จากกรณีฮือฮาแวดวงไฮโซ เมื่อ “ไฮโซฟ้า”นายฟ้าประทาน จิตตรัตน์เสนีย์ ทายาทนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ได้โพสต์รูปนาฬิกา Patek (ปาเต๊ะ) philippe รุ่น 7010G ราคาหลักล้านบาท บนข้อมือของหญิงสาว แล้วแคปชั่นแจ้งถึงคนถือครองนาฬิกาเรือนนี้ชั่วคราว โดยที่ไม่ได้รับความยินยอมจากเจ้าของกรรมสิทธิ์ที่แท้จริง ให้นำนาฬิกามาคืนภายในวันที่ 22 มิ.ย.นี้ มิเช่นนั้นจะแจ้งความดำเนินคดี และบอกด้วยว่าใครซื้อนาฬิกาเรือนนี้ไปก็ต้องโดนข้อหารับของโจร (อ่านข่าว ไอจีเดือด! ไฮโซหนุ่มหมื่นล้านโพสต์ทวงนาฬิกา”ปาเต๊ะ”เรือนละล้าน ฮึ่มไม่คืน-แจ้งจับแน่

ล่าสุดวันที่ 22 มิ.ย. “ไฮโซฟ้า”นายฟ้าประทาน ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีนี้ว่า ตนและฝ่ายหญิงได้คบหาดูใจกันแล้วสุดท้ายก็มีอันเลิกรากันไป ตนเป็นผู้ชาย ก็มีการให้ของเป็นเรื่องปกติ ตลอดเวลาที่ได้คบหาและอยู่ด้วยกัน ก็มีการช่วยเหลือกัน

นายฟ้าประทานกล่าวว่า ตรงจุดนี้ตนยอมรับว่าการช่วยเหลือทางบ้านฝ่ายหญิง เป็นเรื่องที่อยู่นอกเหนือการคบกันของคนสองคน พอตอนหลังที่มีการเลิกรากันไป ฝ่ายหญิงได้มีการโพสต์ข้อความต่อว่าลงในไอจี เฟซบุ๊ค และทวิตเตอร์ ทำให้ตนและครอบครัวเกิดความเสียหาย

“ผมก็อยู่เงียบๆมาตลอด เพราะถือว่าผมเป็นฝ่ายขอเลิกเอง กระทั่งมีเหตุการณ์ได้ตามมาอีกหลายๆเหตุการณ์ ฝ่ายหญิงและเพื่อนเขาได้มาสาดน้ำและปาถังน้ำแข็งใส่ผม ในวันเกิดของผมที่ได้จัดขึ้นในสถานที่แห่งหนึ่ง ผมมีหลักฐานเป็นคลิปวิดีโอยืนยันเหตุการณ์ในวันนั้นได้ ผมถือว่าเป็นการไม่ให้เกียรติผมเป็นอย่างมาก”นายฟ้าประทานกล่าว และว่า จุดที่ทำให้ต้องมีการทวงทรัพย์สินเกิดขึ้น เนื่องจาก ฝ่ายหญิงได้โพสต์ว่าถึงบุพการีของตน และธุรกิจทางบ้านในทางเสียหาย จึงทำให้มีการเรียกคืนทรัพย์สินในส่วนดังกล่าว

ไฮโซฟ้ากล่าวว่า ความจริงแล้ว ช่วงที่เราคบกันก็มีการเล่าให้ฟังเกี่ยวกับธุรกิจทางบ้าน ปัญหาเรื่องครอบครัวและการเงิน ซึ่งตนได้เข้าไปช่วยเหลือ และเต็มใจที่จะช่วยเหลือ ในส่วนของนาฬิกาปาเต๊ะเรือนนี้ที่เป็นทรัพย์สินที่ไปเกี่ยวข้องกับการช่วยเหลือในครั้งนี้ ตนถึงมีความจำเป็นที่ต้องทวงคืน ซึ่งตอนนี้เขาก็ยังไม่คืนนาฬิกาให้ตน

“ที่ผมทวงนาฬิกา เพราะในวันที่เลิกกัน ผมตัดสินใจที่จะยกทรัพย์สินบางส่วนให้ แต่ไม่ใช่ทั้งหมด ถ้าถามในแง่ของความรู้สึกตอนผมให้ผมก็หวังดี แต่ถ้าเลิกกันจะทะเลาะกัน ก็ให้มาด่ามาว่าแค่ตัวผมคนเดียว อย่ามาวุ่นวายกับบุพการีผม และธุรกิจของผม แบบนี้ผมถือว่าล้ำเส้น เลยคิดว่าคุณก็ไม่คู่ควรกับสิ่งที่ผมให้ไปในตอนนั้น”

นายฟ้าประทานกล่าวว่า ถ้าพูดถึงความถูกต้อง สิ่งที่ตนให้ไป ไม่ว่าจะเป็นทรัพย์สินและเงินทอง ตนให้ไปตั้งเยอะมาก แต่ตนก็ไม่เรียกคืน ตนเคยมอบนาฬิกาเรือนอื่นๆให้แก่ฝ่ายหญิงพร้อมใบเอกสารครอบครองสิทธิ์ไปเเล้ว และยังมีทรัพย์สินมูลค่าสูงๆชิ้นอื่นๆอีกมากที่ตนให้ไป แต่สำหรับนาฬิกาปาเต๊ะเรือนที่เป็นข่าวอยู่นี้ ตนไม่ได้มอบใบครอบครองนาฬิกาให้ตั้งแต่เเรก เนื่องจากตนไม่ได้จะยกเรือนนี้ให้เขาตั้งเเต่แรก

“ตอนนี้ผมแค่ติดใจที่ว่าเขาใส่นาฬิกาของผมอยู่ในข้อมือ ถ่ายรูปลงโซเชี่ยลมีเดีย แต่ในคอมเม้นต์ใต้รูปนั้น คุณกลับกล้าพิมพ์ข้อความก้าวก่ายถึงบุพการี และกิจการผมในทางที่เสื่อมเสีย ไม่ว่าจะโดยตรงหรือทางอ้อมก็ตาม มันเป็นการกระทำที่ไม่สมควรเท่าไหร่ครับ”

เมื่อถามถึงกรณีที่แม่ของฝ่ายหญิงระบุผ่านโซเชียลว่าไฮโซฟ้าได้ส่งชายฉกรรจ์ 3 คนบุกไปบ้านฝ่ายหญิง ไฮโซฟ้ากล่าวว่า อันดับแรกยอมรับว่าได้ส่งคนไปที่บ้านของฝ่ายหญิงจริง แต่ 2 คนนั้นเป็นผู้ช่วยของตนเอง อีกคนเป็นคนขับรถไป ซึ่งคนขับรถของตน เมื่อก่อนก็เคยให้ฝ่ายหญิงได้ใช้ขับรถรับส่งให้อยู่บ่อยครั้ง ซึ่งฝ่ายหญิงก็รู้จักเป็นอย่างดี

“ถ้าถามว่ามีการข่มขู่หรือไม่ ผมยืนยันว่าไม่มี มีการแสดงเจตนาดี แลกบัตรก่อนเข้าหมู่บ้าน และยืนยันว่าแม้แต่หน้าบ้าน รั้วบ้านก็ยังไม่ได้เข้าไปเลย”

เมื่อถามว่า จะมีการพูดคุยเจรจากับฝ่ายหญิงหรือไม่ ไฮโซฟ้ากล่าวว่า ตอนนี้ไม่ได้คุยมานานมากแล้ว ส่วนเรื่องของการไม่คืนนาฬิกาปาเต๊ะในกำหนดวันนี้ (22มิ.ย.) ให้เป็นเรื่องของทนายในการดำเนินการของตามกฎหมายไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน