วันที่ 24 มี.ค. ดร.ภาคภูมิ เดชสกุลฤทธิ์ กรรมการบริหารมูลนิธิเจษฎาเทคนิคมิวเซียม เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 มี.ค.ที่ผ่านมา ตนเดินทางมา ดูงานการจัดการศึกษาพิเศษสำหรับเด็กที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน ที่จ.เชียงใหม่ พร้อมร่วมสนับสนุนเป็นทุนอาหารกลางวัน และการทำกิจกรรมต่างๆ ของโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ พร้อมทั้งเยี่ยมชมกิจการของโรงเรียน
โดยมี พลตรีหญิง นวรัตน์ บวรศักดิ์ และคุณภัทรียา พรหมณะ คณะที่ปรึกษามูลนิธิเจษฎาเทคนิคมิวเซียม เป็นผู้ประสานงาน
ดร.ภาคภูมิ กล่าวว่า ได้รับเกียรติจาก นายอัมรินทร์ พันธ์วิไล ผู้อำนวยการโรงเรียน พร้อมด้วยคณะครูและบุคลากรของโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร ประกอบด้วย นางสาวดวงเดือน คำมูลสุข รองผู้อำนวยการโรงเรียน, นางปรียาวรรณ พัฒนกุล ครู คศ.3, นางสุภาภรณ์ พันธ์วิไล ครู คศ.3, นางสาววีราภรณ์ สุวรรณเมือง ครู คศ.3,นางฉัตรลดา เขียวออน ครู คศ.3, นางนิภาพร เกิดไทย ครู คศ.3, นางสายอรุณ ณ ลำพูน ครู คศ.3, นางศุภาพิชญ์ ตาคำมา ครู คศ.2, นายอิทธิพล ต๊ะศรี ครู คศ.2, นางกรรณิการ์ สีนวลตา ครู คศ.2, นางสาวอภิชญา ศรีทอง ครู คศ.2, นางวณัฐ หอมนาน ครู คศ.1, นายสมพร สีนวลตา ครู คศ.1, นางสาวอำภา กุลปรียาพงศ์ ผู้ช่วยครู (งานอาชีพ) และนางสาวนันท์นภัส เก้งสุข ผู้ช่วยครู (งานอาชีพ) ที่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่นและเป็นกันเอง
“หลังจากรับฟังคำบรรยายจากผู้อำนวยการ รู้สึกประทับใจในการบริหารงานและวิสัยทัศน์ในเรื่องการส่งเสริมอาชีพให้กับน้องๆ ของท่านผู้บริหาร โรงเรียนนี้มีความคล้ายคลึงกับโรงเรียนโสตศึกษาจังหวัดนครปฐม ในการส่งเสริมอาชีพ การฝึกทักษะการดำรงชีวิตให้กับนักเรียนเมื่อจบการศึกษาไปจะได้ประกอบสัมมาอาชีพและพึ่งพาตนเองได้ อาทิ มีร้านกาแฟ คาเฟ่ เดอ โสต (Cafe’ de Sot) ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง เป็นที่รู้จักของชาวต่างชาติ ไม่ว่าเป็น เกาหลี ญี่ปุ่น จีน เยอรมัน ฯลฯ
เปิดขึ้นมาเพื่อส่งเสริมกิจกรรมให้นักเรียนผู้บกพร่องทางการได้ยินได้มีโอกาสฝึกฝนทักษะด้านอาชีพการขายเครื่องดื่ม และงานภาคบริการ และยังมีการสอนทำเบเกอรี่ ขนมต่างๆ เพื่อให้สามารถต่อยอดอาชีพในวันข้างหน้าได้ นอกจากนี้ยังมีการใช้บริการเช่าสถานที่เพื่อการอบรมและสัมมนาอีกด้วย ซึ่งรายได้ส่วนหนึ่งนอกจากจะเป็นการสร้างรายได้ให้กับน้องๆ ในระหว่างเรียนแล้ว ยังจะเป็นทุนในการใช้จ่ายเพื่อกิจการต่างๆ ของโรงเรียน เช่น ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า”
ดร.ภาคภูมิ กล่าวอีกว่า อย่างไรก็ตามปัญหาที่เกิดขึ้นก็คือเรื่องค่าครองชีพ และค่าสาธารณูปโภค น้ำ-ไฟ ที่ยังสูง ซึ่งคาดหวังว่ารัฐบาลจะเร่งลดค่าครองชีพเหล่านี้ตามที่สัญญาไว้
ดร.ภาคภูมิ กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านผู้อำนวยการโรงเรียน ที่ให้ความรู้ต่างๆ และยังนำชมโรงเรียนด้วยตนเอง ซึ่งบรรยากาศภายในโรงเรียนร่มรื่นมาก สะท้อนว่าเป็นผู้ที่มีความใส่ใจในทุกรายละเอียดและมีความมุ่งมั่นพัฒนาโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง จึงเชื่อมั่นว่าการอบรมเลี้ยงดูนักเรียนแบบมืออาชีพ ความเมตตา และยึดหลักธรรมาภิบาลในการบริหารงาน จะทำให้โรงเรียนแห่งนี้ประสบความสำเร็จและผลิตนักเรียนที่มีคุณภาพสู่สังคมได้เป็นอย่างดีอย่างแน่นอน ซึ่งหากตนผ่านมาก็จะมาร่วมสนับสนุนโครงการต่างๆ เพื่อช่วยขยายโอกาสทางการรศึกษาให้กับน้องๆนักเรียนอีก
ดร.ภาคภูมิ กล่าวปิดท้ายว่า “สำหรับองค์กรที่มีทุนทรัพย์ หรือสนใจทำกิจกรรมเพื่อสังคม หรือ CSR ซึ่งช่วงนี้ใกล้เทศกาลสงกรานต์ หรือปีใหม่ไทยแล้ว หลายท่านทำบุญกับวัดมาเยอะแล้ว ตนจึงขอเชิญชวนให้มาทำบุญกับเด็กนักเรียนผู้บกพร่องทางการได้ยิน โดยสามารถติดต่อโรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่ ได้ที่ คุณครูอภิชญา ศรีทอง (ครูปุ้ย) หมายเลขโทรศัพท์ 089-1917966 และ 081-7541015
นายอัมรินทร์ กล่าวว่า โรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทรเป็นโรงเรียนรัฐบาลที่จัดตั้งขึ้น เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2524 โดยคณะรัฐมนตรี มีมติให้กระทรวงศึกษาธิการรับโอนโรงเรียนอนุสารสุนทร 2 (สอนคนหูหนวก) ของมูลนิธิอนุสารสุนทรเพื่อสงเคราะห์คนหูหนวก ที่เปิดดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2518 มาดำเนินการจัดตั้งเป็นโรงเรียนการศึกษาพิเศษ บริการการศึกษาแก่นักเรียนที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน สังกัดกองการศึกษาพิเศษ กรมสามัญศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ โดยใช้ชื่อว่า “โรงเรียนโสตศึกษาอนุสารสุนทร จังหวัดเชียงใหม่” เป็นโรงเรียนการศึกษาพิเศษประเภทประจำ และไป-กลับ เปิดสอนตั้งแต่ระดับชั้นอนุบาลจนถึงมัธยมศึกษาตอนปลาย ปัจจุบันมีนักเรียน 213 คน มีคณะครูและบุคลากร รวม 85 คน
1นวัตกรรมของโรงเรียนคือมีผู้ทรงคุณวุฒิที่เชี่ยวชาญด้านภาษามือไทยโดยเฉพาะ นอจากนี้โรงเรียนยังได้จัดกิจกรรมนอกสถานศึกษา เพื่อเสริมโอกาสในการเรียนรู้ การฝึกทักษะการดำรงชีวิต และทักษะอาชีพให้แก่นักเรียนให้กว้างขวางยิ่งขึ้นต่อไป