‘ดร.ก้อง’ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย ยอมรับว่าวิทยาศาสตร์การกีฬา ของไทย ยังตามหลังชาติอาเซียน เร่งพัฒนากู้หน้าหนต่อไป

เกาะติดข่าวกีฬา แค่กดติดตาม ไลน์@ข่าวสดกีฬา ที่นี่
เพิ่มเพื่อน

‘ดร.ก้อง’ หลังจากที่ทัพนักกีฬาไทย จบเพียงอันดับ 3 ในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 30 หลุดจาก 2 อันดับแรกบนตารางเป็นครั้งแรกในรอบ 28 ปี ทำได้เพียง 92 เหรียญทอง 103 เหรียญเงิน 122 เหรียญทองแดง เท่านั้น

‘ดร.ก้อง’ ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า ผลงานของนักกีฬาไทยต้องขอบคุณที่ทุกคนทำหน้าที่ได้อย่างดีที่สุดแล้ว เรื่องจำนวนเหรียญอาจจะไม่ถูกใจ แต่ก็ต้องยอมรับว่าครั้งนี้ไทยเน้นนักกีฬาหน้าใหม่เข้ามาถึง 57 เปอร์เซ็นต์ หรือตีเป็น 550 กว่าคนได้ ดังนั้นยังมีโอกาสที่จะเติบโตมากกว่านี้ในอนาคต

“จริงอยู่ที่ครั้งนี้เราอาจจะพลาด แต่เชื่อว่าถ้ามีการทำงานร่วมกันระหว่าง กกท., คณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยฯ​ และสมาคมกีฬาต่างๆ ทำงานกันให้จริงจังมากกว่านี้ ปรับกลยุทธ์ต่างๆ ที่จะไปต่อสู้กับชาติอื่นๆ เราก็ยังมีโอกาสจะกลับมาได้ในครั้งหน้า”

ดร.ก้องศักด กล่าวต่อว่า ในส่วนของวิทยาศาสตร์การกีฬาต้องยอมรับว่าตอนนี้เราเน้นแค่เรื่องของป้องกันอาการบาดเจ็บ หรือทำให้ร่างกายทนทานต่อการซ้อมและการแข่งขัน หลายคนอาจจะมองว่าซีเกมส์ครั้งนี้เรื่องโปรแกรมอาจจะมีส่วนทำให้บาดเจ็บ แต่ทุกชาติก็เจอปัญหาเช่นเดียวกัน ดังนั้นมันไม่ใช่ข้อแก้ตัว เป็นหน้าที่ของเราที่จะต้องทบทวนและปรับปรุง

ผู้ว่าการกกท. กล่าวเสริมว่า สำหรับประเทศไทยนั้นมีนโยบายการส่งเสริมวิทยาศาสตร์การกีฬาที่ชัดเจน กำลังอยู่ในช่วงพัฒนา เพียงแต่โครงสร้างพื้นฐานด้านกีฬาของเรานั้นต้องยอมรับว่าเป็นรองฟิลิปปินส์, มาเลเซีย หรืออินโดนีเซีย อยู่เยอะ อย่างเช่นเวียดนามเองก็ดีกว่าไทยแล้ว เพราะมีทั้งสถาบันวิทยาศาสตร์การกีฬาแห่งชาติ และโรงพยาบาลกีฬา

“สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ไทยจะต้องรีบดำเนินการ ทำโครงสร้างพื้นฐานให้ดี พัฒนาบุคลาการให้เพียงพอ เพราะตอนนี้ต้องยอมรับแล้วว่าไทยยังล้าหลังหลายๆ ประเทศในอาเซียนอยู่” ดร.ก้องศักด กล่าวปิดท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน