ฉีดเมโสแฟต คืออะไร ? ดีอย่างไร ? ฉีดจุดไหนได้บ้าง ? รวมทุกคำถามที่ควรรู้

ฉีดเมโสแฟต

ฉีดเมโสแฟต เป็นทางลัดในการลดไขมันส่วนเกินที่ลดได้ยาก แม้จะควบคุมอาหารและออกกำลังกาย แต่ยังไม่เห็นผลลัพธ์ชัดเจน โดยเฉพาะบริเวณแก้ม เหนียง ต้นแขน ต้นขา หน้าท้อง สำหรับใครที่กำลัง หาข้อมูลฉีดเมโสแฟต คืออะไร ? สลายไขมันได้อย่างไร ? เมโสแฟต ยี่ห้อไหนดี ? ราคาเท่าไหร่ ? และการเตรียมตัวก่อน-หลังฉีดเมโสแฟตไว้ในบทความนี้ครับ

สารบัญ ฉีดเมโสแฟต

  1. เมโสแฟต คืออะไร ?
  2. การทำงานของเมโสแฟต
  3. เลือกทำเมโสแฟตดีอย่างไร ?
  4. ใครบ้างเหมาะจะฉีดเมโสแฟต
  5. ฉีดเมโสแฟตจุดไหนได้บ้าง
  6. ฉีดเมโสแฟตยี่ห้อไหนดี
  7. ฉีดเมโสแฟต ราคาเท่าไหร่ ?
  8. การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต
  9. ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต
  10. การดูแลหลังการฉีดเมโสแฟต
  11. รวมคำถามเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟต

เมโสแฟต คืออะไร ?

เมโสแฟต คือ ตัวยาฉีดสลายไขมันส่วนเกินเฉพาะจุด มีสารออกฤทธิ์หลัก ๆ ที่ช่วยเร่งการเผาผลาญไขมัน ได้แก่

  • Artichoke extract (Cynara scolymus) กระตุ้นการสังเคราะห์ coenzyme ในกระบวนการ anabolism ลดเนื้อเยื่อไขมัน ลดการสังเคราะห์กรดไขมัน
  • Mesostabyl (Polyunsaturated phosphatidylcholine) กระตุ้นการทำงานของเอนไซม์ lipase, ลดการสร้าง triglyceride ยับยั้งการสร้าง cholessterol ในเนื้อเยื่อ
  • L-carnitine กระตุ้นให้ร่างกายดึงไขมันมาใช้เป็นพลังงานมากขึ้น เปลี่ยนไขมันเป็นพลังงาน (fat burn)
  • Tyrosine กระตุ้นการเผาผลาญไขมันของร่างกาย ทำให้ไขมันแตกตัวเล็กลง และถูกขับออก

นอกจากนี้ยังมีตัวยาในกลุ่มของ Phosphatidylcholine, Deoxycholate, Dexpanthenol, L-carnitine, Amino acid หรือ Minerals ซึ่งเป็นสารสกัดจากถั่วเหลือง ไข่แดงและวิตามินอีกหลายชนิด มีความปลอดภัย และช่วยลดไขมันได้จริง

การทำงานของเมโสแฟต

หลักการทำงานของเมโสแฟต หลังฉีดจะไปกระตุ้นระบบการทำงานของ metabolism ซึ่งเป็นกลไลการเร่งการสลายไขมันตามธรรมชาติของร่างกาย ทำให้ไขมันแตกตัวหรือสลายตัว และถูกขับออกทางการหายใจ เหงื่อ และระบบขับถ่าย (ปัสสาวะ อุจจาระ) ส่งผลให้ไขมันบริเวณที่ฉีดลดลง

เลือกทำเมโสแฟตดีอย่างไร ?

ข้อดีของเมโสแฟต คือ สามารถสลายไขมันเร่งด่วน ตรงจุด โดยไม่ต้องผ่าตัด ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะกับคนที่น้ำหนักตัวเกิน ต้องการลดไขมันเฉพาะจุด ลดเซลลูไลท์

นอกจากเมโสแฟต ยังมีหัตถการและเครื่องมืออื่น ๆ แต่จะลดไขมัน สลายไขมันวิธีไหนดี คนไข้ควรรู้ข้อมูลของแต่ละหัตถการและเครื่องมือก่อนครับ เพื่อเปรียบเทียบกันผลลัพธ์และความคุ้มค่า

  • ผ่าตัดกระพุ้งแก้ม เป็นการผ่าตัดเอาไขมันที่กระพุ้งแก้มออก ทำให้หน้าวีเชฟ รวดเร็ว ชัดเจน เหมาะกับคนที่ไม่กลัวการผ่าตัด ไม่กลัวเจ็บ และมีเวลาพักฟื้น แต่ต้องทำโดยศัลยแพทย์ที่มีประสบการณ์เท่านั้น ไม่เช่นนั้นอาจทำให้ใบหน้าผิดรูป หน้าตอบเกินไป (แก้ไขได้ด้วยการเติมฟิลเลอร์แก้มตอบ เพื่อปรับรูปหน้าให้ได้สัดส่วน)
  • ดูดไขมันแก้ม แม้จะได้ผลลัพธ์ที่รวดเร็ว แต่หมอไม่แนะนำให้ดูดไขมันบริเวณแก้มครับ เพราะมีความเสี่ยงสูง อาจโดนเส้นประสาททำให้หน้าเบี้ยว ปากเบี้ยวได้
  • ฉีดโบท็อก เป็นการฉีดสารโบทูลินั่ม ท็อกซิน ชนิด A (Botulinum Toxin Type A) เพื่อลดขนาดกล้ามเนื้อ ซึ่งต่างจากการฉีดเมโสแฟตที่ช่วยลดไขมัน แต่สามารถทำ 2 อย่างควบคู่กันได้ครับ เช่น คนที่ฉีดเมโสแฟตแก้มยุบแล้ว เห็นแนวกรามชัดขึ้น หมอแนะนำให้ฉีดโบท็อกกราม ลดกล้ามเนื้อกราม ปรับรูปหน้าให้เรียวกระชับขึ้น
  • Hifu Ultraformer lll / Ulthera SPT เป็นเครื่องยกกระชับผิวด้วยคลื่นเสียงอัลตราซาวด์ความถี่สูง พลังงานความร้อนที่ยิงลงไปใต้ชั้นผิวจะทำให้ผิวชั้นนั้นหดตัว ให้ผลลัพธ์ดีในการยกกระชับ นิยมใช้กระชับแก้ม กรอบหน้า เหนียง ลำคอ และรูปร่าง
  • Thermage FLX ใช้พลังงานคลื่นวิทยุความถี่สูง (Monopolar RF) ช่วยยกกระชับผิวหย่อนคล้อย กระตุ้นคอลลาเจน ทำได้หลายตำแหน่งทั้งใบหน้า รอบดวงตา และลำตัว เหมาะกับคนที่ลดน้ำหนักแล้วผิวไม่กระชับ หรือคุณแม่หลังคลอด หลังทำช่วยให้ผิวกระชับเรียบเนียนขึ้น
  • Coolsculpting เครื่องสลายไขมันด้วยความเย็น แช่แข็งเซลล์ในชั้นไขมัน ตัวเครื่องจะมีหัวดูดผิวเพื่อดึงชั้นไขมันเข้ามาไว้ในหัวของเครื่อง หัวดูดจะปล่อยความเย็น -11°C เพื่อแช่แข็งก้อนไขมัน จากนั้นจะใช้การนวดเพื่อให้เซลล์ไขมันตาย ลดจำนวนลงแบบถาวร และถูกร่างกายกำจัดออกไปตามธรรมชาติ นิยมทำบริเวณหน้าท้อง ต้นแขน ต้นขา เอว (ห่วงยาง) สะโพก

หากยังไม่แน่ใจว่าจะเลือกวิธีไหนดี สามารถปรึกษาหมอก่อนได้ครับ สำหรับคนไข้ที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากเจ็บตัว สามารถฉีดเมโสแฟต สามารถทำร่วมกับหัตถการและเครื่องมือ เช่น โบท็อก, Hifu , Ulthera, Thermage เพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้นในการสลายไขมันและยกกระชับผิวครับ

ใครบ้างเหมาะจะฉีดเมโสแฟต

  • คนที่มีไขมันสะสม และอยากสลายไขมันเฉพาะจุด
  • คนที่ไม่อยากผ่าตัด ไม่อยากเจ็บตัว ไม่อยากดูดไขมัน
  • คนที่ไม่มีเวลาพักฟื้น ไม่อยากยุ่งยากในการดูแลตัวเองหลังทำ
  • คนที่ออกกำลังกายหรือคุมอาหารแล้วไขมันบางส่วนไม่ลด

ฉีดเมโสแฟตจุดไหนได้บ้าง ?

  • เมโสแฟตแก้ม เป็นจุดที่ได้รับความนิยมที่สุดสำหรับคนที่ต้องการปรับรูปหน้าให้เรียวสวย
  • เมโสแฟตเหนียง ฉีดลดไขมันที่สะสมบริเวณใต้คาง ทำให้มีคางสองชั้น เป็นจุดที่ถ้าใช้วิธีทั่วไปจะลดได้ยากครับ
  • เมโสแฟตต้นแขน ลดไขมันสะสมบริเวณแขน แก้ปัญหาแขนใหญ่ (ในจุดนี้ต้องให้หมอประเมินว่าแขนใหญ่จากไขมันหรือว่ากล้ามเนื้อครับ)
  • เมโสแฟตต้นขา สลายไขมันสะสมบริเวณต้นขา แก้ปัญหาขาใหญ่
  • เมโสแฟตหน้าท้อง (พุง) ช่วยลดไขมันสะสมบริเวณหน้าท้อง แก้ปัญหาพุงย้วย

ฉีดเมโสแฟตยี่ห้อไหนดี ?

ตัวยาเมโสแฟต มีหลายยี่ห้อ มีจุดเด่นแตกต่างกัน ฉีดเมโสแฟตยี่ห้อไหนดี แพทย์จะประเมินปัญหา บริเวณที่ฉีด ระดับไขมัน และความต้องการของคนไข้ เพื่อแนะนำยี่ห้อเมโสแฟต พร้อมปริมาณการฉีดที่เหมาะสมให้ครับ

  • Phytobella ฉีดแล้วยุบดี ไม่บวมแดง ไม่ทำให้ผิวหย่อนคล้อย ขณะฉีดจะรู้สึกแสบเล็กน้อย
  • BABI-Neo one เมโสแฟตบาบินีโอวัน จากประเทศเกาหลี ช่วยสลายไขมันพร้อมยกกระชับ หลังฉีดไม่มีอาการบวมแดง
  • FNC เหมาะกับคนแก้มเยอะ ๆ ด้วยกลไกสลายไขมันด้วย Special Peptides ยุบดีและยุบไว

ฉีดเมโสแฟต ราคาเท่าไหร่ ?

ราคาเมโสแฟต จะแตกต่างกันไปตามยี่ห้อ ราคาเมโสแฟตในคลินิกที่ได้มาตรฐานจะไม่ได้แตกต่างกันมากครับ ขึ้นอยู่กับโปรโมชั่นในช่วงนั้น ๆ ที่ V Square Clinic ฉีดเมโสแฟต 6 CC ราคาเริ่มต้นครั้งละ 2,000 บาท มีทั้งราคาต่อครั้งและซื้อแบบเป็นคอร์ส

การเตรียมตัวก่อนฉีดเมโสแฟต

  • ศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับการทำเมโสแฟต และปัญหาที่ต้องการแก้ไข
  • ปรึกษาแพทย์ เพื่อให้แพทย์ตรวจประเมินใบหน้าและจุดที่ต้องการฉีด
  • แพทย์แนะนำยี่ห้อเมโสแฟต ปริมาณการฉีดที่เหมาะสม
  • งดยาในกลุ่มของ แอสไพริน, NSAIDs และ Dipyridamole ก่อนฉีดเมโสแฟต 48 ชม.
  • แจ้งประวัติการแพ้ยา และโรคประจำตัว

ขั้นตอนการฉีดเมโสแฟต

  • เมื่อมาถึงคลินิก จะมีเจ้าหน้าที่ทำความสะอาดใบหน้าในจุดที่ต้องการฉีด
  • ประคบน้ำแข็งในจุดที่จะฉีด เพื่อลดความเจ็บจากเข็ม
  • หมอค่อย ๆ ดันตัวยาเมโสแฟตเข้าไปจนหมด
  • หลังฉีดหมอจะแนะนำวิธีการปฏิบัติตัว กลับบ้านได้ทันที ไม่ต้องพักฟื้น

การดูแลหลังการฉีดเมโสแฟต

  • ไม่ควรกดหรือนวดในบริเวณที่ฉีด ตัวยาจะค่อยๆซึมยุบไปเอง
  • ควรดื่มน้ำให้เพียงพอ อย่างน้อยวันละ 2 ลิตร (การดื่มน้ำจะช่วยให้ไขมันถูกขับออกจากร่างกายได้มากขึ้น)
  • เปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหาร ลดของมัน ของทอด เพื่อไม่ให้ไขมันกลับมาอีก
  • ออกกำลังกาย เพื่อลดการสะสมของไขมัน
  • หลีกเลี่ยงการอบซาวน่า นวดหน้า หรือทำเลเซอร์อย่างน้อย 1 สัปดาห์
  • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอล์

รวมคำถามเกี่ยวกับการฉีดเมโสแฟต

ฉีดเมโสแฟตเจ็บไหม ?

การฉีดเมโสแฟต ไม่เจ็บครับ จะมีรู้สึกตอนต้องจิ้มเข็มเข้าไป และตอนที่ดันตัวยาเข้าสู่ชั้นผิวอาจรู้สึกแสบ ๆ เล็กน้อย

ฉีดเมโสแฟต บวมกี่วัน ?

หลังฉีดเมโสแฟตอาจมีอาการบวมได้เป็นปกติครับ อาการบวมจะยุบลงได้เองในระยะเวลาประมาณ 3-4 ชั่วโมง ยุบลงเต็มที่ภายใน 5-7 วัน

ฉีดเมโสแฟต ใช้กี่ CC ?

ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันของแต่ละคน หมอจะเป็นผู้ประเมินตามความเหมาะสมและแนะนำปริมาณการฉีดในแต่ละครั้ง ที่ V Square Clinic เริ่มต้นที่ 6 CC / ครั้ง หรือฉีดเหมาขวด โดย 1 ขวด มี 10 CC ครับ

ฉีดเมโสแฟต ต้องฉีดกี่ครั้ง ?

หากต้องการเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น สามารถฉีดซ้ำได้ครับ เช่น คนไข้ที่มีปริมาณไขมันมาก อาจต้องฉีดต่อเนื่อง 4-5 ครั้งขึ้นไป ที่คลินิกส่วนใหญ่จะมีทั้งแบบรายครั้ง และซื้อเหมาคอร์ส ขึ้นอยู่กับความต้องการของคนไข้ หากต้องการฉีดต่อเนื่องเพื่อผลลัพธ์ที่ชัดเจนขึ้น ตามการแนะนำของแพทย์ครับ

ฉีดเมโสแฟต กี่วันเห็นผล ?

เห็นผลลัพธ์ชัดเจนตั้งแต่ครั้งแรกที่ทำ ไขมันจะสลายตัวประมาณ 10-15% เห็นผลชัดเจนใน 2-3 สัปดาห์

ฉีดเมโสแฟต อยู่ได้นานแค่ไหน ?

โดยปกติฉีดเมโสแฟต คงผลลัพธ์อยู่ได้นาน 2-3 เดือน ขึ้นอยู่ปริมาณไขมัน และการดูแลตัวเองหลังฉีดเมโสแฟต เพื่อคงผลลัพธ์ให้อยู่ได้นาน ควรลดอาหารประเภทแป้งและน้ำตาล และออกกำลังกายควบคู่กันครับ

สรุป

วิธีฉีดเมโสแฟตที่ปลอดภัยและเห็นผล ควรฉีดกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ฉีดกับคนที่เป็นหมอจริง ๆ มีความรู้ด้านกายวิภาคโครงสร้างใบหน้าและร่างกาย ความตื้นลึกก็มีส่วนสำคัญในการฉีดเมโสแฟต ซึ่งเป็นเรื่องของเทคนิคเฉพาะตัวและความละเอียดอ่อนในการวิเคราะห์ เพราะคนไข้แต่ละคนมีกล้ามเนื้อและไขมันมากน้อยไม่เหมือนกัน

V Square Clinic รวมทีมแพทย์ประสบการณ์สูง มีหลายสาขาพร้อมให้บริการ มีหลายช่องทางการติดต่อ ทั้ง Website, Facebook, IG, Line@ สามารถส่งรูปหน้ามาให้หมอประเมินก่อนได้ในเบื้องต้น หรือนัดคิวเข้ามาปรึกษาที่สาขาได้ครับ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน