โรคมะเร็ง เป็นหนึ่งในโรคร้ายแรงที่สามารถพบได้ทุกเพศทุกวัย ซึ่งจากข้อมูลของสถาบันมะเร็งแห่งชาติได้ระบุไว้ว่า ในแต่ละปีมีคนไทยรายใหม่ที่ป่วยเป็นโรคมะเร็งมากถึงวันละ 381 คน หรือ 139,206 คนต่อปี และมีอัตราการเสียชีวิตจากโรคมะเร็งวันละ 230 คน หรือ 84,073 คนต่อปีเลยทีเดียว ดังนั้น ในบทความนี้เรามาทำความรู้จัก 3 โรคมะเร็งที่มักพบในผู้ชายกันดีกว่า
3 โรคมะเร็งยอดฮิตที่มักพบในเพศชาย
สำหรับโรคมะเร็งทั้ง 3 ชนิดนับว่าเป็นมะเร็งที่มักพบได้มากในเพศชาย ซึ่งการที่คุณได้ทราบอาการและสาเหตุของการเกิดมะเร็งในเบื้องต้น ก็จะช่วยให้คุณสามารถหลีกเลี่ยงและสังเกตอาการได้เป็นอย่างดี โดยมะเร็ง 3 ชนิดที่มักพบมีดังนี้
1. มะเร็งต่อมลูกหมาก
มะเร็งต่อมลูกหมาก มีสถิติการเสียชีวิตมากเป็นอันดับ 2 รองจากมะเร็งปอด มักพบในเพศชายอายุ 50 ปีขึ้นไป ซึ่งในระยะแรกมักจะไม่แสดงอาการ หรือมีอาการคล้ายโรคต่อมลูกหมากโต โดยผู้ป่วยส่วนใหญ่มักจะเข้ามาพบแพทย์ด้วยอาการปัสสาวะติดขัด ปัสสาวะไม่ออก หรือปัสสาวะมีเลือดปน ทั้งนี้ หากมีการตรวจร่างกายและตรวจคัดกรองมะเร็งต่อมลูกหมากอย่างสม่ำเสมอ ก็จะทำให้แพทย์สามารถวินิจฉัยมะเร็งได้ตั้งแต่ระยะเริ่มต้น ทำให้ได้ผลการรักษาที่ดี แนะนำให้ตรวจในผู้ชายอายุประมาณ 45-50 ปี 
2. มะเร็งปอด
มะเร็งปอด เป็นสาเหตุการเสียชีวิตอันดับต้น ๆ ของผู้ชายทั่วโลก ซึ่งสาเหตุหลักนั้นมาจากการสูบบุหรี่ เนื่องจากในบุหรี่มีสารพิษที่ชื่อว่า “ทาร์” โดยผู้ที่สูบบุหรี่จัดเป็นเวลานาน จะมีอาการไอเรื้อรัง ไอปนเลือด หายใจสั้น เจ็บหน้าอก เหนื่อยง่ายกว่าปกติ หายใจลำบาก เจ็บบริเวณทรวงอก และมีน้ำหนักลดมากกว่าปกติ ทั้งนี้ การตรวจพบมะเร็งปอดในระยะแรกมีโอกาสรักษาให้หายได้ แต่หากลุกลามสู่อวัยวะข้างเคียงหรือกระจายตัวไปยังอวัยวะอื่น ๆ แล้ว การรักษาก็อาจจะไม่มีประสิทธิภาพเท่าที่ควร
3. มะเร็งลำไส้ใหญ่
มะเร็งลำไส้ใหญ่ เป็นโรคมะเร็งที่มักจะเกิดขึ้นในคนวัยทำงาน ซึ่งอาการของโรคมะเร็งลำไส้ใหญ่นั้น จะมีความคล้ายคลึงกับโรคอื่น ๆ และไม่ได้แสดงอาการมากนัก แต่หากคุณมีอาการบ่งชี้เหล่านี้ เช่น ท้องเสีย ท้องผูก ท้องอืดบ่อย ๆ อาหารไม่ย่อย ปวดเกร็ง อุจจาระปนเลือดสด ๆ หรือเลือดมีสีคล้ำ น้ำหนักลดลงอย่างผิดสังเกตทั้งที่รับประทานอาหารตามปกติ เบื่ออาหารเป็นต้น แนะนำว่าควรรีบไปพบแพทย์เพื่อทำการตรวจร่างกายได้ทันที
สรุปบทความ
และทั้งหมดนี้ก็คือ 3 โรคมะเร็งที่มักจะพบในผู้ชายที่เรารวบรวมมาให้ สำหรับคุณผู้ชายที่มีอาการบ่งชี้ตามที่เราได้กล่าวไปข้างต้น แนะนำว่าควรรีบเข้ารับการตรวจวินิจฉัยในทันที แต่สำหรับคุณผู้ชายที่ยังอยู่ในช่วงวัยรุ่น มีสุขภาพแข็งแรง ก็ควรจะเริ่มดูแลตัวเอง เพื่อป้องกันไม่ให้เป็นโรคมะเร็งในอนาคตจะดีกว่า
