วันที่ 2 ธ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีผู้ใช้เฟซบุ๊กเพจรวมพลคนสมุย ชื่อว่า “Komsan Injun” โพสต์รูปภาพ เด็กผู้ชายคนหนึ่งสวมชุดกีฬาสีน้ำเงิน ในมือถือพวงมาลัยอยู่หลายอัน เดินไปตามถนนเลียบชายหาดเฉวง ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี เพื่อขายให้กับนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ พร้อมกับข้อความว่า “รบกวนหน่วยงานที่เข้าถึงเรื่องเด็กที่ขายพวงมาลัยถนนเส้นหาดเฉวง เกาะสมุย ได้มีการใช้วาจาในการเสียดสีถึงคนไทยบางกลุ่ม ขอหน่วยงานที่เข้าถึงตรวจสอบด้วยครับ #เคยมีข่าวกำจัดเด็กขายพวงมาลัยแล้วหนึ่งครั้ง แต่เวลานี้??????”

ซึ่งหลังโพสต์ดังกล่าวเผยแพร่ออกไปก็มีผู้เข้ามาแสดงความคิดเห็นจำนวนมาก เช่น “ลักษณะเด็กดูเหมือนเด็กไทย ทำให้คนต่างชาติคิดว่าเด็กไทย ทำให้ประเทศเราเสียชื่อเสียง”, “เมื่อไหร่จะจัดการให้หมดๆไม่รู้ รบกวนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาดูด้วย”, “ผมว่าปัญหานี้ต้องร่วมมือกันแก้ไข ไม่ควรโยนปัญหาไปให้เจ้าหน้าที่เพียงฝ่ายเดียว ประชาชนก็ต้องร่วมมือในทุกๆมิติด้วย ปัญหาจึงจะได้รับการแก้ไขแบบจริงจังซะทีครับ”

“รบกวนช่วยแนะนำได้มั้ยคะ ว่าจะให้ประชาชนแก้ไข ร่วมมือยังไง ส่วนตัวเองเคยจับเด็กมาต่อว่าสอบถาม เด็กไม่ยอมพูดอะไร ยืนกัดฟัน มันผลักเราเเล้ววิ่งไปหาฝรั่ง มีครั้งหนึ่งพาเพื่อนต่างชาติที่เพิ่งเคยมาไทยครั้งเเรกไปเที่ยว ประมาณเที่ยงคืนมีเด็กพวกนี้ทั้งหญิงชาย วิ่งคล้องพวกมาลัยขาย เพื่อนดราม่าใส่เรา ว่าทำไมเวลานี้ถึงปล่อยให้เด็กมาขายของตามที่ท่องเที่ยว (ฝรั่งเค้าคิดว่าเป็นเด็กไทยนะคะ) เราเคยโพสต์ลงเพจกระจกเงาด้วย และคุณบ่าววีมีอะไรจะเเนะนำมั้ยคะ ว่าเราต้องร่วมมือยังไง นี่ไม่ได้โยนปัญหาให้เจ้าหน้าที่ แต่นี่คือ”หน้าที่” ของเจ้าหน้าที่ไม่ใช่เหรอคะที่จะต้องมาดูแลและจัดการ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าหลังจาก พรบ.ควบคุมขอทาน ฉบับใหม่มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 28 ก.ค.59 ทำให้หลายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสนธิกำลังลงพื้นที่เกาะสมุย ปราบปรามกลุ่มขอทาน และเด็กขายพวงมาลัยต่างชาติ จนหมดไปจากเกาะสมุยอยู่หลายเดือน แต่หลังจากนั้นก็พบว่ากลุ่มขอทานและเด็กขายพวงมาลัยที่เคยถูกจับกุมไปแล้ว และพวกหน้าใหม่ๆ มีการลักลอบเข้ามาจากประเทศเพื่อนบ้าน กลับเข้ามายังประเทศไทยแล้วเข้ามาหากินในพื้นที่แหล่งท่องเที่ยวของเกาะสมุยเช่นเดิม

ก่อนจะมีการแบ่งแยกกันทำงาน โดยกลุ่มขอทานก็จะเป็นพวกหญิงชรามานั่งคนเดียว หรืออุ้มเด็กพิการทางสมอง และคนพิการแขนขาลีบ จะมานั่งตามริมทางเท้าถนนเลียบชายหาดเฉวงจุดที่มีนักท่องเที่ยวพลุกพล่าน และบางคนก็จะไปนั่งขอทานตามงานขายสินค้า โดยการเดินทางแต่ละครั้งก็จะมีคนไทย หรือรถจักรยานยนต์รับจ้างไปรับมาส่งตามจุดต่างๆ

ส่วนเด็กขายพวงมาลัยก็จะมีทั้งเด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิง อายุระหว่าง 5-15 ปี ซึ่งจะมีผู้ใหญ่ที่เป็นชาวเวียดนาม อาศัยจุดอับลับตาคน คอยนั่งร้อยพวงมาลัยให้กับเด็กพวกนี้เอาไปขาย การขายแต่ละครั้งเด็กพวกนี้จะมากันเป็นกลุ่ม จะเดินขายให้กับนักท่องเที่ยวตามถนน ร้านอาหาร สถานบันเทิงย่านหาดเฉวง และหาดละไม จะออกกันเป็นช่วงเวลาของทุกวันคือ 11.00 น.-13.00 น., 19.00 น.-21.00 น., และ 23.00 น.-02.00 น. ซึ่งได้สร้างปัญหาวุ่นวาย ก่อกวน สร้างความรำคาญให้กับนักท่องเที่ยว และเด็กบางคนยังแอบขโมยทรัพย์สินของนักท่องเที่ยวอีกด้วย ทำให้นักท่องเที่ยวเข้าใจผิดคิดว่าเป็นเด็กไทย จนสร้างความเสือมเสียชื่อเสียงให้กับประเทศ

ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้ให้ความสำคัญกับการแก้ไขปัญหาคนขอทาน ซึ่งส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของประเทศและเชื่อมโยงไปสู่ปัญหาการค้ามนุษย์ โดยได้กำชับให้กระทรวงพัฒนาสังคมฯ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ตำรวจ ฝ่ายปกครอง หรือองค์กรท้องถิ่น ที่มีหน้าที่บังคับใช้กฎหมายให้ดำเนินอย่างเด็ดขาด และแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนตามหลัก 3P ภายใต้แนวคิดให้ทานถูกวิธี ลดวิถีการขอทาน รวมทั้งรณรงค์ให้สังคมหยุดการให้เงินแก่คนขอทาน เพื่อตัดวงจรของการขอทานที่ส่วนหนึ่งมีการทำกันเป็นขบวนการ

ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นคนขอทานและคนไร้ที่พึ่ง สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่ศูนย์ช่วยเหลือสังคม OSCC โทร. สายด่วน 1300 ตลอด 24 ชั่วโมง

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน