‘แม่น้องการ์ตูน’ เหยื่อเมาขับ ตายทั้งเป็นคูณสอง กลุ้มถูกร.พ.ทวงหนี้เกือบ 2 ล้าน ซัดคู่กรณีตามหลอกหลอนไม่รู้จบ จากกรณีรถกระบะพุ่งชนร้านสเต็กย่านบางบอนเมื่อ 4 ปีก่อน ส่งผลให้ “น้องการ์ตูน” ได้รับบาดเจ็บสาหัส กลายเป็นผู้ป่วยติดเตียง คุณพ่อน้องการ์ตูนเสียชีวิต

ในด้านคดีตัดสินสิ้นสุดแล้ว แต่คู่กรณีไม่ได้ชดใช้เงินตามคำพิพากษา เหตุไม่มีทรัพย์สินให้ขายทอดตลาด เป็นบุคคลล้มละลาย ทั้งยังทำความเดือดร้อนให้ “ศรัญญา ชำหนิ” คุณแม่น้องการ์ตูน เหตุโดนร.พ.ฟ้องเรียกค่ารักษาแทนคู่กรณีสูงถึง 1.96 ล้าน จนต้องออกมาโพสต์ขอรับเงินบริจาคเพื่อนำไปจ่ายแทนคู่กรณี

ล่าสุดรายการโหนกระแส วันที่ 22 มิ.ย. “ดนยกฤตย์ แดงหวานปีสีห์” ดำเนินรายการแทน “หนุ่ม กรรชัย กำเนิดพลอย” ผลิตในนามบริษัท ดีคืนดีวัน จำกัด ออกอากาศทุกวันจันทร์-ศุกร์ เวลา 17.20 น. ทางช่อง 28 ได้เปิดใจสัมภาษณ์คุณแม่น้องการ์ตูน รวมทั้ง “ทนายสงกานต์ อัจฉริยะทรัพย์” คณะกรรมการปฏิรูปประเทศและความยุติธรรม

คุณแม่ตั้งหลักเดินหน้า 4 ปีที่ผ่านมาเรื่องคดีความเป็นยังไง?
แม่ : “ฟ้องร้องตามกระบวนศาล แม่ได้จ้างทนาย จบที่ศาลอุทธรณ์ เพราะศาลฎีกาแม่ยื่นแล้ว ศาลไม่รับฟ้อง ก็จบที่อุทธรณ์ อุทธรณ์ยืนตามศาลชั้นต้น ศาลตัดสินให้คู่กรณีจำคุก 1 ปี สั่งจ่าย 6 ล้านบาท”

6 ล้านที่คุณน้ำผึ้งต้องจ่าย แบ่งเป็น 3 ส่วน คือหนี้ ร.พ. 2 ล้าน ค่าสินไหม ค่าทุกข์ทรมาน 2 ล้าน และ 2 ล้านหลังเป็นค่ารักษาพยาบาลน้องในอนาคต ศาลสั่งแล้ว คุณน้ำผึ้งจ่ายมามั้ย?
แม่ : “ไม่ได้จ่ายเลยค่ะ เขาไม่ได้บอกว่าเพราะอะไร วันที่ศาลตัดสิน เขาถูกจำคุกไป แล้วก็ออกมา เราก็เริ่มปรึกษาทนาย เราติดต่อเขาไม่ได้ เขาเปลี่ยนเบอร์หลายครั้งมาก สืบทรัพย์จนพี่ทนายบอกว่าสืบแล้วไม่มีทรัพย์สิน”

แม่น้องการ์ตูน

เคยไปดูชีวิตคุณน้ำผึ้งมั้ยว่าเขาอยู่ยังไงบ้าง?
แม่ : “แม่ไม่ทราบเรื่องเขาเท่าไหร่ แต่เท่าที่มีคนมาบอกคือเขาก็ใช้ชีวิตปกติ กลับไปค้าขายเหมือนเดิม มีลูกเพิ่มอีกคน”

อาการน้องปัจจุบันเป็นยังไงบ้าง?
แม่ : “เหมือนผู้ป่วยติดเตียงทั่วไป ให้อาหารทางสายยาง เจาะคอ ขยับได้บ้าง จากที่ตอนแรกเขาไม่ขยับเลย ตาสองข้างมองไม่เห็น ตาบอดทั้งสองข้าง เป็นผลพวงจากรถชนนี่แหละค่ะ”

แม่เอาเวลาไหนดูแลน้อง?
แม่ : “ตอนนี้เปิดร้านสเต๊กร้านนึง ข้าวแกงร้านนึงแล้ วทำน้ำพริกขายในออนไลน์ ส่งทั่วประเทศ โชคดีที่คุณตาคุณยายเป็นเสาหลัก ฝึกมาจนทำได้ทุกอย่าง”

คุณแม่ก็ตระเวนทำมาหากิน เอาเงินมาเลี้ยง 4 ชีวิต ค่าใช้จ่ายไม่ได้เงินจากคุณน้ำผึ้ง ตั้งแต่ ก.ย.จนถึงตอนนี้ได้กี่บาท?
แม่ : “ค่าซ่อมร้าน เงินวางประกัน รวมแสนสี่ ค่าพยาบาลแค่ 6 เดือนที่นอนรพ.ตอนแรกก็สองล้านกว่า มีเขาไปจ่ายที่โรงพยาบาลน่าจะแสนสามแสนสี่ ที่เหลือเราก็เอาเงินของเราไปจ่ายด้วย”

ทนายสงกานต์-แม่น้องการ์ตูน

ตอนนี้รักษาน้องอย่างต่อเนื่อง หมดไปเท่าไหร่?
แม่ : “คร่าวๆ ก็ 3-4 ล้าน ตอนแรกได้เงินคุ้มครองจากระทรวงยุติธรรมแสนกว่าบาทแค่นั้น อย่างอื่นก็ทำมาหากิน ขายเสื้อ พวงกุญแจ แฟนเพจที่เขามาช่วย”

เปิดรับบริจาคมั้ยช่วงแรก?
แม่ : “ไม่เคยเปิดรับบริจาคค่ะ ยืนด้วยขาตัวเองมาตลอด”

กรณีร.พ.ฟ้อง?
แม่ : “ก่อนออกจากรพ. เขาให้ทำสัญญาว่าให้แม่จ่ายค่าร.พ. เดือนละ 8 หมื่น 24 เดือน ถ้าเดือนละพันสองพันเรายังพอหาจ่ายได้ ต้องหาเงินดูแลน้องอีก เงิน 8 หมื่นหายากมาก ต้องขายอะไรถึงจะได้ 8 หมื่น เราก็คุยกับทนาย เขาบอกว่ายอมให้ร.พ.ฟ้องเถอะ เพราะเราคงทำอะไรไม่ได้ เก็บเงินไว้รักษาลูกดีกว่า เอาน้องให้รอดก่อน ตอนนั้นย้ายกลับไปอยู่บ้าน เหมือนย้ายร.พ.มาที่บ้าน ต้องซื้อทุกอย่าง อุปกรณ์การแพทย์ มีเครื่องดูดเสมหะ เครื่องออกซิเจน เตียงคนป่วย อุปกรณ์ยิบย่อยเยอะ มันหลายอย่าง”

หนี้ตอนนี้เท่าไหร่?
แม่ : “หนี้รวมๆ 7 ล้าน รายได้ต่อเดือนไม่แน่นอน บางเดือนขายดีไม่เป็นไร บางเดือนขายไม่ดีก็ยืมเพื่อน กู้แบงก์บ้าง ไม่พออยู่แล้ว ต้องจ่ายทุกเดือน มันเป็นรายจ่ายที่ต้องจ่ายทุกเดือน ต้องหาให้ได้ทุกเดือน อุปกรณ์การแพทย์ใช้แล้วก็ต้องทิ้ง แล้วก็ต้องซื้อใหม่ เพราะไม่งั้นน้องจะติดเชื้อ”

“ถ้าติดเชื้อแล้วจะเรื่องใหญ่ มีครั้งนึงน้องป่วยฉุกเฉินรุนแรงมาก แพ้ยา ก็เสียค่าร.พ.เอกชน แต่เราไม่ได้ขอใครนะ ณ ตอนนั้นมันใกล้บ้านเราที่สุด ไม่ใช่ว่าเก็บได้ เดือนหน้าก็ต้องหาเท่าเดิม จะเป็นแบบนี้จนกว่าน้องจะไม่อยู่ เอาง่ายๆ”

ค่าร.พ. รักษาร.พ.เอกชนตลอด?
แม่ : “ไม่ค่ะ ทุกกวันนี้รักษารพ.รัฐบาล ใช้สิทธิ์คนพิการ ที่ส่งเอกชนเพราะน้องโคม่ามาก เลยต้องส่งเอกชนใกล้บ้าน”

ต่อเดือนค่ารักษาน้องอย่างเดียวเท่าไหร่?
แม่ : “ประมาณ 4-5 หมื่น เราไม่สามารถเคลื่อนย้ายน้องได้ ถ้าไปหาหมอต้องจ้างรถ”

ลำบากที่สุดตอนนี้คือ?
แม่ : “กลุ้มใจเรื่องหนี้ร.พ.เท่านั้น เรื่องอื่นเราผ่านมาได้ เราก็เฉยๆ เราขายของได้ เราอยากให้คนซื้อของเรา เพื่อเป็นการแลกกัน ไม่อยากให้มองว่าเรามาขอ”

เหมือนฝันสลายเรื่องเงิน 6 ล้าน
แม่ : “ไม่เรียกว่าเหมือนดีกว่า เรียกว่าคงไม่ได้แล้ว”

คุณน้ำผึ้งไม่มีเงินจ่ายคุณแม่ทำยังไงดีครับ ทนายสงกานต์?
ทนาย : “เพื่อให้ผู้ชมได้ประโยชน์จากเคสนี้ คุณแม่เกิดเหตุที่บางบอน ตำรวจดำเนินคดีกับคู่กรณี ขึ้นศาลหลักทั่วไป ถ้าชาวบ้านไม่รู้ ต้องไปจ้างทนายฟ้องแพ่ง แต่จริงๆ ตัวคุณแม่สามารถไปยื่นคำร้องต่อศาล ขอให้ศาลมีคำพิพากษาในส่วนแพ่งไปกับคดีอาญาได้เลย ตามมาตรา 44/1”

“นอกจากนี้หลังศาลมีคำพิพากษาแล้ว ก็ขอให้ศาลบังคับคดี ปรากฏว่าจำเลยไม่มีทรัพย์สิน อายุความ 10 ปี ก็รอจนกว่าเมื่อไหร่จำเลยจะมีทรัพย์สิน และยึดทรัพย์สินขายทอดตลาด แต่เชื่อเหลือเกินว่าเขาต้องรู้กฎหมาย ต้องมีทนายความ คงไม่ปล่อยให้ทรัพย์สินเป็นชื่อเขาแน่นอน คุณแม่ใจเย็นๆ สักวันจะต้องสืบทรัพย์จนได้ ตอนนี้สิ่งที่คุณแม่กระทำได้คือขอความเห็นใจทางร.พ.เอกชน ยอดรักษาเหลือเท่าไหร่ครับ”

แม่ : “ล้านเก้าค่ะ”

ทนาย : “สิ่งที่ทำได้คือขอความเห็นใจจากทางร.พ. คุณแม่ตัวคนเดียว ลูกอยู่สภาพนี้ จะเอาเงินไปผ่อนจ่ายยังไง เห็นว่ามีโนติสมาด้วย”

แม่ : “แรกๆ ให้จ่าย 8 หมื่นต่อเดือน 24 เดือนก็จบ แต่พอไม่มีเงินก็เงียบ จนมีจดหมายมาว่าจะฟ้องคุณยายจะฟ้องแม่แล้ว”

ทนาย : “ถึงเขาฟ้องในส่วนแพ่งเราก็สู้ อย่างน้อยได้สู้เต็มที่ แต่ถามว่าเรามีอะไรให้เขาบังคับคดี สิ่งที่จะทำได้ตอนนี้คือขอความเห็นใจกับทางรพ. และอยากให้กระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์เข้ามาดูแล อีกหน่วยก็กระทรวงสาธารณสุข ดูสิว่าจะมีงบประมาณในส่วนไหนช่วยเหลือได้ เพราะคุณแม่ไปเบิกเงินคุ้มครองสิทธิ์แล้ว 1 แสนบาท แล้วกระทรวงคมนาคมมาดูแลคุณแม่หรือยัง ความจริงเขามีเงินกองทุน ดูว่ากระทรวงคมนาคมจะช่วยอะไรได้บ้าง สิ่งที่ทำได้ตอนนี้คือขอความเมตตาจากภาครัฐ”ไปยึดทรัพย์คู่กรณีไม่ได้?
ทนาย : “ไม่ได้เลย ถ้าออกอากาศตอนนี้เดี๋ยวรู้ตัว มันต้องมีทาง แต่ตอนนี้อยากให้ภาครัฐเยียวยาเด็กที่นอนเหมือนผัก”

แม่ : “กระทรวงสาธารณสุขบอกว่าจะไปคุยกับร.พ.ให้ค่ะ”

ทนาย : “มันแค่วาจา ก็น่าสงสารนะ เลี้ยงลูกแบบนี้มันหนัก คุณแม่รู้สึกยังไง ตอนนี้หลายอย่างก็ถาโถม”

แม่ : “บอกตรงๆ ว่าเลยจุดเสียใจไปแล้ว ทุกวันนี้ทำอะไรก็ได้ที่จะดูแลลูกเราให้ดีที่สุด เราลำบากเราไม่ซีเรียส เราเคยสบาย มาลำบากอีกครั้งก็ไม่เป็นไร แต่อยากทำให้ลูกหาย ลูกไม่หายเรารู้อยู่แล้ว แต่เรายังให้กำลังใจ ทำให้มีความสุขได้ดูแลลูก จนกว่าน้องจะไม่อยู่แล้วนั่นแหละค่ะ”

ทนาย : “มันจี๊ด อยากเห็นภาครัฐ ไม่เห็นมีหน่วยงานไหนมาดูแลคุณแม่อย่างจริงจัง ขนส่งทำไมไม่มาดูแล เงินประมูลเยอะแยะ กระทรวงพัฒนาสังคมฯ ลองมาดูแลอย่างจริงจัง ภาครัฐยังไม่มาเลย จะได้เบาแรง ร.พ.ก็ขอร้องเลยนะครับ ผู้บริหาร เราเชื่อว่าร.พ.เอกชนแต่ละปีมีกำไร ให้คุณแม่เขาได้ลืมตาอ้าปากบ้าง เดือนนึงหมื่นกว่าบาทยังไม่ไหว นี่ 8 หมื่น”

สู้มา 4 ปีท้อมั้ย?
แม่ : “มองข้ามความท้อ จนเราไม่รู้สึกอะไรกับชีวิตแล้ว มันชินชา ต่อให้มีอะไรหนักกว่านี้ เราก็รับไป มันเป็นการเปลี่ยนแปลงชีวิตคน เรากับลูกเหมือนตายทั้งเป็น เราเหมือนตายทั้งเป็นคูณสอง”สาเหตุที่ออกมาโพสต์ล่าสุด?
แม่ : “ตอนนั้นที่รู้ข่าวว่าจะโดนฟ้องร้อง ก็มานั่งคิดว่าเรามีบ้านที่ติดแบงก์อยู่ ถ้าวันหนึ่งอายุความ 10 ปี เราถูกยึดทรัพย์ แล้วน้องการ์ตูนจะอยู่ที่ไหน ถึงมันไม่ใช่หนี้ที่เราก่อ แต่เราก็ทุกข์มาตลอด”

เคยไม่อยากอยู่?
แม่ : “ไม่เคยคิด เพราะลูกเรายังอยู่ เราต้องสู้”

ช่องทางไหนช่วยได้อีก?
ทนาย : “นอกเหนือจากร.พ.ที่คุณแม่เอาลูกไปรักษา ขนส่งทางบก สามกระทรวงสาธารณสุข สี่กระทรวงพัฒนาสังคมฯ อีกทางถ้าเราบอกรับบริจาคเลย มันก็พูดลำบาก คือถ้าใครอยากช่วยคุณแม่ก็ไปหาคุณแม่เพราะอยู่ร้านตลอด คุณแม่สูญเสียทั้งสามีอันเป็นที่รัก และลูกอยู่ในสภาพแบบนี้มันเจ็บปวด”

คุณแม่โพสต์เฟซบุ๊กอยากรับบริจาค?
แม่ : “ตอนที่โพสต์อยากปรึกษาในสิ่งที่ตัวเองสงสัยก่อน ก่อนเราไปคุยกับร.พ. เมื่อวานได้คุยกับร.พ. เขาก็บอกว่าให้เข้ามาคุยกัน อาจเคลียร์หนี้ให้มันซอฟต์ลง”

ทนาย : “ถ้าร.พ.จะฟ้องตอนที่แม่ล้มแล้วลุก ประชาชนก็เห็นแล้ว ถ้าฟ้องแล้วก็ประสานมาทางรายการเลย คนกำลังจมน้ำแล้วร.พ.จะฟ้องผู้หญิงตัวคนนึง แล้วลูกนอนติดเตียง สังคมจะได้รู้ คุณแม่ไม่ต้องกลัว เขาอยากฟ้อง ฟ้องไปไม่ต้องกังวล เมื่อเราไม่มี เราก็สู้ไป ไม่ต้องไปกลัว สังคมเป็นกำลังใจให้คุณแม่”

อยากฝากอะไรคู่กรณี?
แม่ : “แม่ไม่อยากพูดถึงเขาเลย ไม่อยากให้มาหลอกหลอนเราอีก 4 ปีเจ็บช้ำพอแล้ว เรื่องหลอกหลอนก็ไม่จบซะที หลอกหลอนจบไปเคสนึงแล้ว เรื่องร.พ.ก็มาหลอกหลอนอีก มันไม่จบซักที”

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน