นางเอกดัง “เบลล่า” กับ “มะปราง” ดาราสาว ลั่นพร้อมให้ตรวจสอบ “บี เคิร์ฟ” ผลิตภัณฑ์อาหารเสริม หลังตร.เล็งสอบ ส่อเค้าโฆษณาเกินจริง ขายสินค้าแบบแชร์ลูกโซ่ มะปรางยอมรับตัวแทนจำหน่ายโฆษณาเว่อร์ แต่เรียกมาเตือนแล้ว ส่งสินค้าให้ “อย.” ตรวจ แต่ยังไม่ตอบกลับมา ส่วนตลาดใหม่ดอนเมือง ตร.ตรวจแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ พบผิดกฎหมาย 186 ร้าน ยึดสิ่งของกว่า 3 แสนชิ้น ก่อสร้างอาคารผิดกฎหมาย 7 คดี ดูหมิ่นเจ้าพนักงาน 1 คดี เตรียมออกหมายเรียก “เฮียเซ้ง” เจ้าของตลาดมาสอบปากคำ

เมื่อเวลา 09.30 น. วันที่ 6 พ.ค. ที่ตลาดใหม่ดอนเมือง กทม. พล.ต.อ.วิระชัย ทรงเมตตา รองผบ.ตร. ร่วมกับ นพ.ธเรศ กรัษนัยรวิวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข และนพ.วันชัย สัตยาวุฒิพงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการอาหารและอยา (อย.) นำกำลังตำรวจและเจ้าหน้าที่ อย. ตรวจสอบร้านจำหน่ายเครื่องสำอาง และอาหารเสริมผิดกฎหมาย เป็นวันสุดท้าย โดยค้นทั้งหมด 67 จุด เป็นการตรวจค้นครบ 100 เปอร์เซ็นต์ในพื้นที่ตลาดแห่งนี้

พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่าภาพรวมของการตรวจค้นในรอบ 4 วัน ตรวจแล้ว 164 ร้าน ยึดของกลาง 1,823 รายการ รวม 248,540 ชิ้น ใช้กำลังเจ้าหน้าที่ทั้งหมด 850 นาย และมี เจ้าหน้าที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) มาร่วมค้นด้วย เนื่องจากมีผู้มีอิทธิพลเรียกเก็บเงินจากพ่อค้าแม่ค้า ตอนนี้รอให้ผู้เสียหายมาร้องเรียนกับปปง. จากนั้นปปง.จะตรวจสอบเส้นทางการเงินเพื่อเอาผิดต่อไป ขอชี้แจงว่าหากเจ้าหน้าที่พบ สิ่งผิดกฎหมายแล้วไม่ยึด จะมีความผิดมาตรา 157 แต่หากทำตามกฎหมายแล้วถูกฟ้องร้อง จะรับผิดชอบเอง การยึดของนั้นเพื่อไม่ต้องการให้หลุดไปสร้างปัญหาเดือดร้อนแก่ประชาชน

รองผบ.ตร.กล่าวต่อว่าเมื่อตรวจค้นตลาดเสร็จแล้ว เรื่องจะไม่จบเพียงเท่านี้ ยังมีเรื่อง อื่นๆ ตามมาอีก ทั้งการตรวจสอบการดัดแปลงอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต การต่อเติมอาคาร จะตรวจสัญญาระหว่างผู้เช่ากับกรมธนารักษ์ ว่ามีเงื่อนไขสัญญาอย่างไร และการกระทำผิดนี้เป็นเหตุให้ยกเลิกสัญญาเช่าหรือไม่

ต่อมาเวลา 13.00 น. พล.ต.อ.วิระชัย พร้อมด้วยนายวิทยา นิติธรรม ผอ.กองกฎหมาย ปปง. นำเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบที่ร้าน Tamp Laboratory โดย พล.ต.อ.วิระชัยกล่าวว่าร้านถูกต้องตามมาตรฐาน ขอจดแจ้งกับ อย. แล้ว แต่เป็นโรงงานที่ยังไม่ขอตั้งโครงการ มีผลิตภัณฑ์บางชิ้นในเรื่องฉลากของผลิตภัณฑ์ไม่ขอรายงานการจดแจ้ง แสดงสรรพคุณเกินจริง จะยึดผลิตภัณฑ์ทั้งหมดไปตรวจสอบ จากนั้นผู้ประกอบการต้องแก้ไขให้ถูกต้อง

รองผบ.ตร.กล่าวว่า ส่วนอาคารพลาซ่าริมน้ำ ตั้งรุกล้ำที่สาธารณะคลองเปรมประชากร ต่อเติมอาคารโดยไม่ได้รับอนุญาต ที่ชั้น 2 เป็นสำนักงาน พบนามบัตร พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ นายกสมาคมมิตรภาพไทย-เวิลด์ และรูป พ.ต.ท.สันธนะ ถ่ายกับม้าที่สนามม้าราชกรีฑาสโมสร พร้อมแฟ้มรายรับรายจ่ายของสำนักงาน แต่ห้องล็อก จะให้ฝ่ายสืบสวนขอหมายค้นเพื่อตรวจสอบ และจะรวบรวมหลักฐานทั้งหมด ส่วนความผิดการบุกรุกที่สาธารณะ เป็นฐานความผิดที่สามารถยึดทรัพย์ได้ ปปง.จะเข้ามาตรวจสอบ หากพบว่าเชื่อมโยงถึงกลุ่มทุนและบุคคลรายใด จะเรียกมาสอบปากคำ และจะยึดทรัพย์ต่อไป คาดว่าจะใช้เวลาไม่นาน

ขณะที่นายบัญชา สืบกระพัน หัวหน้าฝ่ายโยธาสำนักงานเขตดอนเมืองกล่าวว่า สถานที่ดังกล่าวผิดกฎหมาย รวมถึงอาคารในตลาดนี้หลายแห่ง บางจุดรื้อถอนได้เลย ตามกฎหมายทางสำนักงานเขตให้เวลา 15 วันในการรื้อถอน โดยเจ้าของอาคารสามารถยื่นอุทธรณ์ หรือยื่นแบบแปลนให้เขตพิจารณาใหม่ภายใน 30 วันได้ หากครบกำหนดระยะเวลาแล้ว ยังไม่รื้อถอน สำนักงานเขตจะแจ้งความ ถ้าเขตรื้อถอนเองจะเรียกค่าเสียหายกับเจ้าของอาคาร เขตจะออกคำสั่งห้ามใช้สถานที่ และต้องรื้อถอนอาคารที่ผิดกฎหมายทั้งหมด

เวลา 16.30 น. พล.ต.อ.วิระชัย พร้อมด้วย พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบช.ทท. ร่วมแถลงผลตรวจค้นว่า ตรวจค้นครบแล้ว 100 เปอร์เซ็นต์ และติดหมายห้ามใช้อาคารแล้ว โดยตรวจค้น 259 ร้าน พบร้านผิดกฎหมาย 186 ร้าน ยึดสิ่งของได้ 2,868 รายการ 320,783 ชิ้น ยึดเครื่องจักรผลิตภัณฑ์ 7 เครื่อง แจ้งความผิดก่อสร้างอาคารโดยผิดกฎหมาย 7 คดี และดูหมิ่นเจ้าพนักงานและขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ต่อเจ้าพนักงานอีก 1 คดี

“วันนี้ถือว่าปิดฉากเรียบร้อย ประชาชนได้ประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าที่ขายสินค้าในตลาดแห่งนี้ ไม่ต้องจ่ายค่าคุ้มครองให้กับใคร จะเสียเพียงค่าเช่าตามกฎหมายเท่านั้น จะไม่ถูกใครคุกคามอีก เพราะมีตำรวจมาคุ้มครองดูแล และจะไม่เกิดเหตุการณ์เหมือนตอนทาง อย.มาตรวจสอบ แล้วถูกกักขังไว้ในตลาดแห่งนี้อีกแล้ว” พล.ต.อ.วิระชัยกล่าว

ส่วนพล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวว่า ตั้งแต่วันที่ 7 พ.ค.เป็นต้นไป สามารถเปิดร้านค้าได้ตามปกติ ไม่ต้องจ่ายเงินให้ใครอีก นอกจากค่าเช่าตามกฎหมาย ขายสินค้าถูกกฎหมายให้ผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดี ตำรวจจะดูแลพื้นที่จนกว่าพ่อค้าแม่ค้าจะอุ่นใจ ส่วนความผิดในส่วนอื่นๆ จะดำเนินการต่อเนื่องไป หากพบว่ามีความผิดเพิ่มก็จะดำเนินการต่อไป

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกัน ตำรวจอยู่ระหว่างการรวบรวมหลักฐาน ออกหมายเรียกนายสุชาติ โชว์วิวัฒนา หรือเฮียเซ้ง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พัฒนาตลาดใหม่ดอนเมือง จำกัด หลังตรวจสอบพบว่าตลาดเช่าพื้นที่จากกรมธนารักษ์ พื้นที่ 18 ไร่ ราคา 68,000 บาท ต้องเรียกมาสอบปากคำในประเด็นต่างๆ ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด โดยเบื้องต้นพบว่ามีความผิดหลายองค์ประกอบ อยู่ระหว่างรวบรวมหลักฐานเอาผิดกรรมการบริหารตลาด และผู้ที่เกี่ยวข้องต่อไป

ส่วนกรณีอาหารเสริมยี่ห้อหนึ่งอวดอ้างลดน้ำหนักของนักแสดงสาวชื่อดัง มีลักษณะ เข้าข่ายการขายสินค้าแบบลูกโซ่ เนื่องมีการ กระจายสินค้าให้กับตัวแทนทั่วประเทศ มีการแจกสิ่งของอีก เช่น ทอง ตั๋วเครื่องบิน เงินสด หากสนใจจะสมัครเป็นตัวแทนจำหน่ายก็สามารถสมัครได้เลย เปิดบิลขั้นต่ำเพียง 400 บาท ได้สินค้า 5 กล่อง ได้เข้ากลุ่มตัวแทน มีการเทรนการขาย ออกรหัส และบัตรตัวแทน

โดยพล.ต.อ.วิระชัยกล่าวถึงเรื่องนี้ว่ายังไม่ได้ตรวจสอบ เป็นกรณีที่น่าสนใจ เนื่องจากเจ้าของแบรนด์เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียง สร้างความเชื่อถือจากประชาชนได้ ขณะนี้ถือว่ายังไม่เข้าข่ายการขายสินค้าแบบลูกโซ่ เพราะยังไม่ได้การรับแจ้งจากประชาชน แต่หากพบว่าขายสินค้าแบบลูกโซ่ จะตรวจสอบไปถึงเลขจดแจ้งทาง อย. และส่วนผสมต่างๆ อีกด้วย

รายงานข่าวจาก อย. ระบุว่าได้รับการแจ้งร้องเรียนว่ามีสินค้าอาหารเสริมยี่ห้อหนึ่ง มีดาราดังประกาศตัวเป็นเจ้าของแบรนด์ ได้ใช้ข้อความในโฆษณาว่า “ชงผอม” จากการตรวจสอบ อย.ไม่เคยให้อนุญาตโฆษณาอาหารเสริมในลักษณะดังกล่าว และถือว่าเป็นการโฆษณาโดยไม่ได้รับอนุญาต ขั้นตอนต่อไปจะตรวจสอบว่าโฆษณาเกินจริง และหวังผลเพื่อให้ประชาชนเข้าใจผิดหรือไม่

โดยในหลักการอาหารเสริม ถือเป็นสิ่งที่กินแล้วเข้ามาเพื่อเสริมอาหารหลัก และจะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงร่างกาย หรือรักษาโรคใดๆ ได้ หากทำให้เชื่อว่าจะทำให้เปลี่ยนแปลงใดๆ ได้ จะเข้าข่ายว่าโฆษณาเกินจริง ในการกวดขัดผลิตภัณฑ์อาหารเสริม หลังจากตรวจพบว่ามีหลายยี่ห้อลักลอบเติมสารต้องห้าม ที่เป็นอันตรายต่อร่างกายประชาชน หลังจากได้รับการร้องเรียน จะสุ่มเก็บตัวอย่างของสินค้าเพื่อหาสารอันตรายต่อไป

สำหรับ พ.ร.บ.อาหาร พ.ศ.2522 มาตรา 40 ระบุว่าห้ามมิให้ผู้ใดโฆษณาคุณประโยชน์คุณภาพ หรือสรรพคณของอาหารอันเป็นเท็จ หรือเป็นการหลอกลวงให้เกิดความหลงเชื่อโดยไม่สมควร ผู้ใดโฆษณาอาหารโดยฝ่าฝืนมาตรา 40 ต้องระวางโทษจําคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ

วันเดียวกัน “มะปราง” วิรากานต์ เสณีตันติกุล ดาราสาวชื่อดังเจ้าของผลิตภัณฑ์อาหารเสริมลดน้ำหนัก Be curve กล่าวว่าที่บอกว่าสินค้าเราโฆษณาเกินจริง ตรงนี้ไม่ได้มาจากทางบริษัท มาจากตัวแทนจำหน่าย ได้เรียกมาตักเตือน และปรับเปลี่ยนการโฆษณาใหม่ ตอนแรกที่เรียกตัวแทนจำหน่ายมาตักเตือน เขาก็ถามว่าแล้วจะให้ทำอย่างไร ตนเองก็ตอบไม่ถูกว่าอันไหนถึงจะถูกต้องที่สุด เลยเข้าไปขอคำแนะนำจากสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค (สคบ.) ว่าควรทำอย่างไรถึงจะถูกต้อง

“ส่วนตัวสินค้าปรางก็นำไปส่งให้ทาง อย. ตรวจอีกครั้ง ตอนนี้ยังไม่มีอะไรกลับมา ไม่ได้ส่งตรวจแค่ อย. เท่านั้น ส่งกรมวิทย์ให้ตรวจด้วย คือส่งไปหลายที่ทำเพื่อความสบายใจของเราเองและลูกค้า ปรางมองว่าเหตุการณ์ครั้งนี้ที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องที่ดี ทำให้ผู้บริโภคปกป้องตัวเองกันมากขึ้น ตัวปรางทำสินค้าเองก็ไม่ได้เดือดร้อน เพราะว่าเตรียมพร้อมทุกอย่างอย่างถูกต้อง เรียกว่าเคลียร์ทุกอย่าง” ดาราสาวกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่าทราบหรือไม่ว่าตัวสินค้าถูกเพ่งเล็ง นักแสดงสาวกล่าวว่าไม่ใช่แค่สินค้าที่ถูกดำเนินคดีที่เป็นข่าวเท่านั้น ยังมีสินค้าอีกหลายแบรนด์ที่มีรายชื่อโดนเพ่งเล็ง หนึ่งในนั้นมีสินค้าของตนติดอยู่ด้วย ถือว่าเป็นเกียรติ

ต่อข้อถามว่าร่วมหุ้นกับเบลล่า-ราณี แคมเปน ใช่หรือไม่ มะปรางกล่าวว่าใช่ คุยกันตลอด เบลรับหน้าที่ดูแลหน้าบ้าน ปรางดูแลหลังบ้าน เรื่องของตัวแทนจำหน่าย เพราะเรื่องการพูด การโฆษณา เบลจะเก่งกว่า เราคุยกันทุกเรื่อง อย่างเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็แอบกังวล เพราะทุกแบรนด์สะเทือนหมด เราเป็นห่วงตัวแทนจำหน่าย แต่อยากบอกว่าเรายืนข้างความถูกต้อง ไม่ได้กลัวเรื่องถูกเรียกตรวจ เพราะอย่างที่บอกว่าไม่ต้องรอให้ใครเรียกตรวจ เราเอาสินค้าของเราส่งไปตรวจ อย. และกรมวิทย์อีกครั้ง เพื่อความสบายใจของลูกค้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 1 พ.ค. “เบลล่า” ราณี กล่าวถึงผลิตภัณฑ์ Be Curve ว่าความจริงยังไม่ค่อยเข้าใจถึงถึงคำว่าบอส แต่กับธุรกิจที่ทำอยู่ก็ลงทุนไปในฐานะบอส สิ่งที่ได้รับฟีดแบ็กมาจะเป็นความห่วงใยมากกว่า กลัวว่าจะทำอะไรที่ผิดพลาดไปหรือเปล่า เป็นข้อดีเหมือนกันที่ตอนนี้ผู้บริโภคต้องการจะตรวจสอบทุกอย่าง ในฐานะคนทำธุรกิจก็ต้องทำออกมาอย่างโปร่งใส และชัดเจน ผลิตภัณฑ์ที่เป็นบอสอยู่ เลือกแล้วที่จะทำและตั้งใจทำจริงๆ ทดลองใช้ คัดสรรทุกสิ่งทุกอย่างที่ดีมากๆ ทั้งในเรื่องของแหล่งโรงงานต่างๆ มั่นใจได้เลยว่ามีคุณภาพ สะอาด ไม่ลวงตาแน่นอน และพาร์ตเนอร์ก็ดีมากๆ เลย

เบลล่ากล่าวว่า ยืนยันว่าเบลตั้งใจทำออกมาจริงๆ ทุกอย่างโปร่งใส ชัดเจนมากๆ เปิดเผย และตรวจสอบทุกอย่างได้เลย ในส่วนการโฆษณาเกินจริงนั้น ถ้าเป็นส่วนของทางบริษัทเองที่เผยแพร่ข้อมูลต่างๆ ออกไป เป็นการเผยแพร่ข้อมูลตามอย.เลย ตามคุณสมบัติ ส่วนผสมต่างๆ ระบุชัดเจน ถ้ามาจากทางบริษัท ยืนยันว่าทุกอย่างตรวจสอบได้ร้อยเปอร์เซ็นต์เลย ข้อมูลของแบรนด์ตรวจสอบได้ทุกอย่าง

นางเอกสาวกล่าวว่า เรามีพาร์ตเนอร์ในการทำธุรกิจที่ดี ก็อยากเปิดเผยตรงนี้ให้กับทางผู้บริโภค และตัวแทนจำหน่ายมั่นใจในผลิตภัณฑ์ของเรา ในแง่ของการรับผลิตภัณฑ์ของเราไปขายด้วย ว่าสินค้าของเราไว้วางใจได้จริงๆ ก็อยากให้คนที่อยากใช้ หรือคนที่นำไปขายต่อมั่นใจด้วย สำหรับตนถ้าในการทำธุรกิจระยะยาว เราจะเปรียบตัวเองเป็นต้นไม้ ถ้ามีรากฐานที่มั่นคงถ้ามีมรสุมต่างๆ เข้ามา มันก็เป็นบททดสอบธุรกิจ หรือว่าชีวิต

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน