ลีน่าจัง บุกกองปราบ แจ้งความโค้ชเอก บุกรุกถ้ำหลวง ลั่นพ่อแม่หมูป่าต้องชดใช้!

เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 19 ก.ค. ที่กองปราบปราม นางลีน่า จังจรรจา หรือ “ลีน่า จัง” เดินทางเข้าพบ พ.ต.ท.ศราวุธ โชติสุวรรณ รองผกก.4บก.ป. เพื่อแจ้งความให้ดำเนินคดีกับ นายเอกพล จันทะวงษ์ หรือโค้ชเอก ผู้ฝึกสอนทีมหมูป่าอะคาเดมี่ และเป็น 1 ใน 13 คน ทีมหมูป่าที่ติดในถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน อ.แม่สาย จ.เชียงราย ในข้อหาบุกรุกอุทยานแห่งชาติ พร้อมนำหลักฐานเป็นแผ่นซีดี มามอบให้กับเจ้าหน้าที่เพื่อประกอบการพิจารณา

นางลีน่า กล่าวว่า วันนี้ตนนำหลักฐานเป็นคำให้สัมภาษณ์ของนายเอกพล หรือโค้ชเอก ในรายการเดินหน้าประเทศไทย ที่ออกอากาศไปเมื่อวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมา โดยได้เปิดเผยว่า ในขณะที่ทีมหมูป่ายังติดอยู่ในถ้ำก็ได้ใช้ก้อนหินเป็นอุปกรณ์ในการขุดเจาะผนังถ้ำเพื่อหาทางออก นอกจากนี้ ยังได้บุกรุกเข้าไปในถ้ำหลวง – ขุนน้ำนางนอน และยังมีการนำรถจักรยานเข้าไปจอดภายไว้ภายในถ้ำ โดยที่ไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าหน้าที่อีกด้วย ซึ่งกรณีดังกล่าวตนเห็นว่า กระทำความผิดหลายข้อหา ซึ่งบางข้อหาก็มีโทษจำคุกด้วย

ทั้งนี้ถึงว่าตนเองจะไม่ได้เป็นผู้เสียหาย แต่ความผิดดังกล่าวเป็นคดีอาญาแผ่นดิน จึงเข้ามาแจ้งความเพื่อดำเนินคดี ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจต้องดำเนินคดี จะละเว้นไม่ได้ ไม่ใช่ว่าเด็กเป็นอภิสิทธิ์ชน หรือเด็กเทวดา ส่วนเด็กที่อายุยังไม่ถึง 14 ปี ก็ไม่ต้องรับโทษตามกฎหมาย แต่ผู้ที่อายุเกินก็จะต้องถูกดำเนินคดี ส่วนทางพ่อ-แม่ของเด็กก็ต้องชดใช้ค่าเสียหายให้แก่แผ่นดินตามที่กฎหมายอีกด้วย

นางลีน่า กล่าวต่ออีกว่า ส่วนกรณีที่ตนถูกดำเนินคดี หลังจากเข้าไปถ่ายคลิปในถ้ำพระยานคร อุทยานแห่งชาติสามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ในข้อหาถ่ายทำคลิปโดยไม่ได้รับอนุญาต เช่นเดียวกันกับทีมหมูป่าและโค้ชเอกที่มีการบุกรุกเหมือนกัน ก็จะต้องถูกดำเนินคดีด้วยเพื่อให้เป็นมาตราฐาน เนื่องจากใช้กฎหมายฉบับเดียวกัน ทั้งนี้ ตนยืนยันในวันที่ตนเองเดินทางไปที่ถ้ำพระยานคร ก็ได้ซื้อตั๋วเข้าอุทยานฯอย่างถูกต้อง ส่วนกรณีการถ่ายคลิปนั้นตนเองไม่ได้ไปกล่าวหาใคร และไม่มีเจตนาเสียดสีเด็กทีมหมูป่า เพราะการกระทำดังกล่าว ตนเพียงต้องการที่จะช่วยโปรโมทการท่องเที่ยวเท่านั้น

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนของกองปราบฯ ได้สอบปากคำและตรวจสอบหลักฐานที่นางลีน่านำมามอบให้ไว้เป็นหลักฐาน พร้อมแนะนำว่าความผิดในคดีดังกล่าว น่าจะอยู่ในความผิดชอบของเจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม หรือ ปทส. จึงขอให้ไปพบพนักงานสอบสวนของปทส. ให้ดำเนินการต่อไป

ติดตามข่าวสด

ข่าวเด่นประจำวัน