กรมฝนหลวงฯ เดินหน้าเพิ่มประสิทธิภาพในการดําเนินงานวาง 3 แนวทางเสริมศักยภาพและลดข้อจํากัดปฏิบัติการ ฝนหลวง เร่งประสานบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พัฒนาเทคโนโลยีและงานวิจัย สร้างเครือข่ายเพิ่มจํานวน อาสาสมัครฝนหลวง มั่นใจจะช่วยบรรเทาภัยแล้งได้ตรงจุด

นายสุพิศ พิทักษ์ธรรม รองอธิบดีรักษาราชการแทนอธิบดีกรมฝนหลวงและการบินเกษตร เปิดเผยว่า กรมฝนหลวงฯ ได้วางแนวทางในการเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติการฝนหลวงไว้ 3 แนวทางคือ 1.บูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่บริหารจัดการแหล่งน้ำภาครัฐ เช่น กรมชลประทาน ในการจัดทำแผนที่ ขอบเขตอ่างเก็บน้ำที่ชัดเจนเพื่อภารกิจปฏิบัติการเติมน้ำเข้าเขื่อนได้อย่างแม่นยำเพื่อเพิ่มน้ำต้นทุนช่วงหน้าแล้งให้เพียงพอต่อการใช้งาน รวมไปถึงประสาน เชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ในการใช้ข้อมูลสภาพอากาศเพื่อประกอบการวางแผนปฏิบัติงานให้มีผลสัม ฤทธิ์ผลอย่างเต็มที่

2.พัฒนางานวิจัยที่ได้คิดค้นเพื่อช่วยเพิ่มโอกาส และลดข้อจำกัดในการปฏิบัติการฝนหลวง เช่น เทคโนโลยี การพ่นสารจากพื้นสู่ก้อนเมฆ เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานในพื้นที่เขตเงาฝน การใช้เรดาร์คำนวณ ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณเมฆกับปริมาณน้ำฝน หรือการใช้อากาศยานไร้คนขับที่จะช่วยประหยัดงบประมาณ และลดความเสี่ยงภัยต่อบุคลากร เป็นต้น

และ3. ให้ศูนย์ปฏิบัติการฝนหลวงทั่วทุกภูมิภาค มีอำนาจการตัดสินใจได้คล่องตัวมากขึ้น พร้อมทั้งเร่งสร้างเครือข่ายประชาชน ต่อยอดอาสาสมัครฝนหลวงให้มากขึ้นครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ เพ่ือเป็นการช่วยให้การกระจายข่าวจากกรมฝนหลวงฯสู่ประชาชน และการรับข้อมูลในพื้นที่จากเกษตรกรให้มีความถูกต้องมากยิ่งขึ้น รวมถึงเรื่องการ ขอรับบริการฝนหลวงเพื่อให้การช่วยเหลือบรรเทาปัญหาภัยแล้งอย่างรวดเร็วทันเหตุการณ์ และตรงจุดมากที่สุด

“การดำเนินงานตามแนวทางดังกล่าว จะสามารถสร้างความเชื่อมั่นให้เกษตรกรที่อยู่นอกเขตชลประทาน และห่างไกลแหล่งน้ำ ตลอดจนประชาชนในพ้ืนที่ประสบภัยแล้ง ว่า กรมฝนหลวงและการบินเกษตรจะปฏิบัติการฝนหลวงและให้การสนับสนุนในเรื่องต่างๆอย่างทันท่วงที เพื่อช่วยลดความเสียหายอันจะเกิดขึ้นได้” รองอธิบดีกรมฝนหลวงกลางทิ้งท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน