แห่รับข้าวมงคลแน่น! งานมหัศจรรย์พันธุ์ข้าว

‘มหัศจรรย์พันธุ์ข้าวมงคล พืชผลของพ่อ’ มติชนร่วมรัฐ-เอกชน จัดเทิดพระเกียรติและรำลึกพระมหากรุณาธิคุณ ในงานมีนิทรรศการ แสดงพันธุ์ข้าวหายากจาก ทั่วประเทศกว่า 199 สายพันธุ์ ระหว่าง 24-27 พ.ย. ที่เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ ในงานแจกพระบรมฉายาลักษณ์พร้อมกับข้าวมงคลฟรี

เมื่อวันที่ 24 พ.ย. ที่เอ็มซีซีฮอลล์ เดอะมอลล์ บางกะปิ นิตยสารเทคโนโลยีชาวบ้าน บริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) ร่วมกับองค์กรหน่วยงานภาครัฐและเอกชน จัดงาน “มหัศจรรย์พันธุ์ข้าวมงคล พืชผลของพ่อ” เพื่อร่วมเทิดพระเกียรติและร่วมรำลึกพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช ในฐานะกษัตริย์นักพัฒนา และเพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรและชาวนาไทยร่วมน้อมนำแนวทางตามพระราชปณิธานมาใช้ในการพัฒนาระบบเกษตรกรรม และวิถีชีวิตเพื่อสร้างสุขอย่างยั่งยืนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

โดยงาน “มหัศจรรย์พันธุ์ข้าวมงคล พืชผล ของพ่อ” ได้จัดนิทรรศการ มหัศจรรย์พันธุ์ข้าว ทั่วไทย ที่จัดแสดงพันธุ์ข้าวหายากจากทั่วประเทศกว่า 199 สายพันธุ์ รวมถึง พันธุ์ข้าวมงคล 9 สายพันธุ์ ซึ่งเป็นพันธุ์ข้าวพระราชทานในพระราชพิธีจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ได้แก่ กข 31 กข 41 กข 47 กข 49 กข 6 ซิวแม่จ้น ปทุมธานี 1 สังข์หยด และ ดอกมะลิ 105 โดยงานจะมีถึงวันที่ 27 พ.ย.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศในงานวันแรก มี ผู้เข้าร่วมงานทยอยเข้ามาชมงานและจับจ่ายซื้อของอย่างต่อเนื่อง มีกิจกรรมที่ได้รับความสนใจ อาทิ สเปเชียลทอล์กหัวข้อ “ทางออกวิกฤตข้าวและชาวนาไทยอย่างยั่งยืน” สเปเชียลทอล์ก “ข้าวอินทรีย์ทางออกของปัญหาราคาข้าว” การเปิดตลาดขายข้าวจาดชาวนาสู่เมือง การสาธิตเมนูข้าวเด็ดสูตรเชฟดัง “ข้าวกล้องคลุกน้ำพริกมะอึกกับกุ้งหวานผักสด” และ“ไข่พระอาทิตย์” โดยเชฟพงษ์ศักดิ์ ทรงพระนาม

โดยตลอดทั้งวันมีประชาชนให้ความสนใจทยอยเดินทางเข้ามาเยี่ยมชมงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งไฮไลต์ของงานในแต่ละวันอยู่ที่การแจกพระบรมฉายาลักษณ์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวในพระบรมโกศพร้อมกับข้าวมงคล ซึ่งเป็นสายพันธุ์ที่พระองค์ท่านทรงเกี่ยวเป็นครั้งสุดท้าย และผ่านการปลุกเสกที่วัดพระศรีรัตนศาสดาราม โดยวันนี้ทันทีที่ตั้งโต๊ะเตรียมแจก มีประชาชนให้ความสนใจจำนวนมาก ต่อคิวเพื่อรอรับแจกยาวเหยียดก่อนเวลา แต่เพียงไม่ถึง 15 นาทีหลังจากเริ่มแจกพระบรมฉายาลักษณ์กับพันธุ์ข้าวมงคลก็หมดลง

ทั้งนี้เจ้าหน้าที่ของบริษัท มติชน จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า การแจกพระบรมฉายาลักษณ์และพันธุ์ข้าวมงคล จัดแจกให้กับประชาชนที่สนใจฟรีทุกวัน โดยพระบรมฉายาลักษณ์แจกวันละ 1,000 แผ่น พันธุ์ข้าวมงคล วันละ 500 ถุง แต่ละวันแบ่งแจกวันละ 3 รอบ เวลา 11.00 น. 14.00 น. และ 17.00 น.

อีกทั้งมีกิจกรรมปาฐกถาพิเศษ สเปเชียลทอล์ก การสาธิตเมนูข้าวพระราชทาน เมนูขึ้นชื่อจากเชฟชื่อดัง รวมถึงการเปิดลานข้าวสาร ตลาดขายข้าวช่วยชาวนา 10 จังหวัด อาทิ สุรินทร์ สระแก้ว พะเยา กาญจนบุรี พัทลุง รวมถึงการจำหน่ายพันธุ์พืช สินค้าเกษตรและอุปกรณ์ตกแต่งสวน รวมถึงอาหารระดับ 5 ดาวจากผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดย่อม (เอสเอ็มอี) โดยงานจัดจนถึงวันที่ 27 พฤศจิกายน ตั้งแต่เวลา 10.30-20.00 น.

นายสมพร อิศวิลานนท์ นักวิชาการอาวุโส สถาบันคลังสมองแห่งชาติ กล่าวในเวทีเสวนา “ทางออกวิกฤตข้าวและชาวนาไทยอย่างยั่งยืน” ว่า วิกฤตสถานการณ์ข้าวขณะนี้ คือซัพพลายและดีมานด์ไม่สมดุลกัน เนื่องจากนโยบายข้าวไทย ในอดีตสนับสนุนการขยายตัวของการผลิตแต่ไม่มีตลาดรองรับที่เพียงพอ จึงทำให้เกิดภาวะโอเวอร์ซัพพลาย ราคาข้าวจึงตกต่ำ ในช่วงเวลา 2 ปีที่ ผ่านมา ไทยระบายข้าวได้ไม่เกิน 2 ล้านตัน ขณะที่มีสต๊อกข้าวสะสมถึง 8 ล้านตัน และหากพิจารณาในส่วนราคาข้าว พบว่า ข้าวสารไทยขายออกประมาณ 700 เหรียญสหรัฐ/ตัน สูงกว่าข้าวเวียดนาม ที่ส่งออกประมาณ 500 เหรียญสหรัฐ/ตัน หรือมีราคาสูงกว่า 30% ดังนั้น จึงเสียเปรียบ เนื่องจากมีต้นทุนที่สูงกว่า แม้ว่าคุณภาพข้าวหอมมะลิไทยจะดีกว่า แต่ข้าวเป็นสินค้าที่ทดแทนได้

“สำหรับนโยบายการชะลอการขายข้าวของรัฐบาลมองว่าจะช่วยเหลือเกษตรกรได้ในระยะสั้นๆ หรือช่วยรักษาระดับราคาได้ในระดับหนึ่ง ซึ่งคาดว่าอีกประมาณ 2-3 เดือนหลังจากนี้ ราคาข้าวเปลือกจะประมาณ 12,000-13,000 บาทต่อตัน แต่ในระยะยาวต้องมีการปรับโครงสร้างการผลิต การแปรรูป รวมถึงการปลูกพืชอื่นทดแทนในช่วงที่ไม่สามารถทำนาได้” นายสมพรกล่าว

ด้านนางขวัญใจ โกเมศ เลขาธิการมูลนิธิข้าวไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวในเวทีเดียวกันว่า ปัญหาสำคัญอีกประการที่ทำให้ไทยยังไม่สามารถแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำได้ คือ การขาดงานวิจัยเกี่ยวกับข้าว ทั้งๆที่เราทราบกันดีอยู่แล้วว่าจุดเด่นของข้าวไทยคือความหอมของข้าวมะลิ แต่ปัจจุบันเราไม่ทราบว่าความหอมหายไปจากกระบวนการผลิตส่วนไหน ดังนั้นจึงไม่ได้ทำให้แก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้จริง นอกจากนี้ก็ควรส่งเสริมการทำนาแปลงใหญ่ ให้สามารถปฏิบัติได้จริง เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชเกษตรชนิดอื่นด้วย เนื่องจากพื้นที่ทำนากว่า 80% เป็นพื้นที่นอกชลประทาน ดังนั้นปัจจัยสภาพภูมิอากาศจะมีผลอย่างมาก

สำหรับพิธีเปิดงานอย่างเป็นทางการของงาน “มหัศจรรย์พันธุ์ข้าวมงคล พืชผลของพ่อ” จะมีขึ้นวันที่ 25 พ.ย.นี้ เวลา 14.15 น. โดย ฯพณฯ อำพล เสนาณรงค์ องคมนตรี เป็นประธาน พร้อมปาฐกถาพิเศษเรื่อง “โครงการอันเนื่องมาจากพระราชดำริ ด้วยพระบารมี ชุบชีวีพสกนิกรไทย” จากนั้นในเวลา 14.45 น. จะเป็นพิธีมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณเกษตรกรผู้เดินตามรอยพ่อ 3 ท่าน ได้แก่ นายขวัญชัย รักษาพันธ์ ปราชญ์ข้าวอินทรีย์ นายณรงค์ สังขะโห เกษตรกรยางนาผู้เจริญรอยตามแนวทางในหลวง และนายสุธรรม จันทร์อ่อน เกษตรกรสวนเกษตรผสมผสานพอเพียงตามแนวเกษตรทฤษฎีใหม่