มอบตัวแล้ว ผู้ต้องหาคดียาบ้า ยิงตร. สายสืบตาย ผวาถูกวิสามัญฯโร่พบตร.สภ.คลองหลวงตั้งแต่รุ่งเช้า เผยไม่ได้หลบหนีไปไหนไกล อยู่ในป่าข้างทาง จนกระทั่งตี 3 ออกมาขอน้ำกินแล้วกลับบ้าน พ่อกล่อมให้เข้ามอบตัว รับก่อเหตุยิงใส่สายสืบจริง เพราะตกใจถูกล่อซื้อยาบ้า

จากกรณีที่นายยงยุทธ หว่างไพรี ผู้ต้องหาครอบครองยาบ้า 2,000 เม็ดเพื่อจำหน่าย ใช้อาวุธปืนยิง จ.ส.ต.อาสาฬ เกตุจำปา อายุ 32 ปี ตำรวจชุดสืบสวนภูธรจังหวัดนนทบุรี เสียชีวิตขณะเข้าจับกุมภายในซอยคลองหลวง 24 ชุมชนคลองหนึ่ง ม.3 ต.คลองหนึ่ง อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี แล้วหลบหนีไปได้ เมื่อวันที่ 21 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ยิงตร. / ความคืบหน้าเมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 22 มิ.ย. พล.ต.ท.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบช.ภ.1 พล.ต.ต.อำนาจ จันทร์เจริญ รอง ผบช.ภ.1 หัวหน้าชุดคลี่คลายคดี พร้อมพล.ต.ต.สุระพงษ์ ถนอมจิต ผบก.ภ.จว.ปทุมธานี และชุดสืบสวนสอบปากคำนายยงยุทธ ผู้ต้องหา ค้ายาบ้ายิงตำรวจเสียชีวิตขณะเข้าจับกุม หลังติดต่อเข้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี เมื่อเวลา 04.00 น. ที่ผ่านมา เนื่องจากทนแรงกดดันของตำรวจที่ติดตามตัวไม่ไหว รวมทั้งหวาดกลัวว่าจะถูก วิสามัญฯ

พล.ต.ท.สุวัฒน์เปิดเผยว่า จากการสอบสวนนายยงยุทธรับสารภาพว่าได้ใช้อาวุธปืนขนาด .38ยิงจ.ส.ต.อาสาฬ เข้าที่หน้าอก 2 นัดจริง โดยอ้างว่าไม่รู้ว่าจ.ส.ต.อาสาฬเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ซึ่งขณะก่อนเกิดเหตุนาย ยงยุทธอยู่ในบ้าน ขณะที่สายของชุดสืบสวน บก.ภ.จว.นนทบุรี เข้าไปล่อซื้ออยู่หน้าบ้าน นายยงยุทธกำลังนำยาบ้า 2,000 เม็ด ออกมาให้ที่หน้าประตู ก่อนจะเห็น จ.ส.ต.อาสาฬวิ่งเข้าไป เพื่อจะแสดงตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่นายยงยุทธกลับชักอาวุธปืนยิงทันทีโดยไม่พูดพร่ำทำเพลง

 

จากนั้น วิ่งหลบหนีไปอยู่ในป่าแถวที่เกิดเหตุ จนกระทั่งเวลา 03.00 น. นายยงยุทธเดินออกมาจากป่าแถวที่เกิดเหตุ จากนั้นไปขอน้ำดื่มจากร้านขายของกิน ก่อนจะนำอาวุธปืนไปฝากนายแมนซึ่งเป็นเพื่อนสนิทที่อยู่ในซอย แล้วเข้ามาอาบน้ำกินข้าวที่บ้าน จากนั้นนายพยอม หว่างไพรี พ่อของนายยงยุทธ เกลี้ยกล่อมให้ลูกชายมามอบตัวกับตำรวจสืบสวน สภ.คลองหลวง และให้พี่สาวนั่งรถแท็กซี่มากับนายยงยุทธ เพราะกลัวว่าทางตำรวจจะวิสามัญฯ จึงชิงเข้ามอบตัว

ต่อมาเวลา 17.00 น.ที่ สภ.คลองหลวง พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. แถลงผลการจับกุมว่า ผู้ต้องหารายนี้เคยต้องโทษคดียาเสพติด และเพิ่งพ้นโทษได้ไม่นาน จากการสอบสวนนายยงยุทธรับสารภาพว่าใช้อาวุธปืนขนาด .38 ยิงจ.ส.ต.อาสาฬจริง แล้วหลบหนีเข้าป่าข้างทาง ทำให้ตำรวจกว่า 100 นายที่ออกค้นหาตามบ้าน และในชุมชนไม่พบตัว ก่อนตัดสินใจเข้ามอบตัวเพราะกลัวถูกวิสามัญฆาตกรรม จากนี้จะสืบสวนสอบสวนให้ครบทั้งหมด ว่ามีใครมีส่วนเกี่ยวข้องอีกบ้าง และจะดำเนินคดีให้ครบทุกคน แล้วประสาน ปปง.เพื่อยึดทรัพย์ต่อไป

จากนั้น พล.ต.อ.เฉลิมเกียรตินำตัวนายยงยุทธทำแผนประกอบคำรับสารภาพ 2 จุด ได้แก่ จุดที่ก่อเหตุยิงจ.ส.ต.อาสาฬจนเสียชีวิต และจุดที่นำยาเสพติดมาทิ้ง โดยระหว่างที่ทำแผนประกอบคำรับสารภาพก็มีประชาชนบริเวณโดยรอบมามุงดูเป็นจำนวนมาก

นายยงยุทธกล่าวว่า ที่ทำลงไปเพราะไม่ทราบว่าผู้ตายเป็นตำรวจ จึงอยากขอโทษทางครอบครัวของผู้ตายด้วย โดยสาเหตุที่ตัดสินใจมามอบตัวเพราะตนรู้สึกผิด

เบื้องต้นเจ้าหน้าที่แจ้งความทั้งหมด 4 ข้อหา ได้แก่ 1.มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 ไว้ครอบครองหรือจัดจำหน่าย 2.ฆ่าเจ้าหน้าที่ตำรวจขณะปฏิบัติหน้าที่ 3.มีเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และ 4.มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต ก่อนจะนำตัวนายยงยุทธไปฝากขังที่ศาลจังหวัดธัญบุรี ในวันที่ 23 มิ.ย.

ก่อนหน้านี้เมื่อเวลา 16.30 น. ที่ศาลา 3 วัดบางไผ่พระอารามหลวง ต.บางรักใหญ่ อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติเดินทางร่วมรดน้ำศพจ.ส.ต.อาสาฬ

พล.ต.ท.สุวัฒน์กล่าวว่า เบื้องต้นรายงาน ผู้บังคับบัญชาเพิ่มเงินเดือน 5 ขั้น เลื่อนยศอีก 4 ชั้นยศ พร้อมทั้งเงินสิทธิต่างๆ เงินสวัสดิการตำรวจ เงินกองทุนยาเสพติด เงินกองทุนภาค

ร.ต.พงษ์ศักดิ์ เกตุจำปา บิดา กล่าวว่า เมื่อกลางดึกที่ผ่านมาได้รับโทรศัพท์จากเพื่อนร่วมงานของลูกชาย บอกว่าให้ตนเองทำใจดีๆ นะ ก็นึกว่าลูกชายหนีงานไม่ยอมไปทำงานหนีไปเที่ยว แต่บอกว่าจ.ส.ต.อาสาฬ เกตุจำปา ลูกชายตนเองเสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่จับกุมคนร้าย ตนรู้สึกเสียใจ แต่ก็ภูมิใจในการทำงานของลูกที่เสียชีวิตในระหว่างปฏิบัติหน้าที่

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน