ดร.ก้องดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ยอมรับทัพนักกีฬาไทยอาจโกยเหรียญทองตามชาติใหญ่ๆไม่ทัน แต่ยังหวังติด 1 ใน3 กีฬาสากล ในการแข่งขันซีเกมส์ ครั้งที่ 30

 

ดร.ก้องดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.)​ ได้เดินทางไปเยี่ยมชมและให้กำลังใจนักกีฬา ในหมู่บ้านนักกีฬากีฬาซีเกมส์ ครั้งที่30 ที่เมืองนิวคลาร์ก เมื่อวันที่7 ธันวาคม

ดร.ก้องศักดกล่าวว่าจากที่ได้รับทราบมาว่าเจ้าภาพนั้นจัดที่พักในหมู่บ้านนักกีฬาไม่เพียงพอก็ต้องขอบคุณนายธนาไชยประสิทธิ์และดร.สุพิศสมาหิโตหัวหน้าและรองหัวหน้าคณะนักกีฬาไทยที่ดำเนินการให้นักกีฬาไทยโดยเฉพาะนักกีฬากรีฑากว่า100 ชีวิตได้เข้าพักหมดแล้วส่วนเรื่องอาหารการกินนอกจากที่เจ้าภาพจัดให้ก็ยังมีเครือซีพีและไทยเฮาส์คอยดูและอยู่

สำหรับผลงานของนักกีฬานั้นก็ขอบคุณที่ทำหน้าที่กันได้ดีที่สุดบางชนิดอาจจะมีผลงานที่ดีบางชนิดอาจจะต่ำกว่าเป้าหมายแต่ก็ต้องยอมรับว่าครั้งนี้ไทยเน้นนักกีฬาหน้าใหม่เข้ามาถึง57 เปอร์เซ็นต์หรือตีเป็น550 กว่าคนได้ดังนั้นยังมีโอกาสที่จะเติบโตมากกว่านี้ในอนาคต

อาจจะเห็นว่าไม่ถูกใจเรื่องจำนวนเหรียญแต่มองในแง่ดียังมีโอกาสตีตื้นในช่วง2-3 วันนี้จากกีฬาถนัดของไทยอย่างเช่นเทควันโดหรือมวยสากลสมัครเล่นที่เข้าชิงจำนวนมาก

ผู้ว่าการกกท. กล่าวต่อว่ากีฬาประเภททีมก็ถือว่ามีการพัฒนาขึ้นไม่ว่าจะเป็นวอลเลย์บอลหรือบาสเก็ตบอลขณะที่ฟุตบอลแม้จะตกรอบแรกแต่เชื่อว่าถ้ามีเวลาเตรียมตัวมากกว่านี้ทีมนี้ก็ยังคงมีอนาคตอยู่เป็นเรื่องของการบริหารจัดการที่จะต้องไปคุยว่าจะปรับกลยุทธ์อย่างไรและต้องศึกษาคู่ต่อสู้ให้มากขึ้น

การที่กีฬาต่างๆคาดหวังมาแล้วไม่เป็นไปตามเ้านั้นต้องยอมรับว่าประเทศใหญ่ๆเริ่มเอาจริงเอาจังกับกีฬามากขึ้นอย่างอินโดนีเซียมีประชากรมากกว่า260 ล้านคน, ฟิลิปปินส์มี100 กว่าล้านคนพวกเขามีฐานนักกีฬาเยอะมากถ้าหากเอาจริงเอาจังย่อมได้เปรียบกว่าไทยแน่นอนขณะที่เวียดนามเองก็มุ่งพัฒนาใช้ผู้ฝึกสอนระดับโลกดังนั้นไทยจะต้องปรับกลยุทธ์ในการทำงานใหม่เชื่อว่าถ้าทุกฝ่ายร่วมกันทำงานทำให้จริงจังขึ้นก็จะสู้กับชาติเหล่านี้ได้

ดร.ก้องศักดกล่าวปิดท้ายว่าเป้าหมาย100 เหรียญตอนนี้ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องยากมากๆขณะที่เหรียญในกีฬาสากลคงมีการกระเตื้องขึ้นมาไม่ว่าอย่างไรก็ตามยังอยากให้มุ่งเป้าไปที่กีฬาสากลเชื่อว่าจะกลับขึ้นมาติดท็อป3 ได้

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน