บีทีเอส ประสานดีแทค-กสทช. ส่งทีมลงพื้นที่วันนี้ สอบหาตัวคนปล่อยสัญญานกวนเดินรถไฟฟ้า- ด้านบีทีเอส ยอมรับ 2 สถานีบีทีเอส ป่วนหนัก พร้อมพงศ์-สีลม
บีทีเอส / นายสุรพงษ์ เลาหะอัญญา กรรมการและผู้อำนวยการใหญ่สายปฏิบัติการบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ บีทีเอสเปิดเผยว่า สาเหตุที่ทำให้การเดินรถบีทีเอสมีปัญหาขัดข้องต่อเนื่องเกิดจากเคลื่นความถี่ที่ 2400 เมกกะเฮิร์ตที่บีทีเอสใช้สำหรับการเดินรถถูกรบกวนจากคลื่นความถี่บริเวณใกล้เคียง ที่มีการส่งสัญญานเข้ามาแรงผิดปกติจนส่งผลกระทบต่อการเดินรถ
ทั้งนี้เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงและหาแนวทางการแก้ไขปัญหาเร่งด่วน บีทีเอส ได้ประสานขอความร่วมมือไปยังบริษัท โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือดีแทค ผู้ให้บริการโทรศัพท์เคลื่อนที่บนคลื่นความถี่ 2300 เมกกะเฮิร์ต ซึ่งอยู่บริเวณที่ใกล้เคียงกับคลื่นความถี่ที่บีทีเอสใช้ และสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสชท.) ให้เข้ามาร่วมกันตรวจสอบจับหาสัญญานรบกวนและสาเหตุของปัญหาแบบเร่งด่วนแล้ว
โดยเมื่อช่วงเช้าของวันที่ 26 มิ.ย. ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ บีทีเอส ดีแทค และกสทช. ได้ลงพื้นที่ไปยังบริเวณสถานีรถไฟฟ้า เพื่อตรวจสอบระบบสัญญานรบกวนที่มีความแรงสูงนั้นว่ามาจากระบบใด และใครเป็นคนส่งสัญญาน ซึ่งก็พบว่าเมื่อเวลาประมาณ 6 โมงเช้า รถไฟฟ้าบีทีเอสเกิดปัญหาขัดข้องขึ้นอีก จึงได้มีการทดลองให้เจ้าหน้าที่จากค่ายมือถือ ปิดการใช้คลื่นความถี่ 2300 เมกกะเฮิร์ต ซึ่งก็ปรากฎว่าทำให้รถไฟฟ้าสามารถกลับมาเดินได้ตามปกติ
“ปกติคลื่น 2300เมกกะเฮิร์ต เป็นคลื่นสาธารณะที่ขอเข้ามาใช้ได้ แต่ระดับการส่งสัญญานคลื่นจะต้องอยู่ในระดับมาตรฐานที่ กสชท.กำหนด คือไม่ส่งสัญญานแรงเกินขนาดจนกระทบระบบอื่นๆแบบที่กำลังเกิดขึ้นกับบีทีเอส ซึ่งเรายังบอกไม่ได้ว่าใครปล่อยคลื่นรบกวน เพราะคลื่น2300 เมกะเฮิร์ตเป็นคลื่นสาธารณะ รวมทั้งการส่งสัญญานผ่านคลื่นนี้ก็ไม่ได้มีเฉพาะแต่สัญญานมือถือเท่านั้น อาจจะเป็นการส่งไฟล์วีดีโออื่นๆเพื่อยิงขึ้นไปบนจอแสดงผลก็ได้ โดยเฉพาะช่วงนี้เป็นช่วงถ่ายทอดบอลโลก ซึ่งหากมีการยิงสัญญารระยะไกลอยู่คนละตึกกัน ก็อาจทำให้ต้องใช้สัญญานแรงมากว่าปกติ”
นายสุรพงษ์กล่าวว่า ขณะนี้ บีทีเอส ดีแทค และ กสทช. เตรียมที่จะประชุมร่วม3 ฝ่าย เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงว่าใครเป็นคนปล่อยสัญญาฯรบกวน และจะหาทางแก้ไข ทั้งนี้ยอมรับว่าขณะนี้ สถานีรถไฟฟ้าของบีทีเอส 2 แห่งถูกสัญญานรบกวนอย่างหนัก คือ พร้อมพงศ์ และสีลม แต่พร้อมพงศ์นั้น สามารถบรรเทาปีญหาไปได้บ้างแล้ว
อย่างไรก็ตาม ปัญหาบีทีเอสขัดข้องช่วงนี้ไม่ได้ทำให้รถหยุดวิ่ง แต่รถจำเป็นต้องวิ่งช้าลงเหลือ 20 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ทำให้เกิดปัญหาขบวนรถล่าช้าราว10 นาที ทั้งนี้การเดินรถช้าลง ก็เพื่อให้การเดินทางเกิดความปลอดภัยกับผู้ใช้บริการ
