- เรือใบ แล่นฉิวกวาดรวดเดียว 5 เหรียญทอง – ไทยครองน่านน้ำ ซีเกมส์
แล่นใบทีมชาติไทยโหดมาก เข้าป้ายคว้ารวดเดียว 5 เหรียญทองจากการแข่งขัน เรือใบ ซีเกมส์ ครั้งที่ 30 ที่เมืองซูบิก ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อ 7 ธ.ค.ที่ผ่านมา
การแข่งขันเรือใบที่อ่าวซูบิค ซึ่งแข่งขันกันมาตั้งแต่วันที่ 4 ธ.ค.เป็นต้นมา จบการแข่งขันแล้ว ผลปรากฏว่า ทีมแล่นใบคว้ามาทั้งสิ้น 5 เหรียญทองจาก ประเภท ออปติมิสต์ ชาย ดช.พันวา บุณนาค ออปติมิสต์ หญิง ด.ญ. นัภภัสสร ขุนบุญจันทร์, 420 หญิง ชนกชนม์ หวังสุข / ปิยะพร เข็มแก้ว, 420 ชาย เจตวีร์ ยงยืนนาน / จักรภัทร วิริยะกิตติ, เลเซอร์ เรเดียล กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม
นอกจากนี้ยังมีอีก 2 เหรียญทองจาก ประเภท เลเซอร์ เรเดียล กีรติ บัวลง และ ประเภท 470 ชาย นาวี ธรรมสุนทร / ณัฐ บุตรมารศรี
ด้าน “แบม” กมลวรรณ จันทร์ยิ้ม แล่นใบสาวซึ่งได้ตั๋วไปโอลิมปิกเกมส์แล้ว เผยว่า การแข่งขันต้องเลื่อนไป 2 วัน ในช่วงไต้ฝุ่น คัมมูริ เข้า พอมาแข่งขันโปรแกรมจึงค่อนข้างอัดแน่นมากๆ วันละ 2-3 เรซ และต้องแข่งรวมกับ วินด์เซิร์ฟด้วย ประกอบกับ เป็นช่วงหมดไต้ฝุ่นไป ทำให้เราคาดเดาทิศทางลมได้ยาก แต่พอจำทางลมได้ก็เริ่มเข้าทาง และสามารถเข้าที่ 1 ได้ถึง 6 จาก 8 เรซที่แข่่งขัน
นาวาเอก ยุทธนา อักษรศรี ผู้ช่วยเลขาธิการสมาคมกีฬาแข่งเรือใบแห่งประเทศไทย ในฐานะผู้จัดการทีมทัพเรือใบชุดซีเกมส์ครั้งนี้ กล่าวว่า ก่อนมาแข่งขันสมาคมฯ วางเป้าไว้ 2 ข้อ คือ 1.ทั้ง 9 อีเวนต์ที่จัดแข่งขันทีมไทยจะต้องมีเหรียญรางวัลทั้งหมด และ 2.ตั้งเป้าเหรียญทองไว้ที่ 3 เหรียญ ซึ่งผลของการคว้าเหรียญทองที่ออกมาก็เกินเป้า ซึ่งต้องบอกว่านับตั้งแต่เมื่อปี 2007 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพจัดกีฬาซีเกมส์ในปีนั้นเป็นปีที่ทีมเรือใบคว้าเหรียญทองได้มากที่สุดที่จำนวน 7 เหรียญทอง หลังจากนั้นในซีเกมส์แต่ละปีทางสมาคมฯ จะคว้าได้เพียงปีละ 1-2 เหรียญเท่านั้น และจะเป็นมาเลเซียที่เป็นเจ้าทองมาโดยตลอด ผ่านมา 12 ปีถึงเวลาที่ไทยจะกลับมาเป็นเจ้าเหรียญทองอีกครั้งหนึ่งกับผลงาน 5 ทอง 2 เงินจาก 9 อีเวนต์ที่จัดแม้การแข่งขันยังเหลืออีก 2 อีเวนต์ในวันถัดไป และเป็นปีที่มาเลเซียเขายังไม่ได้เหรียญทองเลยด้วย ซึ่งความสำเร็จในปีนี้ก็คงต้องขอขอบคุณผู้ใหญ่ทุกฝ่ายที่ทุ่มงบให้การสนับสนุนนักกีฬาเรือใบไทยได้ออกไปเก็บตัวและแข่งขันต่างประเทศทั่วโลกอย่างต่อเนื่อง รวมทั้งการมีผู้ฝึกสอนชาวนิวซีแลนด์มาพัฒนาขีดความสามารถของเด็กไทยด้วย
