นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วย ดร. วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย นำผู้บริหารระดับสูงของกระทรวงมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย พร้อมด้วยข้าราชการ เจ้าหน้าที่ และประชาชนจิตอาสา ร่วมกันประดิษฐ์ผีเสื้อแห่งความจงรักภักดีจากผ้าไทยชนิดต่าง ๆ เพื่อนำไปตกแต่งนิทรรศการเฉลิมพระเกียรติ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เนื่องในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา 90 พรรษา 12 สิงหาคม 2565 ภายใต้ชื่อ “ด้วยรักแห่งแผ่นดิน : With Love for the Nation” ระหว่างวันที่ 1 – 15 สิงหาคม 2565 ณ บริเวณถนนราชดำเนินกลาง ตั้งแต่สะพานผ่านฟ้าลีลาศถึงอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย”

ปลัดกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า นับเป็นระยะเวลากว่า 70 ปี ที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ทรงปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานับการ เคียงข้างพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ด้วยทรงวิริยะ อุตสาหะ ตรากตรำพระวรกาย ด้วยสายพระเนตรที่กว้างไกล ด้วยน้ำพระทัยที่เมตตา เพื่อให้พี่น้องประชาชนพสกนิกรชาวไทย ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดี มีอาชีพ มีงานทำ มีรายได้ มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง มีครอบครัวที่อบอุ่น และมีสังคมไทยที่เต็มไปด้วยรอยยิ้ม ความเมตตา ความเกื้อการุณย์ ความเอื้ออาทรต่อกัน

“ในวันนี้ พี่น้องชาวมหาดไทย และสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ส่วนกลางทุกคน และภาคีเครือข่าย ต่างพร้อมใจกันร่วมถวายความจงรักภักดีและแสดงความกตัญญูกตเวทีด้วยการปฏิบัติบูชา โดยการนำผ้าไทยชนิดต่าง ๆ ซึ่งเป็นประจักษ์พยานแห่งน้ำพระราชหฤทัยของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง มาประดิษฐ์เป็นผีเสื้อที่มีความสวยสดงดงาม มีรูปแบบ รูปลักษณ์ ลวดลายที่หลากหลาย ซึ่งถือเป็นการร่วมทำสิ่งที่ดีถวายแด่พระองค์ท่าน ร่วมกับพี่น้องข้าราชการและประชาชนในทุกจังหวัดที่ได้ร่วมกันประดิษฐ์ผีเสื้อด้วยความตั้งใจ ซึ่งผีเสื้อแห่งความจงรักภักดีจากผ้าไทยนี้ ทางกระทรวงมหาดไทยจะส่งมอบให้กับสำนักนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 กรกฎาคม 2565 เพื่อใช้ในการตกแต่งประดับนิทรรศการ และเนื่องในโอกาสมหามงคลนี้ ทางกระทรวงมหาดไทย ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนคนไทย รวมถึงภาคีเครือข่าย ทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาควิชาการ พระผู้นำศาสนา ภาคประชาสังคม ภาคประชาชน และภาคสื่อมวลชน ได้ร่วมกันริเริ่มโครงการ/กิจกรรมที่เป็นประโยชน์กับสังคมไทย ทั้งการสวมใส่ผ้าไทย การช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และกิจกรรมด้านอื่น ๆ เพื่อเป็นการปฏิบัติบูชาน้อมถวายเป็นพระราชกุศล เนื่องในโอกาสมหามงคลดังกล่าว เพื่อที่จะร่วมกันสร้างสรรค์สิ่งที่ดีให้เกิดขึ้นกับประเทศไทยด้วยความจงรักภักดี โดยพร้อมเพรียงกัน

ปลัด มท. เผยว่าก่อนหน้านี้ ผมและทางนายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานโครงการสืบสานพระราชปณิธาน “นาหว้าโมเดล” ในโอกาสครบรอบ 50 ปี ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระองค์ทรงมีพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ โดยตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พระองค์ทรงมีพระราชวินิจฉัยและพระราชทานแนวพระราชดำริเพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทยในชนบทให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยทรงมุ่งมั่นทุ่มเทเพียรพยายามในการที่ดูแลทุกข์สุขของพสกนิกรชาวไทย ด้วยกุศโลบายที่สำคัญ คือ การนำเอาภูมิปัญญาผ้าไทยที่คนไทยในชนบททั่วประเทศ ได้รับการถ่ายทอดภูมิปัญญาผ้าไทยสืบสายโลหิตกันมาอย่างไม่ขาดสาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ณ พื้นที่บ้านนาหว้า อ.นาหว้า จ.นครพนม เป็นจุดเริ่มต้นที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จมาทรงช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยพร้อมกับพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และทอดพระเนตรเห็นผู้คนที่มาเฝ้ารับเสด็จต่างสวมใส่ผ้าไหมที่ทอเอง โดยทรงครุ่นคิดว่าจะช่วยเหลือพี่น้องชาวนาและเกษตรกรที่มาเฝ้าฯ ให้มีอาชีพเสริมเพื่อทำให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น โดยพระราชทานแนวความคิดไปสู่การปฏิบัติ ด้วยการทรงส่งเสริมให้ประชาชนในพื้นที่แห่งนี้ได้ทอผ้า เพื่อที่จะขายให้พระองค์พระองค์ท่านก่อน เป็นที่มาของคำว่า “ขาดทุนคือกำไร”

อีกทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนใช้เวลาว่างจากการทำเกษตรกรรมให้เป็นประโยชน์ด้วยการทอผ้าเป็นอาชีพเสริม โดยทรงจัดตั้งโครงการศิลปาชีพ เมื่อปี 2515 ถือเป็นโครงการศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง แห่งแรก โดยพระราชทานแนวทางให้ประชาชนทำงานรวมกันเป็นกลุ่ม เพื่อจะได้พึ่งพาอาศัยช่วยเหลือกัน ซึ่งตรงกับหลักการบริหารสมัยใหม่

ด้าน ดร. วันดี กุญชรยาคง จุลเจริญ นายกสมาคมแม่บ้านมหาดไทย กล่าวว่า ภาพที่ชินตา คือพระองค์ท่านจะทรงงานหนักมาก โดยเฉพาะเวลาทรงงานเรื่องผ้า จากทรงทอดพระเนตรเป็นเวลาหลายชั่วโมงมาก เพื่อทรงดูรายละเอียด ซึ่งไม่มีพระราชินีพระองค์ไหนในโลกทรงงานหนักเท่าสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง โดยทรงก่อตั้ง “กลุ่มทอผ้าไหมกลุ่มแรกของมูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ” ที่อำเภอนาหว้า จังหวัดนครพนม ซึ่งถือเป็นโครงการส่งเสริมศิลปาชีพแห่งแรก เป็นจุดเริ่มต้นของการชุบชีวิต ต่อลมหายใจ ผ้าไทย เพื่อช่วยเหลือพี่น้องประชาชนคนไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยการทรงส่งเสริมยุยงให้ประชาชนในพื้นที่ทอผ้าเพื่อที่จะขายให้พระองค์ท่านก่อน เป็นที่มาของคำว่า ขาดทุนคือกำไร ทั้งยังเป็นการส่งเสริมให้เกษตรกรได้ใช้เวลาว่างจากการทำเกษตรกรรมให้เป็นประโยชน์ด้วยการทอผ้าเป็นอาชีพเสริม สร้างงาน สร้างอาชีพ สร้างรายได้ สร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับครอบครัว ให้กับลูกหลาน ได้ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข

สำหรับ “ผีเสื้อแห่งความจงรักภักดี” มีแนวคิดมาจากเมื่อครั้งที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เสด็จพระราชดำเนินเยี่ยมราษฎรบ้านถ้ำติ้ว อำเภอส่องดาว จังหวัดสกลนคร เมื่อวันที่ 20 ธันวาคม 2525 ได้ทรงมีพระราชเสาวนีย์กับราษฎร ความว่า “พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า” ซึ่งนับตั้งแต่บัดนั้นจนถึงปัจจุบัน ป่าไม้ทั่วประเทศไทยล้วนมีแต่ความอุดมสมบูรณ์ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร สร้างคุณค่า สร้างคุณภาพชีวิต ให้กับพี่น้องประชาชน รวมไปถึงสร้างสิ่งแวดล้อมที่ดีให้กับทรัพยากรทางธรรมชาติ โดย “ผีเสื้อ” ถือเป็นแมลงที่เป็นสัญลักษณ์แห่งความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและป่าไม้ ความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศ ด้วยเพราะน้ำพระราชหฤทัยแห่งองค์สมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทำให้ประชาชนได้อยู่ดีกินดีใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ และน้อมนำแนวพระราชดำริ พระราชเสาวนีย์ ในการร่วมกันปลูกป่า ปลูกต้นไม้ เพื่ออนุรักษ์ธรรมชาติ อันแสดงความกตัญญูกตเวทีแด่พระองค์ท่าน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน