สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ทรงเปิดตัวหนังสือครบรอบ 16 ปี “SIRIVANNAVARI:16 YEARS OF GLORY” เบื้องหลังเส้นทางแบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา เสด็จเป็นประธานในงานเปิดตัวหนังสือครบรอบ 16 ปีของแบรนด์ “SIRIVANNAVARI: 16 YEARS OF GLORY” พร้อมพระราชทานสัมภาษณ์เล่าเรื่องราวเบื้องหลังการรวบรวมภาพแห่งความทรงจำสุดเอ็กซ์คลูซีฟตั้งแต่ก่อตั้งแบรนด์ในปีพ.ศ. 2548 ณ ชั้น 5 ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (TCDC) ไปรษณีย์กลางบางรัก เมื่อวันก่อน

นอกจากภาพความทรงจำอันสวยงามภายในหนังสือ SIRIVANNAVARI: 16 YEARS OF GLORY ที่ทรงคัดเลือกรูปภาพหลายร้อยภาพอย่างพิถีพิถันด้วยองค์เอง เพื่อลงตีพิมพ์ในหนังสือเล่มนี้ตั้งแต่ภาพสเก็ตช์ ภาพการฟิตติ้งนางแบบภาพเบื้องหลังเวที ภาพถ่ายแคมเปญโฆษณาภาพรันเวย์ ฯลฯ ซึ่งล้วนแต่จะนำพาผู้อ่านไปอยู่ในดินแดนของ SIRIVANNAVARI BANGKOK

หนังสือเล่มนี้ยังนำเสนอเรื่องราวและเบื้องหลังต่าง ๆ ของแบรนด์ที่ไม่เคยเปิดเผยที่ใดมาก่อน อาทิบ ทสัมภาษณ์ขององค์ดีไซเนอร์และที่มาของสัญลักษณ์นกยูงหนังสือ “SIRIVANNAVARI: 16 YEARS OF GLORY” มีความโดดเด่นด้วยปกสีชมพูฟูเชียอันเป็นหนึ่งในเอกลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งแสดงถึงวิสัยทัศน์และความสร้างสรรค์อันเหนือระดับขององค์ดีไซเนอร์

สมเด็จพระเจ้าลูกเธอ เจ้าฟ้าสิริวัณณวรี นารีรัตนราชกัญญา ผู้อำนวยการฝ่ายสร้างสรรค์แห่ง
แบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK มีพระดำรัสถึงที่มาของหนังสือ SIRIVANNAVARI: 16 YEARS OF GLORY ว่า “เริ่มต้นจากการไปร้านหนังสือต่างๆ ทำให้ได้เห็นหนังสือแฟชั่นของแบรนด์ต่างๆ จึงเป็นแรงบันดาลใจที่ทำให้เกิดหนังสือเล่มนี้ ซึ่งเปรียบเสมือนความฝันที่เป็นจริง ข้าพเจ้าเคยมีความฝันไว้ว่าอยากมีหนังสือแฟชั่นเป็นของตัวเอง เป็นหนังสือที่รวบรวมผลงานของข้าพเจ้าและแบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK ตั้งแต่เริ่มก่อตั้งจนถึงวันนี้ รวมทั้งตั้งใจให้หนังสือเล่มนี้มอบโอกาสให้คนในวงการแฟชั่นรุ่นหลังได้ศึกษาเรียนรู้”

ด้วยความที่พระองค์ทรงเริ่มต้นอาชีพในวงการแฟชั่นตั้งแต่ทรงพระเยาว์ ในพระดำริของพระองค์หญิง คุณสมบัติของศิลปินที่ดีต้องประกอบไปด้วย “ศิลปินที่ดีต้องซื่อสัตย์ต่อตัวเอง และประวัติศาสตร์ของตัวเอง ต้องเป็นคนที่มุ่งมั่นในงาน ตั้งเป้าหมายและทำให้ได้ตามที่ตั้งใจ มีสปิริต มีการทำงานที่ต่อเนื่อง รวมทั้งต้องมีแพชชั่นในงาน ต้องรู้จริงในงานของตัวเอง รู้จักแก้ปัญหาและมีวินัย รวมทั้งต้องมีเทสต์ที่ดี และรู้เทสต์ของทั่วโลก”

“ทุกวันนี้แม้ว่าโลกจะเต็มไปด้วยเทคโนโลยีมากมาย แต่อย่างไรก็ชอบทักษะด้านงานฝีมือซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญ ที่ทำให้ต้องฝึกฝนตัวเองตลอดเวลา เพื่อที่เราจะสามารถบอกทีมงานให้ทำตามได้ อีกอย่างคือ ผู้ใหญ่สั่งมาอย่างไร สอนมาอย่างไร ต้องไม่ลืมสิ่งที่พวกเขาสอนมา”

บุคคลที่เป็นแรงผลักดันพระองค์เดียวและทรงเป็นไอคอนของข้าพเจ้า ก็คือ สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง สมเด็จย่าทรงเป็นแรงผลักดันที่ทำให้ข้าพเจ้าทูลลาไปเรียนต่อด้านแฟชั่น ที่ประเทศฝรั่งเศส แล้วกลับมาถวายงานรับใช้พระองค์ท่าน”

พระองค์หญิงรับสั่งต่อว่า “ตลอดระยะเวลา 16 ปีที่ผ่านมา การสร้างสรรค์แฟชั่นทุกคอลเลคชันมีความยาก ท้าทาย กดดัน แตกต่างกันไป เพราะอยากทำให้ดีที่สุด แต่สำหรับคอลเลคชันที่สร้างความเปลี่ยนแปลงให้แบรนด์มากที่สุดคือ HUMAN DNA ซึ่งเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญหลังจากห่างหายไปจากวงการแฟชั่นร่วมปี และเป็นคอลเลคชันที่มีความเปลี่ยนแปลงมากที่สุด อีกคอลเลคชันที่ชอบคือ SIRIVANNAVARI COUTURE คอลเลคชั่นพิเศษที่เป็นงานผ้าไทยที่ได้พี่ป้อม (ธีระพันธ์ วรรณรัตน์) มาช่วยให้ไอเดียในการทำผ้าไทยให้ดูเป็นสากลมากขึ้น”

สำหรับสิ่งที่ท้าทายในการทำงานมากที่สุดคือ “เวลา ซึ่งเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุด เพราะปฏิทินในวงการแฟชั่นเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ดังนั้นเมื่อต้องพบกับความกดดัน กำลังใจจากทุกคนในทีมเป็นสิ่งสำคัญ หรือเวลามีเรื่องเครียด ถ้ามีเวลาก็จะไปพักผ่อนสมองที่ทะเลแล้วค่อยกลับมาลุยงานใหม่ เพราะถ้าเรากดดันมาก ๆ ก็จะทำให้ลูกน้องเครียดตามไปด้วย

ส่วนที่มาของสัญลักษณ์นกยูงซึ่งถือเป็นโลโก้ของแบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK นั้น พระองค์รับสั่งว่า เป็นผลงานที่สเกตช์ไว้ตั้งแต่สมัยที่ทรงศึกษาที่โรงเรียนจิตรลดา ซึ่งนกยูงเป็นสัตว์ที่มีความสง่างาม แข็งแกร่ง รวมทั้งมีความเป็นนักสู้ และจากรูปสเกตช์ในวันนั้น ก็พัฒนาเรื่อยมาจนเป็นโลโก้ของแบรนด์ในที่สุด

ด้วยความตั้งพระทัยในการส่งต่อแรงบันดาลใจให้แก่คนรุ่นต่อไป และผู้ที่รักในแฟชั่น รวมทั้งส่งผ่านประสบการณ์ในวงการแฟชั่นที่สะสมมาตลอดระยะเวลา 16 ปี ผ่านหนังสือ “SIRIVANNAVARI: 16 YEARS OF GLORY”

องค์ดีไซเนอร์พระราชทานข้อคิดให้แก่บุคคลที่มองพระองค์เป็นแรงบันดาลใจ ว่า อย่างแรกคือ ต้องซื่อสัตย์กับตัวเอง ใจชอบหรือไม่ ถ้าเกิดเจอปัญหา หรือทุกข์เมื่อไหร่ แต่ทุกข์แล้วยังมีความสุข แสดงว่าเราชอบสิ่งนั้นจริง และต้องพร้อมรับมือกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ทั้งแง่บวกและแง่ลบ รู้จักยืดหยุ่นในทุกสถานการณ์ ที่สำคัญคือ ยึดความเป็น Identity (ตัวตน) และอย่าลืมพัฒนาตัวเอง ทั้งสมอง มือ ใจ หรือแม้กระทั่งตาของตัวเอง เมื่อฝึกตัวเราแล้ว ก็จะสามารถชนะคู่แข่งได้”

“ข้าพเจ้ามองว่า แฟชั่นคือ ความสนุก สดใส แพชชั่น เทสต์ และเป็นการทดลองที่ต้องมูฟออนและยืดหยุ่นได้ตลอดเวลา ซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่อยากบอกน้องๆ ทุกคน ก็คือ ถ้าอยากที่จะเข้ามาในวงการนี้ อยากให้ชอบวงการนี้จริงๆ ชอบอย่างที่เรียกว่า เขาจะอยู่กับเราไปจนตาย และอย่าลืมคนที่ซัพพอร์ตอยู่ข้างหลังเราว่ามีใครบ้าง”

ทั้งนี้ เพื่อร่วมเฉลิมฉลองในโอกาสครบรอบ 16 ปี แบรนด์ SIRIVANNAVARI BANGKOK
สมเด็จพระเจ้าลูกเธอเจ้าฟ้าสิริวัณณวรีนารีรัตนราชกัญญาได้ทรงนำซิลูเอทของกระเป๋าคลัทช์ เรซิน ประดับโลโก้นกยูงอันเป็นสัญลักษณ์ของแบรนด์ ซึ่งผลิตขึ้นเป็นครั้งแรกเมื่อปี 2550 โดยทรงนำมาสร้างสรรค์ขึ้นใหม่ให้มีความพิเศษมากยิ่งขึ้น เพื่อเป็นของที่ระลึกลิมิเต็ดอิดิชั่นในวาระสุดพิเศษนี้

สำหรับความพิเศษของกระเป๋ารุ่นนี้ นอกจากผสมผสานด้วยวัสดุ 3 ชนิดได้แก่ ผ้าไหมส่วนพระองค์ หนัง และเรซิ่น แล้วยังมีวิธีการทำที่ซับซ้อนและเป็นงานคราฟต์ที่ทำด้วยมือทุกขั้นตอน เริ่มตั้งแต่การนำผ้าไหมส่วนพระองค์มาจับพลีท จากนั้นขึ้นเดรฟและกลึงลายด้วยมือ โดยช่างฝีมือชั้นครู รวมถึงการสร้างความพลิ้วไหวในชิ้นเรซิ่นล้อไปกับสีสันเพื่อชูลวดลายผ้าไหมให้มีความโดดเด่นยิ่งขึ้น

ก่อนเดินทางสู่ขั้นตอนสุดท้ายด้วยการตัดเย็บโดยช่างเฉพาะทางที่ทุ่มเทประสบการณ์ผ่านฝีจักรและเทคนิคจนออกมาเป็นกระเป๋ารุ่นนี้เพื่อฉลองครบรอบ 16 ปี แบรนด์ SIRIVANNAVARIBANGKOK โดยจะมีวางจำหน่ายที่ร้าน SIRIVANNAVARI ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอนตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

สำหรับหนังสือ SIRIVANNAVARI: 16 YEARS OF GLORY มีจัดจำหน่ายในช่องทางออนไลน์ดังนี้

Line Official : @sirivannavari_shop
Instagram :Sirivannavari Bngkok
Facebook :Sirivannavari Bangkok
www.sirivannavari.com
www.asiabooks.com
https://thailand.kinokuniya.com

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน