ทัพนักกีฬาซีเกมส์ ที่ประเทศเวียดนามโปรแกรมทับเลือกตั้ง ผู้ว่าฯกทม. ซึ่งมีกำหนดในวันที่ 22 พ.ค.65 “บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) ชี้ เลือกตั้งล่วงหน้าไม่ได้ เหตุเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่น แต่สามารถแจ้ง กกต.ได้ ซึ่งจะไม่ถูกตัดสิทธิการเมือง

ความเคลื่อนไหวทัพนักกีฬาทีมชาติไทย ชุดเตรียมเข้าร่วมการแข่งขันมหกรรมกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่กรุงฮานอย ประเทศเวียดนาม ช่วงระหว่างวันที่ 12-23 พฤษภาคม โดยในช่วงระหว่างการแข่งขันมีนักกีฬาไทยบางส่วนที่ติดภารกิจรับใช้ทีมชาติไทย ทำให้ไม่สามารถกลับมาเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ที่กำหนดไว้วันที่ 22 พฤษภาคมได้นั้น

“บิ๊กก้อง” ดร.ก้องศักด ยอดมณี ผู้ว่าการการกีฬาแห่งประเทศไทย (กกท.) เปิดเผยว่า ทาง กกท.ได้เช็กข้อมูลเกี่ยวกับรายละเอียดของการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. ครั้งนี้ ซึ่งเป็นการเลือกตั้งท้องถิ่น และไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า ทำให้เป็นข้อจำกัด ที่ไม่เหมือนกับการเลือกตั้งทั่วไป ซึ่งสามารถไปลงทะเบียนใช้สิทธิ์ล่วงหน้าได้ ดังนั้นครั้งนี้เป็นความจำเป็นจริงๆ ของนักกีฬาทีมชาติไทย

ดร.ก้องศักด กล่าวว่า กกท.ได้สอบถามไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำกรุงเทพมหานคร (กกต.) ซึ่งได้รับคำตอบเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่า นักกีฬาทีมชาติไทยสามารถที่จะแจ้งเข้าสู่ระบบได้ว่าติดภารกิจ และไม่สามารถไปใช้สิทธิเลือกตั้งได้ โดยเมื่อแจ้งแล้วเข้าสู่ระบบแล้วก็จะไม่ถูกจำกัดสิทธิต่างๆ ทางการเมือง เพราะถือว่าได้รับผิดชอบแล้ว

“การเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ครั้งนี้ นักกีฬาไทยที่ติดภารกิจไม่สามารถทำได้จริงๆ เพราะเป็นระบบการเลือกตั้งท้องถิ่น ที่ไม่มีการเลือกตั้งล่วงหน้า ส่วนคนที่รู้ว่าในวันเลือกตั้งดังกล่าวมีภารกิจ และไม่สามารถไปเลือกตั้งได้ก็จะไปแจ้งเข้าสู่ระบบเอาไว้ก่อน อนาคตการไปใช้สิทธิลงสมัครรับเลือกตั้งต่างๆ ของน้องๆ ก็จะไม่เสียสิทธิ เพราะได้แจ้งเข้าสู่ระบบไว้แล้ว” บิ๊กก้องกล่าว

ผู้ว่าการ กกท.กล่าวอีกว่า ส่วนรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับเรื่องการแจ้งติดภารกิจ และไม่สามารถไปเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ได้ ทาง กกท.ก็จะทำความเข้าใจกับนักกีฬา และสมาคมกีฬาต่างๆ โดยก็ช่วยประชาสัมพันธ์ให้กับนักกีฬา และเจ้าหน้าที่ได้รับทราบข้อมูล และแนวทางในการดำเนินการที่ถูกต้องเกี่ยวกับเรื่องนี้ เพื่อให้สมาคมกีฬาไปทำความเข้าใจ และวางแผนต่อไป

ดร.ก้องศักด กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการประเมินความคาดหวังของทัพไทยในงานแถลงข่าวมีต เดอะ เพรส ซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ของสมาคมนักข่าวช่างภาพกีฬาแห่งประเทศไทย โดยตั้งเป้ารวมอยูที่ 116 เหรียญทองนั้น ซึ่งตอนแรกทาง กกท.ตั้งเป้าว่าจะต้องทำให้ดีขึ้นกว่าซีเกมส์ครั้งก่อน ที่ประเทศฟิลิปปินส์ เมื่อปี 2019 โดยทัพไทยทำผลงานได้ 92 เหรียญทอง 103 เหรียญเงิน 123 และเหรียญทองแดง ดังนั้นครั้งนี้เราอยากทำให้ได้ดีขึ้น เราคาดหวังว่าอย่างน้อยๆ กีฬาสากลต้องทำผลงานได้ดีขึ้น

“ส่วนตารางเหรียญรวมเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่ผมย้ำมาตลอดว่า เราจะทำให้ถึง 100 ทองเป็นเป้าหมายที่ได้วางเอาไว้จากสมาคมกีฬาต่างๆ ได้วิเคราะห์ และประเมิน แต่ในแง่ของการเตรียมการเราก็ดูข้อมูลจากสมาคมกีฬาด้วย และดูรอบด้าน เพื่อหาวิธีการที่จะทำให้เราได้ทองมากที่สุด แต่ไม่สามารถที่จะไปบอกได้ว่า จะได้ 100 หรือ 110 ทองแน่ แต่ว่าเป้าเราต้องทำให้ดีขึ้น โดยเฉพาะกีฬาสากลที่เราจะต้องทำให้ดี แต่ก็ไม่อยากกดดันนักกีฬา” ผู้ว่าฯกกท.กล่าวปิดท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน