นายเหวิน หยวน ตัน ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายพาณิชย์ของเป๊ปซี่โค เอเชียแปซิฟิก เปิดเผยว่า เป๊ปซี่โค ได้สตาร์ตอัพที่เข้ารอบสุดท้าย 10 ราย ภายใต้โครงการ Greenhouse Accelerator ครั้งที่สอง ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก เพื่อขับเคลื่อนนวัตกกรรมด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ยั่งยืน

ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีแรกที่มีผู้เข้ารอบจากไทยรวม 2 ราย คือ CIRAC นำเสนอเทคโนโลยียุคใหม่ที่จะช่วยในการรีไซเคิลขยะบรรจุภัณฑ์พลาสติกเคลือบอะลูมิเนียมที่รีไซเคิลยากที่สุดเป็นอันดับต้นๆ โดยเทคโนโลยีดังกล่าวจะช่วยเปลี่ยนพลาสติกเคลือบอะลูมิเนียมให้กลายเป็นอะลูมิเนียมและน้ำมันชนิดหนักที่ยั่งยืน ส่วน AllEV เป็นสตาร์ตอัพไทยอีกหนึ่งรายที่เข้ารอบ ซึ่งเป็นบริษัทที่พลิกโฉมการคมนาคมในประเทศไทย มีเป้าหมายนการช่วยให้ธุรกิจในไทยบรรลุความยั่งยืนและประหยัดค่าใช้จ่ายด้วยโมเดลบริการแบบสมัครสมาชิกรูปแบบใหม่สำหรับการดัดแปลงรถยนต์เก่าให้เป็นระบบไฟฟ้า ช่วยยืดอายุยานยนต์เพื่อการพาณิชย์ที่มีอยู่เดิมให้ยาวนานยิ่งขึ้น

รวมถึงสตาร์ตอัพที่เข้ารอบในปีนี้มาจากออสเตรเลีย จีน เวียดนาม และฟิลิปปินส์ด้วย โดยจะมีผู้ผ่านเข้ารอบสุดท้ายเพียง 2 ราย ซึ่งแต่ละรายล้วนมีโซลูชันในด้านการทำสวนทำไร่อย่างยั่งยืน เพื่อขับเคลื่อนนวัตกรรมด้านอาหารและเครื่องดื่มที่ยั่งยืน

อย่างไรก็ดี ก่อนหน้านี้เป๊ปซี่โค ได้ประกาศกลยุทธ์ PepsiCo Positive หรือ pep+ ซึ่งเป็นกรอบการทำงานในการสร้างความยั่งยืนให้กับภาคธุรกิจอาหารและเครื่องดื่ม ผ่านการขับเคลื่อน 3 ด้าน การเกษตรเชิงบวก ห่วงโซ่คุณค่าเชิงบวก และทางเลือกเชิงบวก เพื่อสร้างการเติบโตทางธุรกิจและคุณค่าให้กับสังคม

โดยการทำเกษตรกรรมเชิงบวก ด้วยการทำงานร่วมกับเกษตรกรในการจัดหาผลิตภัณฑ์ที่ยั่งยืน ส่งเสริมแนวทางปฏิบัติทางการเกษตรแบบปฏิรูป และปรับปรุงความเป็นอยู่ของเกษตรกรภายในห่วงโซ่อุปทานของเป๊ปซี่โค

ถัดมาคือ การจัดการห่วงโซ่คุณค่าเชิงบวก เพื่อการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2583 ซึ่งปัจจุบันได้ก้าวหน้าอย่างมาก เช่น บรรจุภัณฑ์ rPET (ขวดเครื่องดื่มจากพลาสติกรีไซเคิล) สำหรับตลาดใน 6 ประเทศในภูมิภาค ได้แก่ ญี่ปุ่น เวียดนาม ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ จีน และเมียนมาร์ ซึ่งได้พัฒนาและใช้ไฟฟ้าจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนกว่า 97% ในโรงงานในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก และรวมถึงการริเริ่มนำรถบรรทุกพลังงานไฟฟ้มาใช้ในการขนส่งสินค้าในประเทศจีนและไทย

และสุดท้ายคือ ทางเลือกในเชิงบวก ซึ่งมุ่งมั่นที่จะลดโซเดียมในผลิตภัณฑ์อาหารหลัก 15-30% ภายในปี 2573 เพื่อให้มั่นใจได้ว่า 75% ของกลุ่มผลิตภัณฑ์อาหารสะดวกซื้อทั่วโลกของเป๊ปซี่โค จะสอดรับกับเกณฑ์มาตรฐานผลิตภัณฑ์อาหารที่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น เช่น เป๊ปซี่โค มุ่งมั่นลดปริมาณน้ำตาลในเครื่องดื่ม ตัวอย่างเช่น เครื่องดื่มในกลุ่มเป็ปซี่แบล็ค ที่ปราศจากน้ำตาล มีเป้าหมายภายในปี 2568 สองในสามของเครื่องดื่มของเป๊ปโคจะมี 100 แคลอรี่ หรือน้อยกว่านั้นจากน้ำตาลที่เติมในเครื่องดื่ม

รวมถึงการเปิดตัวเครื่องดื่มหลากหลายรูปแบบเพื่อผู้บริโภคที่ใส่ใจสุขภาพ อาทิ เกเตอเรดซีโร่ ที่ให้พลังงานแบบเดียวกับสูตรดั้งเดิมแต่ไม่มีน้ำตาล ทำให้เป็นตัวเลือกสำหรับนักกีฬาและคนที่กำลังมองหาตัวเลือกของเครื่องดื่มที่มีแคลอรี่ต่ำ เป็นต้น

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน