เช้าวันหนึ่งได้ร่วมเดินทางไปกับคณะกรมการค้าภายใน กระทรวงพาณิชย์ นำโดย นายวัฒนศักย์ เสือเอี่ยม อธิบดีกรมการค้าภายใน ลงพื้นที่เพื่อเยี่ยมชมรถโมบายพาณิชย์ ณ โครงการเสนา อเวนิว บางกะดี-ติวานนท์ อ.เมือง จ.ปทุมธานี ภายใต้โครงการช่วยเหลือเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ ที่กรมการค้าภายในจับมือกับบริษัทอสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ ได้แก่ บริษัท เสนาดีเวลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ไอริส กรุ๊ป จำกัด บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) บริษัท แมกโนเลีย ควอลิตี ดีเวล็อปเม้นต์ คอร์ปอเรชัน จำกัด บริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) และบริษัท สมาร์ท เซอร์วิส แอนด์ แมเนจเม้นท์ จำกัด (AP)

เป้าหมายหลักคือการนำผลไม้จากแหล่งผลิต ที่กำลังออกสู่ตลาดพร้อมๆกัน ระบายตรงถึงผู้บริโภค เพื่อได้บริโภคของสดใหม่ คุณภาพดี และราคาย่อมเยา มาจำหน่ายให้กับประชาชนที่พักอาศัยตามหมู่บ้านกว่า 67 หมู่บ้าน คอนโดมิเนียมกว่า 35 โครงการ และกว่า 5.3 หมื่นครัวเรือน ในรถโมบาย ยังมีผักสด เครื่องปรุงประกอบอาหาร เครื่องปรุงรสอาหาร และสินค้าอุปโภคบริโภคที่จำเป็นต่อชีวิตประจำวันอีกมากมายกว่า 100 รายการ เตรียมไว้จำหน่าย โดยราคาจำหน่ายได้ปรับลดราคาลงจากราคาปกติสูงสุดถึง 58% เช่น ซอสปรุงรส ลดจากป้าย 43% ไข่ไก่ยกแผง(เบอร์3) 100 บาทเล็กน้อย กลุ่มชำระร่างกายลดจากป้าย 49% หมวดซักล้างลดจากป้าย 58% ของใช้ประจำวันลดจากป้าย 37% ยารักษาโรคลดจากป้าย 20% เป็นต้น

ผลไม้ที่นำมาจำหน่ายในวันนั้น มีทั้งมังคุดจากภาคใต้ สับปะรดภูแลจากภาคเหนือ ส้มโอต้นฤดูจากภาคเหนือ

” โครงการนี้ กรมได้ตั้งเป้าหมายที่จะระบายผลไม้ ไม่ว่าจะเป็น มังคุด สับปะรด ลำไย หรือลองกองที่ผลผลิตจะออกตลาดมากในเดือนสิงหาคมนี้ เป็นต้น บางส่วนก็มีการแปรรูปเป็นน้ำผลไม้ หรือ เป็นผงผลไม้ สำหรับผลไม้บางส่วนที่ตกเกรดด้วยขนาดไม่ตรงกับตลาดส่งออกแต่ความอร่อยเท่าเดิม ก็จะมีโรงงานเข้ารับซื้อและนำมาแปรรูปเป็นของทานเล่น ของฝาก หรือ ป้อนร้านประกอบอาหาร จึงเชื่อว่าโครงการนี้จะช่วยระบายสินค้าให้เกษตรกรไม่น้อยกว่า 5 พันตันได้ตามเป้าหมาย เพราะจากที่ได้นำรถโมบายไปเปิดจุดจำหน่าย จะมีประชาชนที่พักอาศัยในโครงการหรืออาศัยอยู่ในบริเวณใกล้เคียง แวะเลือกซื้อกันเป็นจำนวนมาก ด้านเจ้าของโครงการหมู่บ้านหรือคอนโดมิเนียม ก็มีอีกหลายบริษัทหลายโครงการขอร่วมกับกรมการค้าภายใน นำรถโมบายไปเปิดจุดจำหน่าย ไม่แค่นี้ กรมการค้าภายใน จะมีการหาแหล่งระบายผลไม้และสินค้าเกษตรต่อเนื่อง รวมถึงสินค้าประจำถิ่นไม่แค่ลดปัญหาล้นตลาด ราคาตกต่ำ แต่จะสร้างให้เป็นสินค้าที่มีตลาดรองรับยั่งยืน เร็วๆนี้จะเปิดตัวอีกหลายโครงการต่อยอดเพื่อเพิ่มรายได้เกษตรกร พร้อมกับช่วยลดภาระค่าครองชีพประชาชน หนึ่งในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก และเพื่อป้องกันปัญหาผลผลิตล้นตลาดราคาตกต่ำที่อาจเกิดขึ้นในระยะสั้นๆ ” นายวัฒนศักย์ ย้ำถึงวัตถุประสงค์การจัดโครงการนี้

พร้อมเชิญชวน ประชาชนที่สนใจจุดจำหน่ายผลไม้ และรถโมบายพาณิชย์ สามารถตรวจสอบได้ที่ www.dit.go.th , Line @mobilepanich หรือ Line @Mr.dit

นายเหรียญชัย เบญจาศุภวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วิคตอรี่ แมเนจเม้นท์ เซอร์วิส และบริษัท เอซีอาร์ แมเนจเม้นท์ (เครือเสนา) กล่าวว่า เป็นโอกาสที่ดี ที่จะได้ช่วยเหลือและเพิ่มรายได้เกษตรกร พร้อมกับเพิ่มทางเลือกให้กับลูกบ้านในโครงการของเครือเสนา ในการผลไม้สด คุณภาพดี ราคาเหมาะสม และสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาประหยัด เป็นการช่วยลดภาระค่าครองชีพอีกทาง ซึ่งในส่วนของโครงการเสนา Avenue บางกระดี-ติวานนท์ มีผู้อยู่อาศัยจำนวนมาก และในอีกหลายโครงการที่พร้อมให้ความร่วมมือกับกรมนำรถโมบายพาณิชย์ ไปเปิดจุดจำหน่าย ก่อนหน้านี้เปิดจำหน่ายในหลายโครงการ ซึ่งทางโครงการจะแจ้งลูกบ้านล่วงหน้า ดังนั้นสินค้าที่ขาย โดยเฉพาะผลไม้ จะขายหมดภายในเวลาอันสั้น บางแห่งผลไม้ขายเกลี้ยงภายใน 1 ชั่วโมง

นางสาวนัทชา วงศ์ศิริกุล ลูกบ้านที่พักอาศัยในโครงการเสนา Avenue บางกระดี-ติวานนท์ แสดงความพอใจ เต็มด้วยรอยยิ้ม ซึ่งขณะที่เลือกซื้อสินค้า ได้บอกเล่าว่า ” ขอบคุณที่มีรถโมบายพาณิชย์นำผลไม้ เครื่องปรุงอาหาร และสินค้าที่เราใช้กันทุกวัน อย่างสบู่ ผงซักฟอก น้ำยาล้างจาน มาขายในราคาถูกด้วย ตอบโจทย์คนพักอาศัยที่ไม่อยากเดินทางไกลไปซื้อผลไม้หรือสินค้าไม่กี่ชนิด แต่น่าเสียดายที่เปิดจำหน่ายเพียงวันเดียว น่าจะเพิ่มเป็น 2-3 ครั้วต่อสัปดาห์ ”

จุดระบายผลไม้ตามแหล่งที่พัก ถือเป็นหนึ่งในมาตรการเสริม นายกรนิจ โนนจุ้ย รองอธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า กรมการค้าภายใน ยังได้ร่วมมือกับผู้ประกอบการที่เป็นภาคีเครือข่าย ได้แก่ ห้างค้าส่งค้าปลีก ห้างท้องถิ่นทั่วประเทศ สถานี บริการน้ำมัน ซึ่งมีสาขามากกว่า 20,000 สาขา ส่วนรถเคลื่อนที่ (โมบาย) รับซื้อผลไม้จากเกษตรกรนำไปจำหน่ายทั่วประเทศให้เร็วที่สุด เพื่อเร่งระบายผลผลิตและให้ผู้บริโภคทั่วประเทศได้บริโภคผลไม้ ภายใต้ Fruit Festival 2023 จุดจำหน่ายผลไม้ทั่วประเทศ ซึ่งจะช่วยระบายผลผลิตให้กับเกษตรกรอีกทางหนึ่ง

” เดือนสิงหาคมนี้ จะยังมีผลไม้อีกหลายชนิด หลายพื้นที่ ถึงเวลาเก็บเกี่ยวในเวลาใกล้เคียงกัน ซึ่งกรมได้เตรียมมาตรการบริหารจัดการผลไม้ปี 66 ไว้แล้ว ตั้งแต่ระดม ผู้ประกอบการ ทั้งผู้ส่งออก ผู้แปรรูป ล้งไทย ล้งจีน ห้างค้าส่งค้าปลีก ผู้ค้าส่ง ผู้จำหน่ายในประเทศ เข้าไปรับซื้อผลผลิตจากเกษตรกรโดยตรง พร้อมช่วยระบายผลผลิตผ่านช่องทางต่างๆ อย่างผ่านห้างท้องถิ่นมีกว่า 600 สาขาทั่วประเทศ สถานีบริการน้ำมันกว่า 5,000 สาขา รวมถึงรถโมบายพาณิชย์ไม่ต่ำกว่า 100 จุด เพื่อให้ผลผลิตออกนอกพื้นที่ให้ได้มากและเร็วที่สุด ก็จะช่วยดันราคาให้ทรงตัวในระดับสูง ” นายกรนิจ กล่าวเสริม

จากมาตรการดังกล่าวทำให้ ส้มโอทองดี จังหวัดเชียงราย ก่อนเข้าไปช่วยเหลือ แบบคละ 9-10 บาท/กก. ตอนนี้ 11 บาท/กก. สัปปะรด ภูแล จังหวัดเชียงราย ก่อนเข้าไปช่วยเหลือ แบบคละ 8-9 บาท/กก. ตอนนี้ราคา 10 บาท/กก. ราคาส่งออกเคยอยู่ที่ 15 บาท/กก. ตอนนี้ 15-18 บาท/กก.

เมื่อย้อนดูราคาผลไม้ ปรากฎว่า มาตรการของกรมการค้าภายใน สามารถพยุงราคาได้ตลอดฤดูกาล ทุเรียนแหล่งปลูกในภาคตะวันออกที่ออกหมด 100% ราคาดีกว่าปีก่อน 16-37% มังคุด ราคาสูงขึ้น 50-64% เงาะโรงเรียน สูงขึ้นถึง 111% ลงมาภาคใต้ ที่ผลผลิตออกตลาดแล้ว 50-70 % ทั้งทุเรียน มังคุด เงาะ ราคาดีกว่าปีก่อนเกิน 50% ทั้งสิ้น มะม่วงน้ำดอกไม้และมะม่วงมัน ภาคเหนือที่เก็บเกี่ยวหมดแล้ว ราคาก็ดีกว่าปีก่อน 11-67%

ตามแผนบริหารจัดการผลไม้ปี 2566 ของกระทรวงพาณิชย์ ผ่าน 4 ด้าน 22 มาตรการ ข้อมูลล่าสุดที่เริ่มมาตั้งแต่ 20 มีนาคม 2566 ถึงปัจจุบัน แผนจัดการตลาดในประเทศ เป้าหมาย 600,000 ตัน คืบหน้าไปแล้ว 65% หรือช่วยระบายแล้ว 389,076 ตัน คิดเป็นมูลค่า 15,563 ล้านบาท ขณะที่แผนการผลักดันส่งออก เป้าหมาย 100,000 ตัน คืบหน้าแล้ว 79% หรือช่วยระบายได้ 79,196 ตัน คิดเป็นมูลค่า 3,168 ล้านบาท รวม 2 ส่วนดังกล่าว ช่วยเหลือแล้ว 468,272 ตัน คิดเป็นมูลค่า 18,731 ล้านบาท หรือ คืบหน้า 67% บนเป้าหมายดูซับและช่วยระบาย 700,000 ตัน

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน