระมหากรุณาในการก่อสร้างอ่างเก็บน้ำคลองสีสุก ต่อมาในวันที่ 5 พฤษภาคม 2534 พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ รับโครงการอ่างเก็บน้ำคลองสีสุก ไว้เป็นโครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ เพื่อเป็นแหล่งน้ำต้นทุนให้กับชาวตำบลคลองชะอุ่น อำเภอพนม รวมไปถึงพื้นที่ใกล้เคียงด้วย

ทั้งนี้ เนื่องจากพื้นที่โครงการบางส่วนอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าย่านยาว ป่าเขาวง และป่ากระชุม ซึ่งเป็นป่าอนุรักษ์เพิ่มเติม (ป่าโซน ซี) จึงต้องมีการจัดทำรายงานผลกระทบสิ่งแวดล้อมเบื้องต้นให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 26 เมษายน 2554 รวมทั้งการจัดทำมาตรการป้องกันและแก้ไขผลกระทบ สิ่งแวดล้อมและมาตรการติดตามตรวจสอบผลกระทบสิ่งแวดล้อม การศึกษาจึงมุ่งเน้นให้ประชาชนและทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วม เพื่อให้เกิดการยอมรับร่วมกันทุกฝ่าย

โครงการอ่างเก็บน้ำคลองสีสุกอันเนื่องมาจากพระราชดำริ มีพื้นที่หัวงานตั้งอยู่หมู่ที่ 7 บ้านบางเตย ตำบลคลองชะอุ่น อำเภอพนม เป็นอ่างเก็บน้ำขนาดกลาง ความจุเก็บกักประมาณ 3.82 ล้านลูกบาศก์เมตร พร้อมระบบส่งน้ำด้วยระบบท่อส่งน้ำและส่งน้ำลงลำน้ำเดิม

หากโครงการพัฒนาจนแล้วเสร็จ จะมีพื้นที่รับประโยชน์ที่เพิ่มขึ้นประมาณ 4,300 ไร่ ครอบคลุม 3 หมู่บ้านในเขตตำบลคลองชะอุ่น ได้แก่ บ้านแสนสุข บ้านบางเตย และบ้านทับคริสต์ จำนวน 996 ครัวเรือน และมีฝายในลำน้ำอีก 3 แห่ง ที่ได้รับประโยชน์ คือ ฝายบ้านตาวรรณ์ ฝายบ้านแสนสุข และฝายถ้ำลอด รวมพื้นที่รับประโยชน์ 4,150 ไร่ จำนวน 962 ครัวเรือน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน