เมื่อวันที่ 17 มี.ค. 66 ที่สถานีรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT ลุมพินี บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BEM ผู้ให้บริการทางพิเศษและรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินและสายสีม่วง ร่วมกับ บริษัทแบงคอก เมโทร เน็ทเวิร์คส์ จำกัด (BMN) และสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.) แถลงข่าวโครงการ “MRT HEALTHY STATION THAIHEALTH x BEM” เปิดตัวสถานีรถไฟฟ้า MRT 4 จุด สร้างเสริมสุขภาพใจกลางกรุงเทพฯ รณรงค์ให้ประชาชนเห็นความสำคัญของการดูแลสุขภาพ เพื่อสุขภาวะที่ดี
นายอัลวิน จี รองกรรมการผู้จัดการบริหาร BEM กล่าวว่า BEM ในฐานะผู้ให้บริการทางพิเศษ และรถไฟฟ้า MRT ได้ตระหนักถึงสุขอนามัยและความปลอดภัยของผู้ใช้บริการ พนักงาน ตลอดจนประชาชนทั่วไป จึงได้จัดทำโครงการ Happy Journey with BEM เพื่อแทนความขอบคุณ และสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานของ BEM ซึ่งที่ผ่านมาเราได้จัดทำกิจกรรมหลากหลาย เพื่อตอบแทนคืนให้สังคมในแง่มุมต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพอนามัย การศึกษา การส่งเสริมการดำเนินการของภาครัฐ
“ความร่วมมือระหว่าง สสส. BMN และ BEM ในโครงการ Healthy Station นี้ ถือเป็นโอกาสสำคัญของ BEM ที่จะได้แลกเปลี่ยนแนวคิดในรูปแบบการประชาสัมพันธ์ เพื่อรณรงค์ให้คนไทยให้ความสำคัญเรื่องของการสร้างนิสัย ดูแลสุขอนามัยที่ดี เป็นการกระตุ้นให้ผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการหันมาออกกำลังกาย ดูแลสุขภาพ เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตให้มีสุขภาพที่แข็งแรง มีสุขภาพจิตที่ดียิ่งขึ้น และเชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยให้คนไทยมีสุขภาพที่ดีขึ้นได้อย่างแน่นอน”
ด้าน ดร.สุปรีดา อดุลยานนท์ ผู้จัดการ สสส. กล่าวว่า กรุงเทพฯ เป็นศูนย์รวมของอาชีพ แหล่งท่องเที่ยว สถานศึกษา และกิจกรรมต่างๆ มีผู้คนใช้ชีวิตอยู่จำนวนมาก หลายคน
ประสบภาวะเครียดจากการใช้ชีวิตทั้งการทำงาน การเรียน สภาพการจราจรที่แออัด ฝุ่นควันที่มีผลต่อสุขภาพ รวมถึงความเร่งรีบที่ต้องแข่งกับเวลา ทำให้ขาดการดูแลตัวเอง ด้วยความบีบรัดของการใช้ชีวิต และสภาพแวดล้อมที่ยังไม่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี การทำให้พื้นที่สาธารณะเป็นพื้นที่สร้างเสริมสุขภาพจึงเป็นส่วนสำคัญที่จะส่งเสริมให้ทุกคนดูแลตนเอง โครงการ ‘MRT Healthy Station’
มีเป้าหมายสร้างพื้นที่สาธารณะ ให้เป็นพื้นที่สร้างเสริมสุขภาวะสำหรับคนเมือง
“วันนี้เป็นโอกาสดีที่เราได้มาร่วมกับขนส่งสาธารณะ ที่คนจำนวนมากต้องใช้ในการเดินทาง ถ้าสิ่งแวดล้อมของการเดินทางนั้นช่วยเอื้อให้สุขภาพดี ส่งสารสุขภาพที่สำคัญสู่การรับรู้ กระตุ้นให้มีพฤติกรรมสุขภาพที่ดี จะเป็นเรื่องดีอย่างมาก โดยเราเริ่มต้นกันที่ 4 สถานี เป็นที่มาของโครงการ Healthy Station ในวันนี้”
พร้อมเล่าต่อว่า สถานี Healthy Station 4 จุด ได้แก่ 1. MRT “ลุมพินีคาเฟ่” ชวนคนไทยคลายเครียด ชวนคนเมืองหัวเราะวันละ 12-15 ครั้ง/วัน 2. MRT ศูนย์สิริกิติ์ “ไม่ใส่หมวกกันน็อก ไม่รอด”
ชวนให้สวมหมวกกันน็อก ลดความรุนแรงจากอุบัติเหตุ 3. MRT สีลม “Unlock Your Box” ชวนทุกคนมีกิจกรรมทางกายที่เพียงพอ ผู้ใหญ่ 150 นาที/สัปดาห์ เด็ก 60 นาที/วัน และ 4. ขบวนรถไฟฟ้า “ขยับซักกะนิด พิชิตออฟฟิศซินโดรม” นำวิธีคลายกล้ามเนื้อจากนักวิทยาศาสตร์การกีฬา เครือข่ายคนไทยไร้พุง มาให้คนเมืองที่มีพฤติกรรมเนือยนิ่ง กล้ามเนื้ออักเสบเรื้อรัง หรือโรค Office Syndrome ไปใช้ในชีวิตประจำวัน
ขณะที่ นายวิทสุวัฒน์ อำคาเพท กรรมการผู้จัดการ BMN เผยว่า ความร่วมมือระหว่าง BMN และ สสส.ในครั้งนี้เป็นการสนับสนุนให้ทุกคนมีสุขภาพที่ดีโดยปัจจุบันพบจำนวนผู้โดยสารและผู้ใช้บริการในสถานีรถไฟฟ้า MRT สายสีน้ำเงินอยู่ที่เฉลี่ยวันละ 800,000 คน ซึ่งสื่อโฆษณาของ BMN ตั้งอยู่ในตำแหน่งที่เป็นแหล่งรวมของหนุ่มสาวชาวออฟฟิศและเป็นตำแหน่งที่มีผู้คนสัญจรผ่านเป็นจำนวนมาก จึงมองว่า การติดตั้งสื่อสุดสร้างสรรค์ของสสส.จะเป็นการรณรงค์ให้คนที่สัญจรไปมาและผู้โดยสารรถไฟฟ้า MRT ได้เคล็ดลับการดูแลตัวเอง และรักสุขภาพมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้บนเวทีได้เชิญ นางวัฒนา สิทธิไวทยาภรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ งานพัฒนาเชิงพาณิชย์และสื่อสารองค์กร BEM น.ส.สุพัฒนุช สอนดำริห์ ผู้อำนวยการอาวุโส สำนักสื่อสารการตลาดเพื่อสังคม สสส. นายณัฐวุฒิ สินธนาสกุลวงศ์ นักวิทยาศาสตร์การกีฬา เครือข่ายคนไทยไร้พุง ขึ้นมาพูดคุยรายละเอียดโครงการ ก่อนชวนทุกคนร่วมทำท่ายืดเหยียดไปพร้อมกัน
นางวัฒนา กล่าวว่า BEM มีโครงการที่จะขอบคุณและตอบแทนผู้โดยสาร ผู้ใช้บริการ และชุมชนที่อยู่รายรอบทางด่วนและรถไฟฟ้า ภายใต้โครงการ Happy Journey with BEM คำนี้สื่อถึงว่าทุกการเดินทางกับ BEM ทุกคนจะได้รับความสุขในทุกๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นด้านการท่องเที่ยว การศึกษา ศิลปะ รวมถึงสุขภาพ และแน่นอนว่าโครงการดีๆ อย่าง Healthy Station นี้ BEM ก็คงพลาดไม่ได้ พร้อมขอบคุณทาง สสส. ที่ให้ BEM ได้มีส่วนร่วมในโครงการนี้
“เรามีการใช้สื่อในระบบรถไฟฟ้า ซึ่งคิดว่าจะเป็นผลดีมาก เพราะรถไฟฟ้าเรามีเส้นทาง
อยู่รายรอบกรุงเทพฯ มีผู้โดยสารและผู้ใช้บริการที่จะสามารถเห็นสื่อนี้ได้มากถึง 800,000 คนต่อวัน คิดว่าสื่อต่างๆ นี้ จะทำให้ผู้คนในสังคม และคนที่ผ่านไปผ่านมามีการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ตระหนักถึงสุขภาพที่ดี ปัจจัยเสี่ยงต่างๆ การดูแลสุขภาพ ทำให้ทุกคนมีความสุขและรอยยิ้ม” ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ งานพัฒนาเชิงพาณิชย์และสื่อสารองค์กร BEM กล่าวทิ้งท้าย
