ตะกร้อสาวไทย ยังคงไร้เทียมทานเช่นกัน หลังคว้าเหรียญทอง ประเภททีมเดี่ยว ด้วยการไม่เสียแม้แต่เซ็ตเดียวตลอดทัวร์นามเมนต์ คว้าแชมป์ซีเกมส์ สมัยที่ 10 ติดต่อกัน
เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
การแข่งขัน เซปักตะกร้อ ในมหกรรมซีเกมส์ ครั้งที่ 30 เมื่อวันที่ 9 ธ.ค.62 ที่ซูบิค ยิมเนเซียม ประเทศฟิลิปปินส์ เป็นการแข่งขันประเภททีมเดี่ยวหญิง ที่แข่งขันในระบบพบกันหมดรอบเดียว 4 ทีม ประกอบด้วย ฟิลิปปินส์เจ้าภาพ, มาเลเซีย, เวียดนาม และ ไทย หนึ่งทีมที่ผลงานดีที่สุดคว้าเหรียญทองไป
โดยทัพตะกร้อสาวไทยที่ ประกอบด้วย “ตี่” ศศิวิมล จันทสิทธิ์, “หยาด” แก้วใจ พุ่มสว่างแก้ว และ “อุ้ม” อติกานต์ คงแก้ว ทำผลงานแข่ง 2 ชนะ 2 มี 6 คะแนน ลงแข่งขันนัดสุดท้าย พบ เจ้าภาพฟิลิปปินส์ ที่ประกอบด้วย อัลลีสซา บานดอย, อบิเกล ซินอกบูฮาน และ มารี ทามิง ซึ่งพ่ายรวดทั้ง 2 นัด ไร้คะแนนสะสม
โดยสาวเจ้าภาพพยายามสู้เต็มที่ ขึ้นฟาดให้ได้ทุกครั้งที่มีโอกาส แต่ทัพไทยยังประสบการณ์และทักษะที่เหนือกว่าไล่ฟาดขนะไปได้ 2-0 เซ็ต 21-11 และ 21-10 จบการแข่งขันซีเกมส์ครั้งนี้ทัพตะกร้อสาวทีมเดี่ยวหญิงไทยทำผลงานแข่ง 3 ชนะ 3 ได้ 9 คะแนนเต็ม คว้าเหรียญทองมาครองพร้อมทำสถิติไม่เสียเซ็ตให้คู่แข่งแม้แต่นัดเดียวเหมือนเช่นทีมชุดชายไทยที่คว้าเหรียญทองไปก่อนหน้านี้
โดยเหรียญทองเหรียญนี้ส่งให้ไทยสามารถครองเหรียญทองประเภทตะกร้อทีมเดี่ยวหญิงได้เป็นสมัยที่ 10 ติดต่อกัน นับตั้งแต่เมื่อซีเกมส์ครั้งที่ 21 ที่ประเทศมาเลเซียเป็นเจ้าภาพ ปี 2001 จวบจนปันจุบันรวมเป็น 18 ปีแล้วที่ตะกร้อสาวไทยครอบครองเหรียญทองทีมเดี่ยวหญิงซีเกมส์อยู่ชาติเดียว
“หยาด” แก้วใจ พุ่มสว่าง นักกีฬาเซปักตะกร้อหญิงทีมชาติไทยพี่ใหญ่ประจำทัพในซีเกมส์ครั้งนี้ เผยหลังช่วยทีมคว้าเหรียญทองประเภททีมเดี่ยวหญิงให้แก่ประเทศเป็นสมัยที่ 10 และเป็นเหรียญทองเหรียญที่ 6 ของตนเองในมหกรรมกีฬาซีเกมส์มากที่สุดในทีมหญิงชุดนี้ว่า ทีมตะกร้อไทยเกินร้อยในทุกๆ ชุดและทุกๆ รายการที่ลงทำการแข่งขัน ก่อนซีเกมส์นี้ได้ทำการเก็บตัวฝึกซ้อมถึง 9 เดือน พร้อมนำจุดข้อผิดพลาดจุดต่างๆ
“ทั้งจากรายการคิงส์คัพหรือจุดใดๆ ที่ทางสตาฟยังเห็นบกพร่องมาแก้ไขและพัฒนาทีมอยู่เรื่อยๆ นั่นก็เพื่อจะมาคว้าเหรียญทองในซีเกมส์นี้ให้สำเร็จ แต่หลังจากนี้ทีมไทยก็ไม่ควรหยุดพัฒนาการฝึกซ้อม เพราะทีมเพื่อนบ้างอย่างฟิลิปปินส์, เวียดนาม และ อินโดนีเซีย ต่างพัฒนาฝีเท้าดีวันดีคืน ทีมไทยต้องไม่หยุดอยู่กับที่ ส่วนความสำเร็จครั้งนี้ก็ต้องขอบคุณแฟนๆ กองเชียร์ที่ให้กำลังใจและที่สำคัญคือครอบครัว หากไม่ได้กำลังใจจากครอบครัวพวกตนทั้ง 5 คนของทีมหญิงคงไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้”
