บ้านป่าแหว่งเริ่มปลูกหญ้าแล้ว! เผยสภาพพื้นที่ “บ้านป่าแหว่ง” หน้าดินถูกน้ำจากดอยสุเทพเซาะเสียหายทั่วทุกหลังหลังฝนตกต่อเนื่อง ขณะที่คนงานเร่งปูหญ้าและจัดสวนปลูกต้นไม้อย่างขะมักเขม้น ด้านภาคประชาชนเดินหน้าแฉหลักถูกผิดสัญญา ย้ำแค่ขอคืนพื้นที่ป่า

– เผยสภาพ บ้านป่าแหว่ง / วันที่ 18 กค 2561 รายงานจังหวัดเชียงใหม่แจ้งว่า ฝนที่ตกลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่งผลให้สภาพพื้นที่ในโครงการก่อสร้างบ้านพักข้าราชการตุลาการศาลอุทธรณ์ภาค 5 บนพื้นที่ป่าเชิงดอยสุเทพ ตำบลดอนแก้ว อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบริเวณบ้านพัก 45 หลัง ถูกน้ำจากดอยสุเทพ ไหลลงมาเซาะพื้นที่สนามหญ้า และสวนของบ้านพักเกือบทุกหลัง ทำให้เห็นร่องรอยความเสียหายของหน้าดินอย่างชัดเจน เพราะตั้งอยู่บนพื้นที่ลาดชัน ขณะที่พื้นที่โดยรอบที่โครงการที่ไม่มีต้นไม้เนื่องจากมีการปรับพื้นที่เพื่อการก่อสร้าง พบว่าสภาพหน้าดินถูกน้ำไหลลงมาเซาะจนเป็นร่อยรอยอย่างชัดเจนเช่นเดียวกัน โดยสภาพดังกล่าวถูกบันทึกภาพได้ล่าสุดวานนี้ (18 ก.ค.61) และพบด้วยว่าในพื้นที่โครงการยังมีคนงาน พร้อมเครื่องจักรเครื่องมือทำงานอยู่ โดยเฉพาะงานปลูกหญ้าและจัดสวนบ้านพักแต่ละหลัง

ด้านความเคลื่อนไหวของเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพนั้น รายงานข่าวแจ้งว่า ภายหลังจากที่ยังไม่มีการส่งมอบพื้นที่ให้ทำการฟื้นฟูทั้งที่สิ้นสุดสัญญาก่อสร้างเมื่อ 18 มิ.ย.61 และยังให้มีผู้เข้าไปอยู่อาศัยในอาคารชุด ซึ่งเป็นการผิดข้อตกลงร่วมกัน ขณะนี้ทางเครือข่ายได้มีการนำข้อมูลและการตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับโครงการดังกล่าวออกมาเปิดเผย ทั้งกรณีอาคารชุดที่อ้างว่าเป็นของข้าราชการชั้นผู้น้อย แต่จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่าน่าจะเป็นระดับผู้พิพากษา เห็นได้จากรถหรูที่จอดและขับเข้าออก รวมทั้งห้องพักแต่ละห้องล้วนเป็นห้องหรูหราระดับเพนต์เฮ้าส์ นอกจากนี้มีการตั้งข้อสังเกตด้วยว่าบ้านพัก 45 หลังนั้น ก่อสร้างผิดระเบียบสำนักงบประมาณหรือไม่ เพราะเมื่อปี 2557 ที่มีการทำสัญญากัน มีการกำหนดว่าบ้านพักข้าราชการระดับอธิบดีผู้พิพากษา มีเนื้อที่ไม่เกิน 155 ตารางเมตร แต่ดูแล้วน่าจะมีพื้นที่ไม่ต่ำกว่า 300 ตารางเมตร

นายธีระศักดิ์ รูปสุวรรณ ผู้ประสานงานเครือข่ายขอคืนพื้นที่ป่าดอยสุเทพ ย้ำว่า สิ่งที่ชาวเชียงใหม่เรียกร้องและต้องการในเวลานี้คือให้รื้อบ้านพัก 45 หลัง และอาคารชุด 9 หลัง ออกไปและทำการฟื้นฟูสภาพคืนพื้นที่ป่าให้ดอยสุเทพ เพราะหากยิ่งล่าช้าสภาพพื้นที่ยิ่งได้รับความเสียหาย โดยเห็นได้จากที่ในช่วงนี้ที่มีฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องจะพบว่าหน้าดินในพื้นที่โครงการที่ไม่มีต้นไม้ปกคลุมถูกน้ำไหลเซาะจนหน้าดินได้รับความเสียหาย ทั้งนี้ตั้งแต่แรกทางเครือข่ายมีข้อมูลเชิงลึกต่างๆ เกี่ยวกับโครงการนี้อยู่มากมาย ซึ่งอาจจะกระทบบุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง แต่ไม่เคยเปิดเผย อย่างไรก็ตามจากการที่ไม่มีการทำตามข้อตกลงที่สัญญากันไว้ จึงมีความจำเป็นที่จะต้องนำข้อมูลออกมาเปิดเผย และจะยกระดับขึ้นเรื่อยๆ ด้วย

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน