รัฐบาลเผยข่าวปีติ สมเด็จพระบรมฯทรงรับเป็นพระมหากษัตริย์ ขณะที่พรเพชร เตรียมนำประมุข 3 ฝ่าย ทั้งสนช. ประธานศาลฎีกา นายกฯ เข้าเฝ้าฯวันที่ 1 ธ.ค. ตามขั้นตอนสถาปนาแต่งตั้งพระรัชทายาทเป็นพระมหากษัตริย์ ตามมาตรา 2 ของรธน.ชั่วคราว 2557 ขณะที่สมเด็จพระบรมฯ เสด็จฯทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวาร ในหลวงในพระบรมโกศ สวรรคตครบ 50 วัน มหาเถรสมาคมมีมติทุกวัดทั่วโลกย่ำฆ้อง กลองระฆัง พร้อมเจริญชัยมงคลคาถา ให้พระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่

ภายหลังจาก นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสนช.แจ้งให้ที่ประชุมสนช.รับทราบถึงการดำเนินการตามมาตรา 2 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ.2557 ประกอบกับมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พ.ศ.2550 ตามมติครม.เรื่อง การสถาปนาแต่งพระรัชทายาท ตามที่พระมหากษัตริย์ ได้ทรงแต่งตั้ง สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร เป็นพระรัชทายาท ตามกฎมณเฑียรบาลว่าด้วยการสืบราชสันตติวงศ์ พ.ศ. 2467 เมื่อวันที่ 29 พ.ย. ที่ผ่านมานั้น

เมื่อวันที่ 30 พ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับขั้นตอนที่ประธานสนช.เข้าเฝ้าฯ เพื่อกราบบังคมทูลอัญเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นทรงราชย์ เป็นพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ ตามที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีฝ่ายกฎหมาย ระบุนั้น ล่าสุดเวลา 16.40 น. ทางสำนักงานเลขาธิการวุฒิสภายังไม่ได้รับหนังสือแจ้งจากทางสำนักพระราชวัง แต่ทั้งนี้ให้ติดตามการประชุมสนช.เพื่อพิจารณากฎหมายตามวาระปกติ ในวันที่ 1 ธ.ค. นายพรเพชร ในฐานะประธานฝ่ายนิติบัญญัติ อาจสั่งให้มีการเลิกประชุมเร็วกว่าปกติ หรือสั่งให้รองประธานสนช.ทำหน้าที่เป็นประธานแทน เพื่อเตรียมการเข้าเฝ้าฯ ในช่วงดึก พร้อมกับประมุข 3 ฝ่าย ประกอบด้วย นายกรัฐมนตรี ประธานสนช. ประธานศาลฎีกา และประธานองคมนตรี และผู้สำเร็จราชการฯ ภายในวันเดียวกัน

เมื่อเวลา 09.30 น. ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม กล่าวถึงสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) ประชุมวาระพิเศษอัญเชิญองค์รัชทายาทขึ้นทรงราชย์เป็นพระมหากษัตริย์รัชกาลที่ 10 ว่า ทุกอย่างมีขั้นตอนสำคัญ ซึ่งทราบว่าพระองค์ท่านทรงรับเป็นพระมหากษัตริย์แล้ว ฉะนั้นทุกอย่างถือว่าจบ

ด้านนายวิษณุ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า คงพูดได้เพียงหนเดียวเท่านั้น พูดหลายหนคงไม่ค่อยดีและคงไม่เหมาะ เท่ากับเป็นการไปย้ำ เพราะเวลาใกล้เข้ามาแล้วไม่ควรจะพูดอะไร

ผู้สื่อข่าวถามวันเข้าเฝ้าฯกราบบังคมทูลอัญเชิญขึ้นทรงราชย์ นายวิษณุกล่าวว่า เรื่องนี้คนที่ทราบดีที่สุดคือนายพรเพชร และอยู่ที่ว่าประธานสนช.กราบบังคมทูลไปอย่างไร เพราะเป็นหน้าที่โดยตรง

ผู้สื่อข่าวรายงานบรรยากาศบริเวณตลาดขายพระฉายาลักษณ์ ย่านท่าพระจันทร์ พบว่ามีประชาชนส่วนหนึ่งมาหาซื้อพระฉายา ลักษณ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร หลังจากที่ สนช.ประกาศจะกราบบังคมทูลเชิญขึ้นทรงราชย์

นางต้องจิต ปิ่นจันทร์ ผู้ดูแลร้านห้องภาพแฟชั่นคัลเลอร์แล็บ กล่าวว่า หลังจากที่มีประกาศออกมา ทางร้านนำพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ออกมาจำหน่ายให้ประชาชนหาซื้อนำไปบูชาเป็นวันแรก ปรากฏว่ามีประชาชนให้ความสนใจเข้ามาเลือกซื้อเป็นจำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่จะหาซื้อแบบมีในหลวงรัชกาลที่ 9 สมเด็จพระราชินี และสมเด็จพระบรมฯ อยู่ในภาพเดียวกันจะได้รับความนิยมเป็นพิเศษ

ที่แยกสะพานเฉลิมวันชาติ เขตพระนคร ซึ่งเป็นสถานที่จำหน่ายธงชาติและพระฉายาลักษณ์แห่งหนึ่งใน กทม. พบว่า มีหลายร้านนำพระฉายาลักษณ์ของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร มาตั้งโชว์และจำหน่ายให้กับประชาชน โดยมีลูกค้าจำนวนหนึ่งเริ่มเข้ามาหาซื้อไปเป็นจำนวนมาก

ขณะที่พนักงานขายของร้านบวรไตรรงค์ กล่าวว่า พระฉายาลักษณ์ที่มีอยู่นั้น เป็นของเก่าที่ร้านนำมาจำหน่ายในช่วงวันพระราชสมภพของสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมารอยู่ก่อนแล้ว แต่ในช่วงนี้มีลูกค้าเข้ามาสอบถามและต้องการจะนำไปบูชาก่อน ทางร้านจึงได้สั่งพิมพ์เพิ่มจากโรงงาน แต่ก็ไม่มากนัก โดยมีขนาด 15 X 20 และ 20X30 จำหน่ายในราคา 700-800 บาท ราคานี้รวมใส่กรอบอย่างสวยงามด้วย แต่หลังจากมีความชัดเจนในเรื่องการประกาศทางร้านก็จะสั่งพระฉายาลักษณ์ที่เป็นปัจจุบันมาจำหน่ายอีก

ด้านลูกค้าที่เข้ามาซื้อพระฉายาลักษณ์สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร รายหนึ่งกล่าวว่า ที่มาหาซื้อพระฉายาลักษณ์ดังกล่าวนี้ เพราะต้องการจะเก็บไว้ แม้ว่าจะไม่ได้ทรงเครื่องแบบเต็มยศก็ตาม เพราะต้องการเก็บแบบเก่าๆ อย่างนี้ หายาก หากประกาศอย่างเป็นทางการแล้วก็จะมาหาซื้อเก็บไว้อีก

สำหรับพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวารถวายพระบรมศพ วันที่ 1 ธ.ค. 2559 เลขาธิการพระราชวังรับพระราชบัณฑูรในสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร สั่งว่า พระบาทสมเด็จพระ ปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เสด็จสวรรคตจะบรรจบครบ 50 วัน ในวันที่ศุกร์ที่ 2 ธ.ค. 2559 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้กำหนดการทรงบำเพ็ญพระราชกุศล ดังนี้

วันที่พฤหัสบดี ที่ 1 ธ.ค. สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เสด็จพระราชดำเนินโดยรถยนต์พระที่นั่งจากพระที่นั่งอัมพรสถาน พระราชวังดุสิต ไปยังพระบรมมหาราชวัง

เวลา 17.00 น. เสด็จพระราชดำเนินเข้าพระที่นั่งดุสิตมหาปราสาท ทรงวางพวงมาลาของสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ และพวงมาลาส่วนพระองค์ แล้วทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยและเครื่องราชสักการะกราบถวายบังคมพระบรมศพ ชาวพนักงานประโคมมโหระทึก สังข์แตรฝรั่ง แตรงอน ปี่กลองชนะ ปี่พาทย์ ทหารกองเกียรติยศพระบรมศพถวายความเคารพ วงดุริยางค์บรรเลงเพลงสรรเสริญพระบารมี สมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระพุทธรูปประจำพระชนมวารที่หน้าพระแท่นมหาเศวตฉัตร พระสงฆ์ 30 รูป สวดพระพุทธมนต์ จบ เจ้าพนักงานนิมนต์พระสงฆ์ที่จะถวายพระธรรมเทศนาและสวดพระธรรมคาถาขึ้นนั่งยังอาสนะ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทรงธรรม พระราชาคณะถวายศีลและถวายพระธรรมเทศนา จบ พระ 4 รูปสวดธรรมคาถา แล้วทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรมบูชากัณฑ์เทศน์และทรงทอดผ้าไตร พระสงฆ์ทั้งนั้นสดับปกรณ์ ถวายอนุโมทนา เสด็จพระราช ดำเนินไปทรงจุดธูปเทียนที่เตียงพระสวดพระอภิธรรม เสด็จพระราชดำเนินกลับ

การแต่งกาย แต่งเครื่องแบบเต็มยศ ไว้ทุกข์ สายสะพายจุลจอมเกล้า หรือสายสะพายมงกุฎไทย

ส่วนพระราชพิธีทรงบำเพ็ญพระราชกุศลปัญญาสมวารถวายพระบรมศพ วันที่ 2 ธ.ค. 2559 การแต่งกาย แต่งเครื่องแบบครึ่งยศ ไว้ทุกข์

ที่อาคารสมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์ อ.พุทธมณฑล จ.นครปฐม พระพรหมเมธี โฆษกมหาเถรสมาคม (มส.) แถลงภายหลังการประชุมมส.ว่า ตามที่ประธานรัฐสภา ประกาศอัญเชิญ สมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณฯ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นทรงราชย์สืบราชสันตติวงศ์เป็นพระมหากษัตริย์ ให้ประชาชนได้ทราบโดยทั่วกันแล้ว ที่ประชุมมส.มีมติให้คณะสงฆ์เตรียมพร้อมดำเนินการหลังจากที่ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) เข้าเฝ้าฯเพื่อกราบบังคมทูลอัญเชิญสมเด็จพระบรมโอรสาธิราช เจ้าฟ้ามหาวชิราลงกรณฯ สยามมกุฎราชกุมาร ขึ้นทรงราชย์ และเมื่อพระองค์ทรงรับ ประธานสนช.จะแจ้งให้ประชาชนทราบ ในวันที่ 1 ธ.ค.

เมื่อได้ยินเสียงเพลงสรรเสริญพระบารมีจากการถ่ายทอดของโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทยแล้ว ขอให้ทุกวัดทั่วโลกย่ำฆ้อง กลองระฆัง พร้อมเจริญชัยมงคลคาถาโดยพร้อมเพรียงกัน ตามโบราณราชประเพณีที่สืบมา เพื่อถวายพระพรชัยมงคลและให้เกิดความเป็นสิริมงคลต่อประเทศชาติ

พระพรหมเมธี กล่าวต่อไปว่า นอกจาก นี้มส.ยังเห็นชอบคำถวายอติเรก คำถวายพระพรลา คำถวายพระพรเทศนา สำหรับสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวพระองค์ใหม่ โดยคำถวายอติเรก มีดังนี้ อติเรกวสฺสสตํ ชีวตุ,อติเรกวสฺสสตํ ชีวตุ,อติเรกวสฺสสตํ ชีวตุ ทีฆายุโก โหตุ อโรโค โหตุ,ทีฆายุโก โหตุ อโรโค โหตุ,สุขิโต โหตุ มหาวชิราลงฺกรณราชา,สิทฺธิกิจฺจํ สิทธิกมฺมํ สิทฺธิลาโภ ชโย นิจฺจํ,มหาวชิราลงฺกรณราชวรสสฺ ภวตุ สพฺพทา. ขอถวายพระพร ส่วนคำถวายพระพรลา มีดังนี้ ขอถวายพระพรเจริญพระราชสิริสวัสดิ์ พิพัฒน มงคลพระชนมสุขทุกประการ จงมีแด่ สมเด็จพระบรมพิตรพระราชสมภารพระองค์ สมเด็จพระมหาวชิราลงกรณ ธรรมมิกราชาธิราชเจ้าผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ เวลานี้สมควรแล้ว อาตมภาพทั้งปวง ขอถวายพระพรลาแด่สมเด็จพระบรมบพิตรพระราชสมภารพระองค์ ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ ขอถวายพระพร

โฆษกมส. กล่าวอีกว่า สำหรับคำถวายพระพรเทศนา มีดังนี้ “ขอถวายพระพรเจริญพระราชสิริสวัสดิ์พิพัฒนมงคลพระชนมสุขทุกประการ จงมีแด่ สมเด็จพระบรมบพิตรพระราชสมภารพระองค์ สมเด็จพระมหาวชิราลงกรณ ธรรมิกราชาธิราชเจ้า ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ บัดนี้จักรับพระราชทานถวายวิสัชนาใน…… ฉลองพระเดชพระคุณประดับพระปัญญาบารมี ถ้ารับพระราชทานถวายวิสัชนาไปมิได้ต้องตามโวหารอรรถาธิบายในพระธรรมเทศนา ณ บทใดบทหนึ่งก็ดี ขอพระเมตตาคุณ พระกรุณาคุณ พระขันติคุณ ทรงพระกรุณาโปรดพระราชทานอภัยแก่อาตมะ ผู้มีสติปัญญาน้อย ขอถวายพระพร”

ด้านนายประดับ โพธิกาญจนวัตร โฆษกพศ. กล่าวว่า ขอให้ทุกวัดเตรียมพร้อมจัดสถานที่เจริญชัยมงคลคาถา โดยทางสำนักเลขาธิการมส. จะแจ้งไปยังพศจ. เจ้าคณะจังหวัดทั่วประเทศ และพระธรรมทูตทั่วโลก ทั้งนี้หากวัดใดมีข้อสงสัยประการใดสามารถติดต่อมาได้ที่พศ.ส่วนกลาง โทร. 09-7956-5949 ,08-1846-2338,0-2441-4546

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน