อินโนพาวเวอร์ ขยายผลการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์อย่าง EV Truck และ EV Bus ยกระดับภาคโลจิสติกส์ไทย รับเทรนด์ Green Logistics
นายอธิป ตันติวรวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อินโนพาวเวอร์ จำกัด เปิดเผยว่า อินโนพาวเวอร์มีแผนขยายจำนวนรถบัสไฟฟ้าให้ถึง 200 คัน ภายในปี 2569 ต่อยอดความสำเร็จจากโครงการ EV Fleet สู่การขยายผลการใช้งานยานยนต์ไฟฟ้าเชิงพาณิชย์อย่าง รถบรรทุกไฟฟ้า (EV Truck) และรถขนส่งสาธารณะที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อน (EV Bus)
ขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดหา เจรจากับผู้ผลิต และเตรียมโครงสร้างพื้นฐานรองรับ เช่น สถานีชาร์จและพันธมิตรด้านการบริหารจัดการและซ่อมบำรุง เพื่อทยอยส่งมอบและทดสอบการใช้งานจริง
“ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างหารือกับพันธมิตรในอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ เพื่อทดลองใช้รถบรรทุกไฟฟ้า ในเส้นทางขนส่งจริง พร้อมศึกษาความเป็นไปได้ทั้งด้านเทคนิค และต้นทุนเชิงพาณิชย์ โดยเชื่อมั่นว่าการต่อยอด EV Fleet สู่การใช้งานรถบรรทุกไฟฟ้า และรถขนส่งสาธารณะที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนในภาคโลจิสติกส์ จะเป็นหมุดหมายสำคัญในการเร่งเปลี่ยนผ่านสู่ระบบขนส่งที่สะอาด ยั่งยืน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมยกระดับมาตรฐานโลจิสติกส์ไทยให้ตอบโจทย์ Green Logistics อย่างแท้จริง”
นายอธิป กล่าวว่า บริษัทจะสร้างเครือข่ายความร่วมมือกับผู้ประกอบการโลจิสติกส์ชั้นนำ ผู้ผลิตยานยนต์ไฟฟ้า และผู้ให้บริการบริหารจัดการ Fleet รวมถึงเตรียมความพร้อมด้านโครงสร้างพื้นฐานสถานีชาร์จ พร้อมขยายรองรับการใช้งานจริง ด้วยเล็งเห็นโอกาสและศักยภาพในกลุ่มการขนส่งในเมือง (Urban Delivery)
การขนส่งระยะสั้นระหว่างคลังสินค้า (Short-haul Distribution), Shuttle bus ในเขตนิคมอุตสาหกรรมหรือท่าเรือ และกลุ่มขนส่งในสนามบิน รวมถึงยานยนต์ไฟฟ้าไร้คนขับ ในการส่งสินค้าและบริการแบบระบบปิด ล้วนเป็นกลุ่มที่ตอบโจทย์สมรรถนะของ EV Truck/Bus ในปัจจุบันได้อย่างเหมาะสมที่สุด
ปัจจุบันการเปลี่ยนผ่านสู่รถบรรทุกไฟฟ้า และรถขนส่งสาธารณะที่ใช้พลังงานไฟฟ้าในการขับเคลื่อนมีปัจจัยสนับสนุนสำคัญหลายประการ โดยเฉพาะภาคธุรกิจและภาครัฐให้ความสำคัญต่อการบรรลุเป้าหมาย Net Zero และ Green Logistics มากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งรัฐบาลไทยยังให้การสนับสนุนอย่างต่อเนื่องผ่านนโยบายและมาตรการจูงใจต่างๆ
เช่น มาตรการลดภาษีนำเข้า เงินสนับสนุนโครงการนำร่อง และกฎหมายสิ่งแวดล้อมที่ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการเร่งปรับตัว รวมถึงอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการในขั้นตอนต่างๆ กับภาครัฐที่เกี่ยวข้อง
สำหรับโครงการ EV Fleet ที่เริ่มดำเนินการตั้งแต่เดือนส.ค.2566 ด้วยรถโดยสารไฟฟ้าจำนวน 28 คัน สำหรับรับ-ส่งพนักงานการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ภายในพื้นที่โรงไฟฟ้าแม่เมาะ จังหวัดลำปาง ซึ่งสามารถลดต้นทุนพลังงานได้ประมาณ 750,000 บาทต่อปี สะท้อนความคุ้มค่าในระยะยาว ต่อมาบริษัทได้ขยายการใช้งานไปยังพื้นที่อื่นของ กฟผ. ได้แก่ สำนักงานกลาง และเขื่อนอื่นๆ ของ กฟผ.
อย่างไรก็ตาม อินโนพาวเวอร์มุ่งมั่นที่จะพัฒนาและนำเสนอโซลูชันด้านโลจิสติกส์ที่ครบวงจร เพื่อให้การใช้ EV Truck และ EV Bus มีประสิทธิภาพสูงสุด อาทิ ระบบคำนวณและวางแผนเส้นทางอัจฉริยะ (Smart Routing) ระบบบริหารจัดการแบตเตอรี่ การวางเครือข่ายสถานีชาร์จที่เหมาะสม (EV Station as a Service)
ที่ช่วยวางแผน ออกแบบ ติดตั้งสถานีชาร์จภายในพื้นที่ของลูกค้าพร้อมระบบบริหารจัดการแบบครบวงจร และระบบติดตามการวิ่งของรถแบบเรียลไทม์ รวมถึงกำหนดล่วงหน้าสำหรับการบำรุงรักษา (Predictive Maintenance) เพื่อลดช่วงเวลาที่ไม่สามารถใช้รถได้ตามปกติลง