“รองผบ.ตร.-บิ๊กโจ๊ก”รุด จี้ฟัน”คนขับ-นายท้าย”

ทะเลภูเก็ตศพลอยเกลื่อน ทัวร์จีนตายสลด-สูญหาย 55 ชีวิต สาเหตุ จากคลื่นอันดามันสูงซัดถล่มแรงเรืออับปางจมทะเล 3 ลำรวด “ฟีนิกซ์ ไดวิ่ง” ขนนักท่องเที่ยวชาวจีนพร้อมลูกเรือ 105 ชีวิตจมก้นทะเล ยอดตายล่าสุดพบแล้ว 33 ศพ สูญหายอีก 23 ราย ระบุนับสิบศพขาดอากาศหายใจติดอยู่กับเรือ ระดมกำลังปภ.-ตำรวจน้ำ-ทัพเรือภาค 3 เร่งค้นหาด่วน ด้านกรมเจ้าท่าประสานนำเรืออีก 12 ลำที่ติดค้างบนเกาะกลับเข้าฝั่ง บิ๊กตู่สั่ง รมต. วีระศักดิ์ลงพื้นที่ด่วนดูแล-ช่วยเหลือ

ปภ.แถลงเรือล่มที่ภูเก็ต3ลำ

เมื่อวันที่ 6 ก.ค. นายชยพล ธิติศักดิ์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 ก.ค. เกิดอุบัติเหตุ เรือล่มจากฝนตกหนักและคลื่นลมแรงในจังหวัดภูเก็ต รวม 3 ลำ ผู้ประสบภัยรวม 148 คน ช่วยเหลือได้แล้ว 94 คน อยู่ระหว่างการค้นหาและช่วยเหลือ 53 คน แยกเป็น 1.เรือเจ็ตสกีล่มบริเวณเกาะราชา มีผู้ประสบภัยเป็นชาวรัสเซีย จำนวน 2 คน สามารถช่วยเหลือได้อย่างปลอดภัยแล้ว

2.เรือยอชต์(เซเนริก้า) ล่มบริเวณเกาะเฮ-เกาะไม้ท่อน มีผู้โดยสาร 39 คน ลูกเรือ 2 คน รวม 41 คน สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทั้งหมดแล้ว 3.เรือไดวิ่ง (ฟีนิกซ์) ล่มบริเวณเกาะเฮ มีผู้โดยสาร 93 คน ลูกเรือและไกด์ นำเที่ยว 12 คน รวม 105 คน สามารถช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้แล้ว 51 คน มีผู้บาดเจ็บ 10 ราย พบผู้เสียชีวิต 1 ราย นอกจากนั้นสูญหาย กำลังค้นหาอยู่

นายชยพลกล่าวว่า จ.ภูเก็ตได้จัดตั้งศูนย์บัญชาการฉุกเฉินที่ท่าเรืออ่าวฉลอง เพื่อปฏิบัติภารกิจค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย โดยขอรับการสนับสนุนเฮลิคอปเตอร์จาก ทรภ.3 ค้นหาทางอากาศ บินสำรวจและค้นหา ผู้ประสบภัย รวมถึงจัดขบวนเรือ ชุดปฏิบัติการ และนักประดาน้ำปฏิบัติการค้นหาบริเวณที่เรือล่มและค้นหาภายในเรือ ซึ่งได้กำชับศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 18 ภูเก็ต และสำนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดภูเก็ต สนับสนุนภารกิจการค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัยเรือล่มอย่างต่อเนื่อง

ผบ.ทร.สั่งทัพเรือภาค 3 ช่วย

พล.ร.อ.นริส ประทุมสุวรรณ ผบ.ทร. กล่าวถึงการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุเรือฟีนิกซ์ล่ม ว่าขณะนี้ได้สั่งการให้ทัพเรือภาค 3 ส่งเรือของกองทัพเข้าค้นหา และช่วยเหลือทันที 3 ลำ พร้อมเจ้าหน้าที่ และชุดดำน้ำจากหน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือหรือหน่วยซีล เร่งช่วยเหลือเพราะขณะนี้ยังมีผู้สูญหายเป็นจำนวนมาก

พล.ร.อ.นริสกล่าวว่า พอจะทราบตำแหน่งของเรือแล้ว โดยในช่วงเวลานี้ ขอให้ผู้ประกอบการเรือท่องเที่ยวหมั่นติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด ก่อนที่จะนำเรือออก เนื่องจากเรือโดยสารนั้นต้องรับผิดชอบคนเป็นจำนวนมาก อย่างไรก็ตาม กองทัพเรือได้เตรียมความพร้อมในการจัดเรือและเจ้าหน้าที่ หากเกิดเหตุเหมือนที่ผ่านมา

วีระศักดิ์บินด่วนประสานงาน

เมื่อเวลา 14.45 น. นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เปิดเผยว่า ตนได้ส่งรายงานให้พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช.ทราบเป็นระยะๆ และเมื่อทราบว่าตนกำลังจะเดินทางจากสนามบินดอนเมืองไปยังภูเก็ต จึงได้บอกกับตนว่าอย่างนั้นดีแล้วและขอให้ถือว่าเป็นผู้แทนของนายกรัฐมนตรีในการเดินทางไปภูเก็ตครั้งนี้

นายวีระศักดิ์กล่าวว่า เมื่อเดินทางถึงภูเก็ตจะได้เข้าพบกับผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต ซึ่งได้ประสานข้อมูลกันเบื้องต้นเรียบร้อยแล้ว และสถานที่ที่จะใช้เป็นหลักในการประชุมหารือคือที่สนามบินภูเก็ต และหากมีโอกาส ก็จะเดินทางไปเยี่ยมผู้ประสบภัย ผู้บาดเจ็บ อย่างไรก็ตามผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศ ไทยได้แจ้งให้ทราบว่าผู้ประสบภัยส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวที่ไม่ได้มาจากบริษัททัวร์ แต่เป็นกลุ่มที่เที่ยวเอง จึงไม่มีหัวหน้ากรุ๊ป

รมว.การท่องเที่ยวฯ กล่าวต่อว่า ขณะนี้ทางสมาคมธุรกิจท่องเที่ยวหรือ ATTA ช่วย 2 เรื่องคือจัดรถตู้เพื่อช่วยให้บริการสำหรับกิจกรรมนี้โดยเฉพาะ ระดมอาสาสมัคร ที่รู้ภาษาจีนจำนวนมาก เพื่อเข้าช่วยเหลือ ผู้ประสบเหตุจีน ที่มีเป็นจำนวนมากอีกทั้ง 100 กว่าคนนั้นสูญเสียหนังสือเดินทางและโทรศัพท์มือถือไปแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่จะพกเงินไว้ในโทรศัพท์มือถือ เนื่องจากเป็นเงินอิเล็ก ทรอนิกส์ เมื่อไม่มีมือถือเสียแล้วก็เท่ากับว่าเขาไม่มีระบบอะไรเลย ซึ่งก็ต้องตรวจสอบกันต่อไปว่าเราจะสามารถช่วยเหลือต่อไปได้อย่างไร จากการพูดคุยกับอุปทูตจีนขณะนี้ ทีมของจีนได้ไปตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนจีนที่ภูเก็ตแล้ว

ผวจ.ภูเก็ตเร่งค้นหาผู้สูญหาย

ความคืบหน้าล่าสุดเหตุการณ์เรือล่มนั้น เมื่อเวลา 05.30 น. นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต แถลงข่าวสรุปสถานการณ์ว่าได้รับรายงานผลการสืบสวนสอบสวนจากบก.ภ.ภูเก็ต ว่าได้รับข้อมูลดังนี้ ผู้เสียชีวิตเป็นชายชาวจีน 1 ราย บาดเจ็บ 11 ราย สาหัส 2 ราย บาดเจ็บเล็กน้อย 9 ราย และมีผู้สูญหาย 56 ราย ยังระดมทีมค้นหาอย่างต่อเนื่อง เรือเจ็ตสกีนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย 2 คน มีเรือประมง ช่วยเหลือได้ปลอดภัยแล้ว เรือเซเนริก้า มี นักท่องเที่ยว 35 คน ลูกเรือ 5 คน ไกด์ 1 คน ช่างภาพ 1 คน รวม 42 คน ที่ประสบเหตุพลัดตกเรือโดยสามารถช่วยเหลือลูกเรือและนัก ท่องเที่ยวได้ 40 คน ยังคงสูญหายอีก 2 คน คือนายอรุณ ฮาซันบิน ช่างเครื่องและนักท่องเที่ยวชาวจีน 1 คน ชื่อ นายซันหัวฟาง อายุ 30 ปี

ส่วนเรือฟีนิกซ์ ซึ่งมีผู้โดยสารรวม 105 คน แบ่งเป็นนักท่องเที่ยว 93 คน ลูกเรือและไกด์ 12 คน สามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวได้จำนวน 36 คน และช่วยเหลือลูกเรือได้ 12 คน รวมเป็น 48 คน โดยมีรายงานพบผู้เสียชีวิตสวมเสื้อชูชีพจำนวน 1 ราย บริเวณใกล้ๆ เกาะโหลน โดยสรุปยังคงเหลือนักท่องเที่ยวที่ยังไม่พบอีกจำนวน 58 คน

ทั้งนี้ ทางจังหวัดยังคงบูรณาการกับทัพเรือภาคที่ 3 ตำรวจน้ำและเรือประมง เพื่อดำเนินการค้นหาผู้สูญหายต่อไป โดยในขณะนี้การค้นหายังระดมเจ้าหน้าที่ดำเนินการค้นหาอย่างต่อเนื่องและในเช้าวันเดียวกันนี้ได้มีการนำเฮลิคอปเตอร์ของทัพเรือภาคที่ 3 ออกค้นหานักท่องเที่ยวที่ยังคงสูญหายอีก 58 คนต่อไป

เจ้าของเรือพร้อมรับผิดชอบ

นายนรภัทรกล่าวต่อว่า จังหวัดภูเก็ตได้พูดคุยและขอความร่วมมือจากน.ส.วรลักษณ์ ฤกษ์ชัยกาล เจ้าของเรือฟีนิกซ์ ให้ช่วยค้นหาผู้สูญหายที่ยังอยู่ในท้องทะเล ในส่วนของการดูแลผู้ได้รับบาดเจ็บและผู้เสียชีวิตจะต้องอำนวยความสะดวกให้กับผู้ประสบภัยอย่างเต็มที่ โดยเจ้าของเรือยินดีที่จะดูแลและอำนวยความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวที่ประสบภัยทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นการดูแลค่ารักษาพยาบาล หรือการชดเชยค่าประกันภัยจากเหตุการบาดเจ็บและเสียชีวิต พร้อมกันนี้หากญาติของ ผู้เสียชีวิตมีความประสงค์จะนำศพผู้เสียชีวิตไปประกอบพิธีทางศาสนาที่บ้านเกิด ทางบริษัทก็จะดำเนินการให้อย่างเต็มที่

ในส่วนของทัพเรือภาคที่ 3 ได้สนับสนุนเรือหลวงหัวหิน เรือ ต.992 เรือ ต.232 เรือหลวงล่องลมซึ่งเป็นเรือที่ใหญ่ที่สุด สนับสนุนเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงแบบที่ 4 ขึ้นค้นหา ผู้ประสบภัย ชุดปฏิบัติการพิเศษทัพเรือภาคที่ 3 พร้อมอุปกรณ์สนับสนุนการค้นหาผู้ประสบภัยที่คาดว่าจะติดอยู่ในเรือรวมทั้งหน่วยรักษาความปลอดภัยของทัพเรือภาคที่ 3

พบแล้ว 33ศพติดในเรือนับ 10 ราย

เมื่อเวลา 14.30 น. นายนรภัทร พร้อมด้วย พล.ร.ต.เจริญพล คุ้มราษี รองผบ.ทัพเรือ ภาคที่ 3 กองทัพเรือ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวความคืบหน้าการกู้ชีพกู้ภัยกรณีสถานการณ์เรือล่มในพื้นที่จังหวัดภูเก็ต ว่าในส่วนของเรือเซเนริก้า และเรือเจ็ตสกี ทีมกู้ชีพกู้ภัยช่วยเหลือผู้โดยสารและลูกเรือ จนได้รับความปลอดภัยแล้วทั้ง 2 ลำ รวม ผู้โดยสารและลูกเรือ 44 คน

สำหรับเรือฟีนิกซ์ซึ่งมีผู้โดยสารรวม 105 คน (แบ่งเป็นนักท่องเที่ยวชาวจีน 93 คน ลูกเรือและไกด์ 12 คน) การดำเนินการกู้ชีพกู้ภัยสามารถช่วยเหลือนักท่องเที่ยวและลูกเรือได้จำนวน 49 คน พบศพผู้เสียชีวิตแล้วจำนวน 33 ศพ และต้องดำเนินการค้นหาอีกจำนวน 23 คน

ทั้งนี้นายนรภัทรกล่าวว่าทีมกู้ชีพกู้ภัยจะวางเป้าหมายหลักทำการค้นหาในบริเวณซากเรือฟีนิกซ์เป็นจุดสำคัญ เพื่อหาผู้โดยสารที่ติดค้างในลำเรือให้ได้มากที่สุด ควบคู่กับการลาดตระเวนค้นหาในทะเลในรัศมี 10 กิโลเมตร และจะดำเนินการค้นหาอย่างต่อเนื่องทั้งทางอากาศ ทางน้ำ และทางบก จนกว่าจะพบ ผู้สูญหายทั้งหมด

ล่าสุด เจ้าหน้าที่พบซากเรือฟีนิกซ์จมอยู่ก้นทะเล พร้อมพบร่างผู้เสียชีวิตกว่า 10 ศพ แต่ยังไม่สามารถระบุจำนวนที่ชัดเจน เพราะยังไม่สามารถเข้าไปนำศพทั้งหมดออกมาได้

บิ๊กโจ๊กฟันคนขับ-นายท้ายเรือ

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ต. สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบช.ทท. กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจได้เรียกเจ้าของเรือทั้ง 2 ลำ มาสอบปากคำพูดคุยในเรื่องการเยียวยา พร้อมทั้งแจ้งให้ ผกก.สภ.ฉลอง ดำเนินคดีอาญากับคนขับเรือ และนายท้ายเรือ ฐานกระทำโดยประมาทเป็นเหตุให้ผู้อื่นเสียชีวิต ส่วนเรือที่กู้ขึ้นมาก็ยึดเป็นของกลาง กรณีนี้ถือว่าคนขับเรือไม่ฟังคำเตือนของกรมอุตุ นิยมวิทยา เรือเล็กห้ามออกจากฝั่ง แต่เรือขนาดกลางก็ควรระมัดระวังด้วย ไม่ควรฝ่าฝืนเพื่อหวังประโยชน์ส่วนตน เรื่องนี้ต้องดำเนินคดีทุกราย อย่างไรก็ตามวันนี้เวลาประมาณ 14.00 น. ตนจะเดินทางพร้อมกับตัวแทนจากสถานทูตจีน สถานทูตอเมริกา และสถานทูตรัสเซีย ประจำประเทศไทย ลงพื้นที่เยี่ยม ผู้ประสบเหตุที่ จ.ภูเก็ต โดยเวลา 16.00 น. จะพูดคุยกับเจ้าของเรือทั้ง 2 ลำ เพื่อหาทางเยียวยาผู้ประสบภัย ยืนยันว่าดำเนินคดีทุกราย เรือที่ประสบเหตุยึดเป็นของกลางทั้งหมด

พล.ต.ต.สุรเชษฐ์กล่าวอีกว่า สำหรับคนขับเรือ นายท้ายเรือจะอ้างไม่ได้ว่าอากาศปลอดโปร่ง เพราะกรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนแล้ว ไม่ใช่ตามใจนักท่องเที่ยวเพื่อประโยชน์ส่วนตน วันนี้ต้องดำเนินคดีสูงสุดให้เป็นเยี่ยงอย่างให้กับผู้ประกอบการทุกราย โดยตนจะพูดคุยหารือกับอธิบดีกรมเจ้าท่าว่ามีพฤติกรรมแบบนี้ สามารถเพิกถอนใบอนุญาตได้หรือไม่ พร้อมทั้งหารือกรมการท่องเที่ยวว่าจะมีการพักใช้ใบอนุญาตนำเที่ยวด้วยหรือไม่ เพราะมีผู้เสียชีวิต 1 คนก็มากพอแล้ว จะอ้างเหตุ สุดวิสัยคงฟังไม่ขึ้น ยืนยันไม่ได้ซ้ำเติมใคร

“บิ๊กอวบ-ศรีวราห์”ติดตามคดี

ที่ ศปก. ภ.จว.ภูเก็ต พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร.(ปป.) พล.ต.อ.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล (มค.) พล.ต.อ.เดชา บุตรน้ำเพชร (ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ) และพล.ต.ต.ธวัชชัย เมฆประเสริฐ ผบก.พฐก.พร้อมคณะได้เดินทางลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เรือล่ม พร้อมเรียกประชุม เพื่อปฏิบัติภารกิจให้ความช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสบภัยพิบัติทางทะเล เหตุเรือล่มบริเวณทะเลอันดามัน จ.ภูเก็ต โดยมี พล.ต.ท.สรศักดิ์ เย็นเปรม ผบช.ภ.8 พล.ต.ท. สาคร ทองมุนี ผบช.ทท.พร้อมด้วยหน่วยงานเจ้าหน้าที่ตำรวจที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมกันอย่างพร้อมเพรียง และมีพล.ต.ต.ธีระพล ทิพย์เจริญ ผบก.ภ.จว.ภูเก็ต ได้รายงานสรุปสถานการณ์ล่าสุดให้ทราบ

พล.ต.อ.ศรีวราห์ได้สั่งการในที่ประชุมเพื่อให้การช่วยเหลือดูแลความปลอดภัย และอำนวยความสะดวกแก่นักท่องเที่ยวที่ประสบอุบัติเหตุดังกล่าวเป็นไปด้วยความเรียบร้อย จึงได้สั่งการในที่ประชุมให้ บช.ภ.8 ประสานร่วมกับฝ่ายปกครองและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการ (ศปก.) ในพื้นที่ ที่เหมาะสม ในการประสานเข้าร่วมช่วยเหลือนักท่องเที่ยว จัดชุดช่วยเหลือร่วมมือกับหน่วยงานราชการอื่น รวมถึงภาคเอกชน และอาสาสมัคร จัดชุดสืบสวนหาข่าว และให้พนักงานสืบสวนสอบสวนให้ได้ข้อเท็จจริง แล้วดำเนินการตามอำนาจหน้าที่

สั่งขยายผลเอาผิดเรื่องอื่นด้วย

นอกจากนี้ ยังได้สั่งการ บช.ทท.และ สตม.ให้จัดหาล่ามแปล เพื่ออำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยว ให้ บก.รน.จัดเรือพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่ไว้คอยอำนวยความสะดวกแก่ เจ้าหน้าที่ และผู้ประสบภัย รวมถึงญาติ ผู้ประสบภัย ในเส้นทางส่งกลับและทางการแพทย์ และกำชับในที่ประชุมเรื่องการสอบ สวนให้เป็นไปตามมาตรฐานสากล ป้องกันปัญหาภายหลัง โดยให้ศพฐ.ก.เข้าไปตรวจสอบเรือที่ประสบภัยว่าถูกต้องหรือไม่ พร้อมทั้งการให้ประสานห้องเย็นเตรียมความพร้อมรองรับการเก็บศพ พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลต่อไป ในเบื้องต้นพนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อหาต่อพนักงานขับเรือ ข้อหาขับเรือโดยประมาททำให้เกิดอุบัติเหตุทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต และรอง ผบ.ตร.สั่งให้สืบสวนขยายผล หากพบว่ามีความผิดอื่นๆ ก็แจ้งข้อหาเพิ่มต่อไป

ต่อมารอง ผบ.ตร.พร้อมคณะได้เดินทางไปที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ อาคารท่าเทียบอ่าวฉลอง โดยเข้าพบ ผวจ.ภูเก็ต ในฐานะ ผู้บัญชาการเหตุการณ์ เพื่อส่งมอบเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าร่วมภารกิจช่วยเหลือนักท่องเที่ยว ที่ประสบภัยเพื่อประสานงานร่วมกัน

เจ้าท่าเร่งช่วยเรือค้างบนเกาะ

วันเดียวกัน นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม เปิดเผยว่า กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม แจ้งว่า ได้รับรายงานเกิดเหตุเรือล่มในพื้นที่ จ.ภูเก็ต เมื่อ วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ 1.เรือฟีนิกซ์ ประสบเหตุจมอยู่ทางด้านใต้ ห่างจากเกาะเฮ 1.5 ไมล์ทะเล (2.8 กิโลเมตร) มีผู้โดยสาร 93 คน ลูกเรือและไกด์ 12 คน รวมทั้งสิ้น 105 ราย ซึ่งทำการค้นหาและ ช่วยเหลือได้แล้วปลอดภัย 12 คนบาดเจ็บ 37 คน เสียชีวิต 21 คน ยังเหลือผู้ที่ค้นหาอีก 35 คน

2.เรือเซเรนาต้า มีผู้โดยสาร 39 คน ลูกเรือ 2 คน รวม 41 คน ช่วยเหลือได้ทั้งหมดแล้ว 3.เรือเจ๊ตสกี มีผู้โดยสาร 2 คน ช่วยเหลือได้ทั้งหมดแล้วและนำขึ้นที่ท่าเรือแหลมพันวา โดยสรุปมีผู้ประสบเหตุทั้งหมด 148 คน พบแล้ว 132 คน เสียชีวิตแล้ว 40 คน คงเหลือที่กำลังค้นหาอีก 49 คน ทั้งนี้ มีเรือค้างบนเกาะราชา 12 ลำ มีผู้โดยสาร 263 คน ซึ่งต้องรอดูสถานการณ์ คาดว่าจะขึ้นฝั่งได้ในวันที่ 7 ก.ค. หากคลื่นสงบ

นายกริชเพชร ชัยช่วย รองอธิบดีกรม เจ้าท่า ด้านมาตรฐานการขนส่งทางน้ำ กล่าวว่า จากการตรวจสอบเรือเกิดเหตุพบว่า ตัวเรือ คนขับเรือและเด็กประจำเรือ และมีใบอนุญาตถูกต้องและยังไม่หมดอายุ ซึ่งสาเหตุการเกิดเหตุจากการตรวจสอบเบื้องต้นเกิดจากอุบัติ เหตุคลื่นลมแรง ซึ่งได้แจ้งเตือนแล้ว แต่ก็ ไม่ถือว่าออกเรือโดยฝ่าฝืน เพราะเป็นเรือที่มีขนาดความยาวมากกว่า 10 เมตร ไม่อยู่ในกำหนดที่สั่งห้ามเดินเรือ

ผวจ.สรุปยอดตาย-สูญหาย 55 ราย

ที่ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ช่วยเหลือ ผู้ประสบภัยเรือล่ม ท่าเทียบเรืออ่าวฉลอง อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายวีระศักดิ์ โควสุรัตน์ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา พร้อมคณะ เดินทาง มาติดตามการความคืบหน้าการช่วยเหลือ นักท่องเที่ยวซึ่งประสบเหตุเรือฟีนิกซ์ล่ม โดยมี นายนรภัทร ปลอดทอง ผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต, พล.ร.ต.เจริญพล คุ้มราษี รองผู้บัญชาการทัพเรือภาคที่ 3 ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ พร้อมบรรยายความคืบหน้าสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยสรุปว่า หลังเกิดเหตุได้มีการบูรณาการความร่วมมือของทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องทั้งทัพเรือภาคที่ 3,กองทัพภาคที่ 4, ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต, ตำรวจน้ำ, ตำรวจท่องเที่ยว, ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย และหน่วยอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ออกระดมค้นหาทั้งช่วงกลางวันและกลางคืน

ทั้งนี้จนถึงเวลา 18.00 น.วันที่ 6 ก.ค. จากผู้สูญหายจำนวน 56 คน ขณะนี้พบแล้ว 33 ราย ในจำนวนดังกล่าว มีผู้เสียชีวิตจำนวน 32 ราย และรอดชีวิต 1 ราย คงเหลือนักท่องเที่ยวที่สูญหาย จำนวน 23 ราย และต้องยุติการค้นหาด้วยการดำน้ำชั่วคราว เนื่องจากเป็นเวลาค่ำและระดับน้ำลึกทำให้การค้นหาลำบาก ทั้งนี้อาจจะมีการปรับแผนและกู้เรือฟีนิกซ์ในวันที่ 7 ก.ค. เพื่อค้นหาผู้สูญหายที่เหลือ

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน