หลังจาก “ช้างศึก” ฟุตบอลทีมชาติไทย พลาดท่าพ่าย มาเลเซีย 1-2 ในเกมนัดประเดิมสนาม กลุ่มบี ศึกซีเกมส์ ครั้งที่ 31 ที่ เธียน ตรวง สเตเดียม เมื่อวันที่ 7 พ.ค. ที่ผ่านมา

ล่าสุดเมื่อวันที่ 8 พ.ค. มาโน โพลกิ้ง หัวหน้าผู้ฝึกสอนทีมชาติไทย ยังคงนำลูกทีมลงฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่องที่ศูนย์ฝึกนาม ดิ่ง เพื่อเตรียมตัวสำหรับการแข่งขันในนัดต่อไป โดย มาโน กล่าวว่า ตอนนี้ทีมชาติไทยไม่ต้องสนการแข่งขันของคู่อื่นใดๆ ทั้งสิ้น เพราะว่ามีหน้าที่จะต้องเอาชนะใน 3 เกมที่เหลือให้ได้ หากว่าทีมชาติไทย สามารถเล่นได้แบบครึ่งแรกที่เจอกับมาเลเซีย ก็สามารถเอาชนะได้ทุกทีม

มาโน กล่าวต่อว่า เกมกับมาเลเซียนั้นพอใจครึ่งแรกอย่างมาก เพราะทีมได้เล่นตามแนวทางที่วางเอาไว้ แต่การที่โจนาธาน เข็มดี โดนใบแดง นั้นถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญของเกมและนักเตะจะต้องเรียนรู้ในการเล่นกับทีมที่มีผู้เล่นมากกว่า เพราะจะเห็นได้ว่าครึ่งหลังทีมไม่สามารถครอบครองบอลได้มากนัก และเสียบอลง่ายๆ จนทำให้มาเลเซียเป็นฝ่ายบุกได้อย่างต่อเนื่อง

“แน่นอนว่าสไตล์ของทีมเป็นสไตล์ที่ชอบเกมรุกอยู่แล้ว พอเหลือ 10 คนต้องถอยมาเล่นเกมรับมากกว่าปกติมันไม่ใช่เกมที่ไทยถนัดเลย ฉะนั้นจะต้องเรียนรู้จากความผิดพลาดตรงนี้”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากประวัติศาสตร์ทีมฟุตบอลทีมชาติไทย ในการเข้ารวมกีฬาซีเกมส์ 30 ครั้งที่ผ่านมา มีเพียง 4 ครั้ง ที่ ทีมชาติไทย แพ้ตั้งแต่เกมเปิดสนาม และจาก 4 ครั้ง ไม่มีครั้งไหนเลยที่สามารถเร่งฟอร์มไปคว้าเหรียญทอง นอกจากนี้ ในการแข่งขันแบบแบ่งกลุ่ม 2 กลุ่ม ในรอบแรกนั้น หากทีมไทยแพ้นัดแรก ก็จะตกรอบแรกทั้ง 3 ครั้ง

สำหรับผลงาน 4 ครั้งที่แพ้รอบแรก มีดังนี้ เริ่มจากซีเกมส์ครั้งที่ 1 ปี 1959 แพ้ เวียดนามใต้ 0-4 จบด้วยรองแชมป์ จากนั้น ปี 1973 แพ้ สิงคโปร์ 0-1, ปี 2011 แพ้ มาเลเซีย 1-2 และล่าสุดครั้งที่แล้ว ปี 2019 แพ้ อินโดนีเซีย 0-2 ล้วนจบเห่ด้วยการตกรอบแรกทั้งสิ้น
ขณะเดียวกัน นับตั้งแต่ฟุตบอลชายซีเกมส์ จำกัดอายุเมื่อปี 2001 มีมาเลเซียทีมเดียวเท่านั้น ที่แพ้ในรอบแบ่งกลุ่ม และกลับมาคว้าแชมป์ได้ ในปี 2009

เกี่ยวกับสถิตินี้ มาโน่ กล่าวว่า แน่นอนว่าการแพ้ในเกมแรกมันทำให้ทุกอย่างยากขึ้น แต่เรายังมั่นใจในทีมชุดนี้ กับผู้เล่นที่มี ถ้าหากว่าสามารถเล่นได้ในแบบครึ่งแรกที่เล่นกับมาเลเซีย ยังเชื่อว่าทีมมีโอกาสคว้าแชมป์ได้อยู่

ด้าน “มาดามแป้ง” นางนวลพรรณ ล่ำซำ ผู้จัดการทีมชาติไทย ได้เดินพูดคุยกับทีมงานและนักเตะระหว่างรับประทานอาหารกลางวัน เพื่อให้กำลังใจ โดยนักเตะทุกคนยังอยู่ในสีหน้ายิ้มแย้ม และ ยังพร้อมสู้ต่อใน 3 เกมที่เหลือ

มาดามแป้ง เผยว่า เกมกับมาเลเซียนั้นก่อนโดนใบแดงทีมไม่ได้เป็นรองเลย การโดนใบแดงต้องยอมรับเพราะโจนาธาน เข็มดี ยืนเป็นตัวสุดท้ายอยู่ เป็นความผิดพลาดของตัวผู้เล่นและโจนาธารเองก็เสียใจมาก การเหลือ 10 คน กับนักเตะที่ยังอ่อนประสบการณ์เลยทำให้ต้านไม่อยู่มาเสียประตูช่วงทดเวลาบาดเจ็บแทน ทำให้ 3 นัดที่เหลือเป็นงานที่ยากไปด้วย

“บรรยากาศในเกมนั้นดีมาก แฟนบอลเข้ามาเต็มสนาม ได้คุยกับสื่อเวียดนามเขาก็อยากเจอกับทีมชาติไทยในนัดชิงชนะเลิศเช่นกัน ในฐานะผู้จัดการทีมก็ขอโทษกับผลแพ้ในวันนี้และจะทำผลงานใน 3 นัดต่อไปให้ดีที่สุด” มาดามแป้ง กล่าวปิดท้าย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน